Skip to main content
sharethis


ที่มาของภาพ: สำนักข่าวประชาธรรม


 


วานนี้ (10 ก.ค.) ที่บ้านธารแก้ว ม.พายัพ ถ.ห้วยแก้ว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชียงใหม่ พร้อมด้วยเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ และชมรมนักธุรกิจภาคเหนือเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวการจัดเวทีเสวนาวิชาการครั้งที่ 2 เรื่อง "แนวโน้มสถานการณ์ประเทศไทยหลังกรณีเขาพระวิหาร" ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 13 ก.ค.2551 นี้ ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างเวลา 11.30-18.00 น. โดยจะมีการเสวนาเรื่อง "เขาพระวิหารกับความรับผิดชอบของรัฐบาลไทย" มีวิทยากร ได้แก่ นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี., ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิจัย 9 สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และ นายประภาสิทธิ์ แก้วมงคล ผู้ช่วยนักวิจัยสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกจากนี้ มีการแสดงดนตรีโดย "หรั่ง ร็อคเคสตร้า"


 


 


ขอใช้สิทธิพลเมืองจัดเสวนา ระบุกลุ่มที่ฉาย ASTV ท่าแพ-สามกษัตริย์ไม่เกี่ยวข้องด้วย


นอกจากนี้ พันธมิตรฯ เชียงใหม่ และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ยังได้ออกแถลงการณ์ย้ำว่า การจัดเวทีเสวนาวิชาการในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน พร้อมแสดงท่าทียืนยันว่า พันธมิตรฯ เชียงใหม่จะจัดกิจกรรมทางการเมืองโดยใช้สิทธิเสรีภาพของพลเมือง ตามระบอบประชาธิปไตยด้วยการจัดเสวนาทางวิชาการ และการแสดงทางวัฒนธรรมในห้องประชุมเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้ความรู้ข้อมูลข่าวสารแก่สมาชิกในกลุ่มและต่อสาธารณชนอย่างรอบด้าน รวมทั้งสร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัย


 


เนื้อหาในแถลงการณ์ยังระบุว่า การจัดเวทีที่ประตูท่าแพ และลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ของ นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา นายกสโมสรสื่อมวลชนภาคเหนือแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมนักข่าวเชียงใหม่ และ "แอน" หรือ นางกัลยกรณ์ เจียมกิจวัฒนา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2551 ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับกิจกรรมของพันธมิตรฯ เชียงใหม่และพันธมิตรฯ ลำปาง รวมทั้งพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ


 


การจัดเวทีดังกล่าวเป็นการดำเนินการในนามของบุคคลทั้งสอง ที่เขาจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่มาร่วมเวทีโดยความบริสุทธิ์ใจ โดยที่พวกเขาจะมาอ้างว่าเป็น "พันธมิตรฯเชียงใหม่" ไม่ได้


 


อนึ่ง ก่อนหน้านี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ประชาชนกลุ่มหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ชุมนุมขับไล่ และปิดล้อมเวทีถ่ายทอดสด ASTV ที่จัดโดยนายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา นายกสโมสรสื่อมวลชนภาคเหนือแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมนักข่าวเชียงใหม่ ที่ลานประตูท่าแพ และลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น


 


ทำให้ พันธมิตรฯ เชียงใหม่ออกแถลงการณ์ระบุว่า จะไม่ทำกิจกรรมใดๆ ร่วมกับสมาคมนักข่าวเชียงใหม่ และสโมสรสื่อมวลชนภาคเหนือแห่งประเทศไทย และการเคลื่อนไหวของทั้งสององค์กรนี้จะไม่เกี่ยวข้องใดๆ "พันธมิตรเชียงใหม่" อีกต่อไป เนื่องจากทิศทางของสองสมาคมดังกล่าวมีแนวทางเป้าหมายและวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน


 


 






แถลงการณ์พันธมิตรเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ


กรณีการจัดเวทีเสวนาวิชาการครั้งที่ 2


เรื่อง "แนวโน้มสถานการณ์ประเทศไทยหลังกรณีเขาพระวิหาร"


 


ตามที่พวกเราในนามชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับพันธมิตรเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ จะจัดให้มีเวทีเสวนาวิชาการครั้งที่ 2 เรื่อง "แนวโน้มสถานการณ์ประเทศไทยหลังกรณีเขาพระวิหาร" ขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคม 2551 ณ ณ ห้องแกรนด์ภูคำ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน เราขอแถลงท่าทีดังนี้


