Skip to main content
sharethis





การเมือง


 


ชาวนา 3 จว.เหนือถกปัญหาโรงสีเบี้ยวเงินค่าขายข้าว


เว็บไซต์คมชัดลึก - แกนนำชาวนา 3 จังหวัดเหนือ ประชุมร่วมกับพาณิชย์-การค้าภายใน ถกปัญหาโรงสีเบี้ยวเงินค่าข้าวกว่า 322.852 ล้าน ชาวแม่แฝกเชียงใหม่เตรียมนัดชุมนุมใหญ่ยกพลบุกศาลากลางฯวันพรุ่งนี้


 


(30 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. แกนนำชาวนาจาก อ.พาน อ.เวียงชัย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และจ.พะเยา ประชุมที่ห้องประชุมของที่ว่าการอำเภอพาน เพื่อรับฟังการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่พาณิชย์ แลการค้าภายใน ของจ.เชียงราย เรื่องปัญหาการขายข้าวเปลือกเหนียวให้แก่โรงสีศิริภิญโญ จาก จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งกรมการค้าภายให้โรงสีดังกล่าวมารับซื้อข้าวจากชาวนาในพื้นที่จ.เชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา ในราคาตันละ 8 พันบาท แต่ปรากฎว่าโรงสีค้างชำระเงินค่าข้าวแก่ชาวนาทั้ง 3 จังหวัดเป็นเงินกว่า 322.852 ล้านบาท


 


นายคะนอง ตาบุญ แกนนำเกษตรกรอ.พาน จ.เชียงราย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีพาณิชย์จ.เชียงราย และการค้าภายในจ.เชียงราย มาร่วมประชุมเพื่อชี้แจงข้อมูลให้ชาวนารับทราบ โดยคาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะได้ข้อสรุปว่าชาวนาจะได้รับเงินจากการขายข้าวหรือไม่ หากยังมีการยืดเวลาออกไปอีกจะประชุมร่วมกับแกนนำทั้ง 3 จังหวัด เพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวและกดดันรัฐบาลต่อไป


 


ส่วนนายจำรัส ลุงมา แกนนำกลุ่มพัฒนาเกษตรกรบ้านหนองแสะ ต.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ไม่ได้ส่งตัวแทนไปรวมชุมนุมกับชาวนาที่อ.พาน แต่ได้ประสานงานกันตลอดเวลาและจะรอฟังคำตอบผลการประชุมว่ากระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังจะสั่งการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)อนุมัติเงินให้แก่โรงสีศิริภิญโญเพื่อนำมาชำระค่าข้าวที่ติดค้างชาวนาหรือไม่


 


"หากวันนี้ยังไม่มีการอนุมัติเงิน แกนนำชาวนามีมติร่วมกันแล้วว่าจะเดินทางไปชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางจ.เชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้ ( 1 ก.ค.) โดยแกนนำได้ส่งหนังสือและจัดรถประชาสัมพันธ์ไปยังอำเภอต่างๆ เพื่อเชิญชวนชาวนาที่ขายข้าวแล้วยังไม่ได้รับเงินเตรียมตัวไปร่วมชุมนุมกันในวันพรุ่งนี้" นายจำรัส กล่าว


 


นายสุเทพ สายทอง ผู้อำนวยการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ ธ.ก.ส.อนุมัติสินเชื่อให้โรงสีศิริภิญโญ แต่เบื้องต้นทราบว่ารัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบที่ไปที่มาของโครงการนี้รวมทั้งตรวจสอบโรงศิริภิญโญแล้ว ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ไม่สามารถปล่อยสินเชื่อให้โรงสีดังกล่าวได้ทันที เพราะไม่ได้รับการประสานหรือคุยกันตั้งแต่แรกเริ่มโครงการ ที่สำคัญการปล่อยสินเชื่อต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเนื่องจากเงินทุนทั้งหมดเป็นเงินฝากของประชาชน แต่หากกระทรวงการคลัง หรือรัฐบาลสั่งการมาก็พร้อมให้ความร่วมมือทันที


 


 


โพลชี้ประชาชนพอใจผลงาน คตส.