 


1.เรา ขอยืนยันว่า พันธมิตรเชียงใหม่ จะจัดกิจกรรมทางเมืองโดยใช้สิทธิเสรีภาพของพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ด้วยการจัดเสวนาทางวิชาการและการแสดงทางวัฒนธรรมในห้องประชุมเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร สร้างความรู้ ความเข้าใจในสถานการณ์บ้านเมืองแก่สมาชิกภายในกลุ่มและต่อสาธารณชนอย่างรอบด้าน รวมทั้งสร้างความมั่นใจในการดูแลด้านความปลอดภัยแก่ผู้เข้าเวทีอย่างรัดกุม


 


2.เรา ขอประกาศว่า การจัดเวทีที่ประตูท่าแพและลานสามกษัตริย์ของนายเทอดศักด์ เจียมกิจวัฒนา นายกสโมสรสื่อมวลชนภาคเหนือแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมนักข่าวเชียงใหม่ และคุณแอนหรือ นางกัลยกรณ์  เจียมกิจวัฒนา เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับกิจกรรมของพันธมิตรจังหวัดเชียงใหม่และพันธมิตรลำปาง รวมทั้งพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ การจัดเวทีดังกล่าวเป็นการดำเนินการในนามของบุคคลทั้งสอง ซึ่งเขาจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่มาร่วมเวทีโดยด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยพวกเขาจะมาอ้างว่าเป็น "พันธมิตรเชียงใหม่" ไม่ได้


 


3.เรา ขอชี้แจงว่า โทรศัพท์มือถือ เบอร์ 083-xxx-xxxx ที่พวกเขาชอบอ้างว่าเป็นเบอร์กลางของพันธมิตรเชียงใหม่ ความจริงแล้วเป็นเบอร์ของบุคคลทั้งสองและจะอ้างว่าใช้ในนามพันธมิตรเชียงใหม่ไม่ได้ เบอร์ประสานงานกลางที่แท้จริงของพันธมิตรเชียงใหม่ คือ หมายเลข 083-xxx-xxxx เท่านั้น


 


4.เราขอยืนยันว่า การทำกิจกรรมในนาม "กลุ่มพันธมิตรเชียงใหม่" ตามเป้าหมายการรวมกลุ่มของพลเมือง ในการสร้างการเมืองภาคประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างจริงในการร่วมมือกันกำหนดการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสังคมให้เกิดความเป็นธรรมถึงที่สุด เราจะร่วมกันสร้างการเมืองใหม่ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเปิดเผยและโปร่งใส สร้างเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนทั้งเนื้อหาทางการเมืองและวิธีการ รวมทั้งเงินบริจาคได้รับการอุดหนุนจากสมาชิก เราจะได้ชี้แจงการใช้จ่ายอย่างละเอียดชัดเจน ในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม นี้ เพื่อให้เงินทุกบาททุกสตางค์ถูกนำไปใช้ในการทำกิจกรรมเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคมให้เป็นประชาธิปไตยตามเป้าหมายของผู้บริจาคอย่างแท้จริง


 


เรา ขอยืนยันว่า การใช้สิทธิเสรีภาพทางเมืองเพื่อจัดเวทีเสวนาทางวิชาการของพันธมิตรเชียงใหม่ เป็นสิทธิเสรีภาพของพลเมือง ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องอำนวยความสะดวกดูแลรักษาความปลอดภัยให้ดำเนินกิจกรรมดังกล่าวเป็นไปอย่างเรียบร้อยและป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามสิทธิของพลเมืองต่อไป


 


ด้วยความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย


แถลงโดยพันธมิตรเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ


10 กรกฎาคม 2551 ณ บ้านธารแก้ว ม.พายัพ เชียงใหม่


 






กำหนดการ


เวทีเสวนาวิชาการ ครั้งที่ 2


เรื่อง "แนวโน้มสถานการณ์ประเทศไทยหลังกรณีเขาพระวิหาร"


วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2551 ณ ห้องแกรนด์ โรงแรมเชียงใหม่ ภูคำ อ.เมือง จ.เชียงใหม่


 


11.30-12.15 น.               ลงทะเบียน ฉายวีดีทัศน์


12.15-12.45 น.               รำกลองสะบัดชัยและรำอธิษฐาน                 


12.45-13.00 .               กล่าวต้อนรับและชี้แจงเป้าหมายการจัดเวทีเสวนาทางวิชาการ


โดย คุณชมพูนุท โทสินธิติ


ประธานชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดเชียงใหม่


13.00-16.00 น.              เสวนา เรื่อง  "เขาพระวิหารกับความรับผิดชอบของรัฐบาลไทย"


วิทยากรโดย คุณกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี


                                    ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิจัย 9 สถาบันไทยคดีศึกษา ม.ธรรมศาสตร์


คุณประภาสิทธิ์ แก้วมงคล ผู้ช่วยนักวิจัยสถาบันไทยคดีศึกษา ม.ธรรมศาสตร์


                                    คุณพิเชษฐ์ พัตนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา


ดำเนินการเสวนาโดย         ตัวแทนพันธมิตรเชียงใหม่


 


16.00 - 17.30 น.             แสดงดนตรี โดย คุณชัชชัย สุขขาวดี หรือ หรั่ง ร็อคเคสตร้า


17.000 -18.00 น.            สรุปปิดการเสวนา


 


 


เตรียมตำรวจ ทหาร พร้อมทนายดำเนินการหากมีใครก่อกวน


นางชมพูนุท โทสินธิติ ประธานชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการจัดเวทีเสวนาวิชาการครั้งที่ 2 ของพันธมิตรฯเชียงใหม่ ว่า เป็นการจัดเวทีเสวนาวิชาการภายในห้องประชุม ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน


 


ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว หากจะมีความพยายามจากผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนคุกคามการจัดการเสวนาในครั้งนี้ เช่น ทำให้เสียทรัพย์ ทำให้ตกใจ หรือปิดล้อม เป็นต้น โดยได้มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ให้มาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย รวมทั้งมีการจัดเตรียมทีมงานทนายความ ที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่มาก่อกวนคุกคามให้ถึงที่สุดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง


 


 


วอนอย่าขัดขวางเพราะเป็นการเวทีประชาธิปไตย


ด้านนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด คณะทำงานพันธมิตรฯเชียงใหม่ กล่าวว่า จนถึงเวลานี้ในเบื้องต้นยังไม่พบว่าจะมีการก่อกวนการจัดการเสวนาในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีผู้ที่พยายามสร้างสถานการณ์ว่าจะมีการก่อกวนขึ้น ทั้งนี้ ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในการรักษาความปลอดภัยไว้แล้ว ซึ่งหวังว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีไม่ให้มีความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้นเหมือนการจัดเวทีเสวนาในครั้งแรก


 


ส่วนกรณีที่มีผู้ต่อต้าน จะยื่นหนังสือถึงทางโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ เพื่อไม่ให้พันธมิตรฯจัดกิจกรรม นายสุริยันต์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นเวทีประชาธิปไตย ซึ่งไม่น่าจะมีการขัดขวางกันเหมือนกับที่พันธมิตรฯ เชียงใหม่ก็ไม่เคยพยายามไปขัดขวางการจัดกิจกรรมเวทีอื่นๆ ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน


 


การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ก็ได้ยืนยันกับทางโรงแรมแล้วว่า จะจัดเฉพาะในห้องประชุมเท่านั้น ทั้งนี้หากพบว่าหนังสือที่ยื่นถึงโรงแรมที่พันธมิตรฯ ของเช่าสถานที่จัดกิจกรรมมีข้อความใดที่มีลักษณะเป็นการข่มขู่คุกคาม ก็อาจจะต้องมีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อไป


 


คณะทำงานพันธมิตรฯ เชียงใหม่ ย้ำด้วยว่า กิจกรรมของพันธมิตรฯ เชียงใหม่จะเน้นการจัดเวทีเสวนาวิชาการ เพื่อให้ความรู้ข้อมูลข่าวสารเป็นหลัก โดยที่เวลานี้ยังไม่มีแนวความคิดที่จะรวมตัวกันไปขับไล่รัฐมนตรี ที่เดินทางลงมาในพื้นที่เหมือนกับพันธมิตรฯในจังหวัดอื่นๆ แต่อย่างใด


 


 


ออกบทความ "วิธีดัดหลังม็อบเติมเงิน"