โพสต์ทูเดย์ - ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ได้สำรวจในหัวข้อ "ความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำงานของ คตส." โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 20 ปีขึ้นไป จากทุกสาขาอาชีพที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ กทม.จำนวน 1,012 คน เมื่อวันที่ 25-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า คตส.ได้รับคะแนนความพึงพอใจจากประชาชนต่อการทำงานที่ผ่านมา 5.79 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 โดยด้านความตั้งใจ ทุ่มเท และเสียสละในการทำงาน ได้คะแนนสูงสุด 6.19 คะแนน ขณะที่ด้านความรวดเร็วในการ ทำงานได้คะแนนต่ำที่สุด 5.53 คะแนน


 


นอกจากนี้ จากการตรวจสอบคดีต่างๆ จำนวน 13 คดี ประชาชนพอใจการทำคดีการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งรถไฟฟ้าเชื่อม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิงก์) ของการรถไฟแห่งประเทศไทยมากที่สุด 5.75 คะแนน ส่วนการให้เงินกู้โดยมิชอบของผู้บริหาร ธนาคารกรุงไทย แก่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นคดีที่ประชาชนพอใจน้อยที่สุด 5.26 คะแนน


 


ทั้งนี้ คดีที่ได้รับความพอใจมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ การก่อสร้างโครงการระบบขนส่งรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 5.75 คะแนน การจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนสายพาน ลำเลียงกระเป๋าและเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด (ซีทีเอ็กซ์ 9000) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 5.66 คะแนน การไต่สวนกรณีสัญญาจะซื้อจะ ขายและสัญญาซื้อขายที่ดินถนนรัชดาภิเษก 5.66 คะแนน การซื้อขายหุ้นและโอนหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น 5.65 คะแนน การไต่สวนโครงการจัดซื้อจัดจ้างท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 5.58 คะแนน


 


สำหรับความเชื่อมั่นต่อการทำงานที่ผ่านมาของ คตส. ซึ่งเป็นองค์กรที่มาจากการแต่งตั้งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) 53.1% ระบุว่าเชื่อมั่น เนื่องจากเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความสามารถ ซื่อสัตย์และผ่านการคัดเลือกมาแล้ว 46.9% ระบุว่าไม่เชื่อมั่นเนื่องจากเป็นทีมที่แต่งตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ อาจไม่เป็นกลางเพราะแต่งตั้งจาก คปค.


 


ขณะที่ประชาชน 27.1% อยากฝากให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่จะต้องสอบสวนคดีต่างๆ ต่อจาก คตส. ได้แก่ ทำงานให้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น 23.3% ขอให้ทำงานอย่างซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ 22.3% ให้มีความเป็นกลางและยุติธรรม 7.2% ให้คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก 6.4% ให้สานต่อคดีที่ คตส.ทำไว้ และ 6.4% อย่ายอมฝ่ายการเมืองแทรกแซง 3.8% ขอให้กำลังใจให้ทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป


 


 






เศรษฐกิจ


 


ชงครม.ปูพรมผู้ผลิตเอทานอลขายอี85


ผู้จัดการรายวัน - นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง "ระเบียบวาระอ้อยแห่งชาติ : แผนปฏิบัติการพัฒนาด้านอ้อย" วานนี้(30 มิ.ย.) การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (1 ก.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรมจะเสนอแผนพัฒนาอ้อย 3 ปี (ปีการผลิต 2551/52-2553/54) ให้ครม.พิจารณา เพื่อสั่งการให้หน่วยงาน่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบรวมทั้งพิจารณาอนุมัติงบประมาณเบื้องต้น ซึ่งกระทรวงสามารถขอแปรญัตติใช้งบประมาณปี 2552 ได้ เพราะการพัฒนาอ้อยก็เป็นการช่วยเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ซึ่งประเมินเบื้องต้นจะต้องมีการลงทุนพัฒนาระบบน้ำ 3 ปีประมาณ 69,000 ล้านบาท


 


นอกจากแผนพัฒนาอ้อยแล้ว กระทรวงยังจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแนวทางการยกเลิกข้อกำหนดที่ระบุว่าให้ผู้ผลิตเอทานอลต้องขายกับผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 เท่านั้น ทำให้เกิดการผูดขาก กดราคา และยังจะเสนอให้แยกเอทานอล สำหรับการใช้เป็นเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมอาหาร ยา และเครื่องสำอาง ออกเอทานอลที่ใช้สำหรับผลิตเหล้า พร้อมกับยังจะเสนอให้ ครม.เห็นชอบให้โรงงานเอทานอลสามารถซื้อน้ำมันเบนซินมาผสมเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 85 มาขายเองได้ด้วย


 


พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานจะเสนอ ครม.วันนี้เกี่ยวกับแผนการส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ อี 85 ซึงจะมีปั๊มนำร่องจำหน่ายที่มีความพร้อมทั้ง ปตท.และบางจากอย่างต่ำ 15-30 แห่ง อย่างไรก็ตามด้านภาษีฯคงจะมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะสามารถเพิ่มเติมได้ตามที่เอกชนต้องการหรือไม่ โดยอี 85 จะเป็นพลังงานทางเลือกหนึ่งที่จะเข้ามาเสริมในอนาคต


 


สำหรับมาตรการประหยัดพลังงาน 11 มาตรการที่กระทรวงพลังงานดำเนินการเพื่อลดการใช้นั้นขณะนี้ เตรียมขยายเวลาเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานออกไปจนถึง ธ.ค. จากเดิมจะหมดเขตในช่วง ก.ค. อาทิ มาตรการล้างแอร์ที่ประชาชนเสนอขอเข้าร่วมโคงการเกินกว่ากำหนดจากเป้าหมาย 20,000 เครื่อง มีประชาชนขอเข้ามาถึง 23,761 เครื่อง ส่วนการจูนอัพเครื่องยนต์เพื่อให้เกิดประหยัดนั้นทางบางจาก และปตท.จะขยายออกไปจนถึงสิ้นปี คาดว่าจะมีรถยนต์มาจูนอัพเครื่องยนต์ถึง 40,000 คัน จากขณะนี้จูนอัพไปแล้ว 20,000 คัน เป็นต้น


 


พูนภิรมย์ยืดเวลาปรับราคาก๊าซหุงต้ม


พิมพ์ไทย - เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงปัญหาแอลพีจีหรือก๊าซหุงต้มที่ขาดแคลนในสถานีบริการ ว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการหารือพิจารณาปรับโครงสร้างก๊าซหุงต้ม  เป็น 2 ราคา ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะปรับราคาอยู่ที่เท่าใด โดยยืนยันว่าไม่มีการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีในวันนี้ (1 ก.ค.) อย่างแน่นอน และขอให้ผู้ประกอบการอย่ากักตุนก๊าซแอลพีจี เพราะจะส่งผลกระทบกับประชาชน


 


อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงาน มีนโยบายจัดหาก๊าซแอลพีจี ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ด้วยการนำเข้าก๊าซแอลพีจี เดือนละ 20,000-40,000 ตัน พร้อมมีการตรวจสอบการปฏิเสธการขายที่คาดว่าจะเกิดจากการเก็งกำไร อีกทั้งรัฐบาลได้ส่งเสริมการใช้ก๊าซ เอ็นจีวีมากขึ้นแล้ว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบระยะการเดินทางต่อกิโลเมตร จะประหยัดกว่าอยู่ที่ 56 สตางค์ต่อกิโลเมตร


 


 






ต่างประเทศ


 


"มูกาเบ" สาบานตนรับตำแหน่งปธน.ซิมบับเว


เว็บไซต์สยามรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโรเบิร์ต มูกาเบ กระทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของซิมบับเว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ภายหลังจากออกมาประกาศชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


 


รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี นายมูกาเบได้เดินทางไปยังอียิปต์เมื่อวันจันทร์นี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพแอฟริกาหรือเอยู


 


ขณะเดียวกัน ทางด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนและฝ่ายค้านของซิมบับเว ออกมาเรียกร้องนานาชาติไม่ให้ยอมรับนายมูกาเบ ในฐานะเป็นประธานาธิบดีของซิมบับเว พร้อมทั้งระบุว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เต็มไปด้วยความรุนแรงและไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้นายมูกาเบหันมาเจรจาอย่างสันติวิธีกับนายมอร์แกน สวานกิไร ผู้นำฝ่ายค้านของซิมบับเว


 