ในวันนี้ (11 ก.ค.) หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์ ได้เผยแพร่บทความ "วิธีดัดหลังม็อบเติมเงิน" เขียนโดยนายบัณรส บัวคลี่ ผู้สื่อข่าวอาวุโสและคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โดยมีเนื้อหาเสนอวิธีการรับมือหากมีฝ่ายตรงข้ามจัดม็อบมาป่วนการชุมนุมของพันธมิตรฯ 10 วิธี


 


"ข้อปัญหาที่พันธมิตรเชียงใหม่ขบคิดคือ การส่งมวลชนจัดตั้งมาป่วน แบบที่เคยทำกับเวทีปราศรัยประชาธิปัตย์ หรือที่ อุดรฯ สกลนคร จึงได้มีแนวทางแก้ปัญหา โดยยึดหลักข้อกฎหมายเป็นที่พึ่ง และอาศัยอำนาจของเทคโนโลยีการสื่อสาร มาช่วย" ตอนหนึ่งของบทความระบุ โดย 10 วิธีที่นำเสนอได้แก่


 


"หนึ่ง - จัดในสถานที่ปิด ในทางกฎหมายถือว่าเป็นเจ้าของสิทธิในสถานที่ หากมีใครบุกรุก เข้ามาป่วน ผู้จัดมีอำนาจโดยชอบที่จะขับไล่ หรือ ดำเนินการใด ๆ ซึ่งได้เปรียบในข้อกฎหมาย


 


สอง - จัดในช่วงกลางวันคือตั้งแต่ 11 โมงจนถึงเย็น เพื่อให้มีแสงสว่างชัดเจน ใครมาป่วนกี่คน ใครทำอะไรบ้าง ทั้งคำพูด วาจา หรือการกระทำ จะบันทึกเทปโทรทัศน์ได้ชัดเจน เพื่อจะนำเป็นหลักฐานดำเนินการได้หากมีเหตุไม่ควรขึ้นมา โดยมีการจัดเตรียมกล้องโทรทัศน์เอาไว้ทั้งภายในที่ประชุม และภายนอก


 


สาม - ประสานงานล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเรามีวัตถุประสงค์เพื่อเสวนาทางวิชาการ และกังวลว่า จะมีเหตุจากกลุ่มมวลชนอีกฝ่ายหนึ่ง โดยใช้หนังสืออย่างเป็นทางการ หากมีเหตุขึ้นมา เจ้าหน้าที่จะอ้างไม่ได้ว่าไม่รับรู้


 


สี่ - กรณีเกิดเหตุมวลชนฝ่ายตรงกันข้ามทำร้าย ทำให้เสียของ กดดันข่มขู่ ทั้งกายหรือวาจา หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการ ให้ยึดคดี "โอ๋ สืบ 6" เป็นแนวทาง เพื่อจะเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ให้บันทึกภาพการดำเนินการของม็อบเติมเงินอย่างละเอียด เพื่อจะแจ้งจับดำเนินคดีทางอาญา


 


ห้า - ใช้มาตรการกฎหมายคดีแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินสด โดยจะเรียกหนักเบาลดหลั่นไปตามน้ำหนักของเหตุ เช่น การทำร้ายร่างกาย การทำให้เสียทรัพย์ การละเมิดสิทธิ์ การคุกคามให้เกิดความตกใจ ฯลฯ ตัวอย่างเช่น มีผู้ร่วมประชุม 500 คน หากเห็นว่าถูกคุกคามละเมิดสิทธิ์ มีการใช้กำลังคนข่มขู่ให้เกิดความตกใจดำเนินการตามสิทธิ์ที่จะฟังสัมมนาไม่ได้ ทั้งเสียเงินค่ารถมาแล้ว พันธมิตรผู้มาร่วมฟังทั้ง 500 คน เป็นโจทย์ให้ทนายความฟ้องร้องค่าเสียหายคนละ 500 บาท ต่อแกนนำม็อบเติมเงิน รวมเป็นเงิน 2.5 แสนบาท หากมีผู้ก่อการหลายคน ให้แยกฟ้องเรียงตัว


 


กรณีเช่นนี้เป็นการดัดหลังม็อบเติมเงิน ได้มาหลักร้อย แต่เสียหลักแสน


 