มอบอาหารโสมแดง 3.7 หมื่นตัน


โลกวันนี้ - โครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ (ดับบลิวเอฟพี) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านว่า เรือของสหรัฐได้นำข้าวสาลีหนัก 37,000 ตัน ไปส่งมอบให้แก่เกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งนับเป็นการส่งมอบอาหารเที่ยวแรกจากจำนวน 500,000 ตัน ตามที่สหรัฐรับปากไว้


 


สหรัฐยืนยันว่า ความช่วยเหลือครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อยุติวิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ และสหรัฐไม่ต้องการใช้เรื่องอาหารมาเกี่ยวข้องกับมาตรการทางการทูต


 


อย่างไรก็ตาม การส่งมอบครั้งนี้มีขึ้นเพียง 2-3 วันหลังจากเกาหลีเหนือเพิ่งแถลงรายละเอียดโครงการนิวเคลียร์และส่งมอบให้แก่จีนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และได้ทำลายหอระบายความร้อนที่โรงงานนิวเคลียร์ที่เมืองยองเบียนในวันรุ่งขึ้น


 


สหรัฐประกาศว่า ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือ และจะดำเนินการถอดชื่อเกาหลีเหนือออกจากบัญชีชาติที่สนับสนุนการก่อการร้ายต่อไป


 


ด้านหนังสือพิมพ์ "นิกเคอิ" ของญี่ปุ่นรายงานผลการสุ่มสำรวจความเห็นชาวญี่ปุ่นพบว่า แม้เกาหลีเหนือจะยอมสอบสวนเรื่องการลักพาตัวชาวญี่ปุ่นในอดีตอีกครั้งก็ตาม แต่ชาวญี่ปุ่น 61% คัดค้านการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ ในขณะที่ 25% เห็นชอบให้ยกเลิกการคว่ำบาตร


 


สำหรับความเห็นในกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรียาสึโอะ ฟูคุดะ พบว่า 44% คัดค้านการผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ ส่วนอีกกว่า 39% เห็นชอบ อย่างไรก็ตาม นายฟูคุดะถูกวิจารณ์จากครอบครัวของชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อเสียงสนับสนุนที่มีต่อคณะรัฐมนตรีด้วย


 


หลุยส์ วิตตองฟ้องอีเบย์เกือบ 2 พันล้านบ.


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - ศาลฝรั่งเศสสั่งบริษัทอีเบย์ อิงค์ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ประมูลสินค้า และขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังจ่ายค่าเสียหายให้กับหลุยส์ วิตตอง 61 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,962 ล้านบาท ฐานเปิดให้ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เกลื่อนเว็บไซต์


 


ศาลฝรั่งเศสพิพากษาให้อีเบย์จ่ายค่าเสียหายให้แก่บริษัทเจ้าของแบรนด์ดัง โดยตัดสินให้อีเบย์มีความผิดฐาน "ปล่อยปละละเลย" ให้ผู้ขายนำสินค้าปลอมมาจำหน่ายบนเว็บไซต์ ศาลตัดสินให้อีเบย์รับผิดชอบต่อ การขายน้ำหอมที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัทแอลวีเอ็มเอช ธุรกิจแฟชั่นและความงามระดับโลก


 


บริษัทแอลวีเอ็มเอช โมเอ็ต เฮนเนสซี หลุยส์ วิตตอง เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าดัง Louis Vuitton, Givenchy, Fendi, Emilio Pucci และ Marc Jacobs ซึ่งยื่นฟ้องศาลฝรั่งเศสว่า บริษัทได้รับความเสียหายจากสินค้าที่จำหน่ายบนเว็บไซต์อีเบย์


 


อีเบย์แย้งว่า บริษัทแอลวีเอ็มเอชมุ่งทำลายโมเดลธุรกิจประมูลผ่านอินเทอร์เน็ต เพียงเพราะรูปแบบธุรกิจของแอลวีเอ็มเอชไม่เอื้อความสะดวกแก่ผู้ซื้อ และมีแนวโน้มตัดพ่อค้าคนกลางออกไป


 


"หากเว็บไซต์ของเรามีสินค้าปลอมจำหน่ายจริง เรามีมาตรการปลดสินค้าเหล่านั้นออกจากการขาย แต่คำตัดสินของศาลที่มีขึ้นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เลย แต่เป็นความพยายามของแอลวีเอ็มเอช ที่ต้องการปกป้องรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ไม่ยอมให้เกิดการแข่งขัน ปิดกันทางเลือกของผู้บริโภค และการประกอบอาชีพของผู้ขายของอีเบย์ ซึ่งเป็นช่องทางการค้าที่ทรงพลัง" โฆษกของอีเบย์ กล่าวว่า และเตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล


 


ที่ผ่านมา อีเบย์ ถูกบริษัทขายสินค้าระดับหรูฟ้องหลายครั้ง เนื่องจากผู้ขายนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จำหน่ายบนอีเบย์ บริษัทที่ยื่นฟ้องศาลไปแล้ว ได้แก่ บริษัทเครื่องเพชร Tiffany & Co. ในสหรัฐ ผู้ผลิตนาฬิกา Montres Rolex ในเยอรมนี และบริษัทเครื่องสำอาง L'Oreal ในยุโรป


 


เกลือพม่าราคาพุ่ง 3 เท่า หลังไซโคลนถล่ม


เว็บไซต์คมชัดลึก - นิตยสารวอยซ์ซึ่งเป็นนิตยสารรายสัปดาห์ของพม่ารายงานเมื่อวันจันทร์ (30 มิ.ย.) ว่า พายุไซโคลนนาร์กีสยังส่งผลกระทบต่อเนื่องตามมาไม่หยุดหย่อน ทำให้ราคาเกลือในประเทศไม่พุ่งขึ้นพรวดพราดถึง 3 เท่าตัว นับตั้งแต่พม่าเผชิญภัยพิบัติจากพายุไซโคลนนาร์กีสเมื่อเกือบ 2 เดือนก่อน โดยพายุลูกหนี้พัดทำลายพื้นที่ทำนาเกลือและนาข้าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนทำให้ราคาของเกลือขนาด 1.6 กิโลกรัม พุ่งขึ้นไปสูงถึง 1,300 จ๊าด (ราว 36 บาท) หรือสูงขึ้น 6 เท่าจากราคาเกลือในช่วงก่อนเกิดพายุไซโคลนซึ่งอยู่ที่ 200 จ๊าด (ราว 6 บาท) เท่านั้น


 


ส่วนราคาในตลาดหลายแห่งในนครย่างกุ้งที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้ลดลงมาอยู่ที่ 700 จ๊าด (ราว 20 บาท) ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังพายุไซโคลน


 


นิตยสารฉบับนี้ยังระบุด้วยว่า พื้นที่กว่า 2,500 ไร่ ของรัฐบาลที่ใช้ทำนาเกลือ และอีกกว่า 5.8 หมื่นไร่ ที่เป็นของเอกชน ได้รับความเสียหายจากพายุไซโคลนนาร์กีส ทั้งนี้เป็นเพราะการทำนาเกลือส่วนใหญ่จะอยู่ที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดีอันเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากพายุไซโคลนนาร์กีสเมื่อวันที่ 2-3 พฤษภาคม รวมถึงรัฐมอญ ตะยินตายี และยะไข่ โดยราคาเกลือที่รัฐยะไข่เพิ่มจาก 100 จ๊าด เป็น 400 จ๊าด แล้ว ขณะที่ปริมาณเกลือสำรองที่มีอยู่ก็เริ่มจะร่อยหรอลงไปมาก และเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค รัฐยะไข่จะเพิ่มการผลิตเกลือในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายนนี้


 


ทั้งนี้พายุไซโคลนนาร์กีสทำลายพื้นที่ส่วนใหญ่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำอิระวดีซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูก และทำเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศ รวมถึงพื้นที่ในย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 84,537 คน และสูญหาย 23,836 คน ตามตัวเลขของทางการ


 


วันเดียวกัน กระทรวงวางแผนและพัฒนาแห่งชาติพม่า เผยสถิติล่าสุดว่า ต่างชาติเข้ามาลงทุนภาคน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพม่าเมื่อปี 2550 เพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า คิดเป็นมูลค่า 474.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นสัดส่วนมากถึง 90% ของการลงทุนต่างชาติทั้งหมดในพม่าประจำปีที่แล้ว ซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 504.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสหราชอาณาจักรเป็นนักลงทุนรายใหญ่สุดด้วย มูลค่าการลงทุน 134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยไทย 16.22 ล้านดอลลาร์ และเยอรมนี 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net