หก - กรณีแกนนำฝ่ายตรงกันข้ามใช้การยุยงปลุกปั่นผ่านวิทยุชุมชน เช่นที่ อุดรฯ หรือที่เชียงใหม่ ให้อัดเทปเสียงการปลุกปั่นดังกล่าวเอาไว้ตลอด เพื่อเป็นหลักฐาน


 


เจ็ด - พันธมิตรเชียงใหม่ มองว่า เรากำลังมองไปข้างหน้า มองไปที่การสร้างเครือข่ายพลเมืองเข้มแข็ง และมีคุณภาพ การเคลื่อนไหวใด ๆ จะเน้นไปที่ความสุภาพ เรียบร้อย เพราะยิ่งสุภาพเรียบร้อยปราศจากความรุนแรงเท่าใด ก็จะยิ่งทิ้งห่างจากม็อบอันธพาลเติมเงินมากเท่านั้น จะสามารถขยายแนวร่วมและผู้สนับสนุนไปในตัว ทั้งนี้จะพยายามขยายภาพเปรียบเทียบ ความสุภาพ กับ ความถ่อย เผยแพร่ออกสู่สาธารณะให้มากที่สุด


 


แปด - กรณีมีการบุกรุกเข้ามาในสถานที่จัดงาน ให้ถือเป็นการบุกรุกอันเป็นสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่ง สามารถป้องกันตัวเองได้ตามแก่เหตุ และจะได้เปรียบในทางกฎหมายในทุกกรณี โดยจะต้องจัดเตรียมการ์ดป้องกันตัวเองเอาไว้จำนวนหนึ่ง


 


เก้า - มีการประสานงานเครือข่ายผ่าน อีเมล์กรุ๊ป และ เอสเอ็มเอส. เพื่อแจ้งข่าวสารพันธมิตรที่ลงทะเบียนเอาไว้ และกำลังจะเริ่มระบบการประสานงานเครือข่ายในรูปอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้การสื่อสารระหว่างกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังป้องกันข่าวสารบิดเบือนต่าง ๆ เช่น มีผู้พยายามบิดเบือนข่าวให้ผู้รับสารเข้าใจผิด เอสเอ็มเอส. ผ่านจอ เอเอสทีวี. ก็จะได้รับรู้ข่าวสารทันการณ์


 


สิบ - เฉพาะเวทีเชียงใหม่ครั้งนี้ จะมีทีมงานจากสภาทนายความมาร่วมสังเกตการณ์ หากมีเหตุให้ช่วยเหลือพร้อมจะดำเนินการทางกฎหมายได้ทันที"


 


 


ล่าสุดย้ายที่จัด หลังมีผู้กดดันโรงแรม สถานที่จะแจ้งอีกครั้ง


ในบทความยังระบุว่า "พันธมิตรเชียงใหม่ กำหนดจัดงานเสวนาวิชาการ อนาคตการเมืองไทยหลังกรณีปราสาทพระวิหารตั้งแต่ 11.00 น. วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ โดยมีท่านทูต กษิต ภิรมย์, ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์, คุณ พิเชษฐ์ พัฒนโชติ คุณหรั่ง ร็อคเครสต้า และคุณสุนทรี เวชานนท์ ร่วมเวที


 


เดิมนั้นกำหนดจัดที่โรงแรมเชียงใหม่กรีนเลค เขาก็ขอยกเลิก พอมาขอที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ ก็ถูกกลุ่มเสื้อแดงไปกดดันเจ้าหน้าที่โรงแรม เขาเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อแขกเหรื่อขอยกเลิกอีกรอบ


 


แต่อย่างไรก็ตาม เวลานี้ทราบว่ามีการแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว แต่จะประกาศสถานที่จัดงานที่ชัดเจนในเช้าวันเสาร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นเดิม"


 


ตอนท้ายของบทความระบุไว้ว่าสถานที่จัดงานเวทีเสวนาพันธมิตรเชียงใหม่ จะประกาศผ่านอีเมล์กรุ๊ป และ เอสเอ็มเอสเครือข่าย ที่ได้ลงทะเบียนเอาไว้ และให้ดูจากข่าวผู้จัดการออนไลน์ หน้าภูมิภาคในวันเสาร์นี้ ขอเชิญผู้สนใจมาร่วมเวที และร่วมลงชื่อถอดถอนคณะรัฐมนตรี พร้อมกันในครั้งนี้ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net