Skip to main content
sharethis

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30น.ที่เวทีนางเลิ้ง นายจำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์ระบุว่า การเคลื่อนของพันธมิตรฯ เพื่อหยุดการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดที่ทำให้ประเทศเสียหาย โดยพันธมิตรฯ ได้ใช้กระบวนการประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง นอกจากการประชุมกันในแกนนำแล้วยังถามความเห็นจากผู้ชุมนุมมาโดยตลอด โดยยึดหลักสันติ อหิงสา และปราศจากอาวุธ และถือเป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ โดยถือว่า เป็นการทำตามหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ


 


ทั้งนี้ ยังอ้างถึงสิทธิตามมาตรา 70 ในรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งระบุว่า "บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้" มาตรา 69 ซึ่งระบุว่า "บุคคลย่อมมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธีซึ่งการกระทำใดๆ ที่เป็นไปเพื่อให้ ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่ บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้" และมาตรา 63 ที่ว่า "บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ"


 


ทั้งนี้ แม้พันธมิตรฯ จะชุมนุมเป็นเวลา 27 วัน 27 คืนแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังไม่หยุดล้มล้างรัฐธรรมนูญ พันธมิตรฯ จึงต้องเคลื่อนเพื่อแสดงเจตนารมณ์ ทั้งนี้ ย้ำว่า จะไม่รุกเข้าไปในทำเนียบ และจะไม่ยึดทำเนียบ โดยจะชุมนุมด้วยสันติ อหิงสา และไม่ใช้อาวุธ หากมีการเคลื่อนขวางก็จะแสดงไมตรีด้วยการยิ้ม และไม่ใช้อาวุธ แต่ในการเคลื่อนย้าย มีอันธพาลเข้ามา ซึ่งจะเห็นว่า 2 ปีมานี้ พันธมิตรฯ ชุมนุมกันอย่างสงบ ใครที่ไม่ได้ทำตามนี้ ถือว่าเป็นอันธพาล เรียกว่า "นรกป่วนกรุง" และถือเป็นความผิดของรัฐบาล


 


ทั้งนี้ ขอแจ้งให้ทราบว่า พันธมิตรฯ จำเป็นต้องสะสมท่อนเหล็กและไม้เบสบอล เพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุม เนื่องจากพึ่งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เลย โดยระบุว่า การชุมนุมเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ผู้ชุมนุมได้ถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมโดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิกเฉย  


 


 



กลุ่มต้านพันธมิตรฯ เตรียมกลับสนามหลวง


เวลา 16.15 น. น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. ขึ้นบนเวทีปราศรัยต่อกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่มีประมาณ 500 คน เพื่อประกาศเคลื่อนการชุมนุมกลับไปยังสนามหลวง โดย น.พ.เหวงกล่าวว่า การเคลื่อนขบวนกลับครั้งนี้ไม่ถือว่าเป็นการพ่ายแพ้และไม่ถือว่าเสียหน้า เพราะภาระกิจได้บรรลุผลแล้วโดยการได้เคลื่อนขบวนมาปักหลักกดดันพันธมิตรฯ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีความพะว้าพะวัง แต่เนื่องจากตอนนี้พันธมิตรฯ ได้เคลื่อนไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาลแล้ว หากเรายังชุมนุมอยู่ที่นี่ต่อไปก็อาจจะกลายเป็นจำเลยของคนกรุงเทพฯ ในเรื่องปัญหาการจลาจรใช้รถใช้ถนนและอาจถูกพันธมิตรป้ายสีได้ อย่างไรก็ตาม จากที่ตนได้ไปสังเกตการณ์การรับมือของรัฐบาลต่อการชุมนุมของพันธมิตรฯ ก็ขอให้อย่าไปคิดว่าพันธมิตรฯ ชนะ 100% เพราะการต่อสู่ยังไม่ยุติ การขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ยังทำไม่สำเร็จและเชื่อว่านายสมัครก็จะไม่ลาออก


 


น.พ.เหวง กล่าวกับผู้ชุมนุมต่อต้านพันธมิตรฯ ด้วยว่า หน้าที่ของเราคือปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เราต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาล เมื่อเราเคลื่อนมาแนวหน้าแล้วเคลื่อนกลับฐานที่มั่นที่สนามหลวง ไม่ได้แปลว่าเราแพ้และไม่ถือว่าเราเสียหน้า การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังยาวนาน ถ้าพันธมิตรฯเสียดสีเมื่อไหร่เราจะเคลื่อนมาอีกครั้ง การเคลื่อนกลับไปยังสนามหลวงเป็นไปเพื่อสร้างกำลังให้เกิดความตื่นตัว ถ้าพันธมิตรสร้างเงื่อนไขให้เราจำเป็นต้องเคลื่อนก็จะเคลื่อนทันทีเพื่อแสดงประสิทธิภาพ


 


"ผมเชื่อว่ารัฐบาลต้องคิดหนักเพราะไม่มีประเทศไหนในโลกที่มีม็อบเถื่อนไปบีบล้อมกดดันรัฐบาล ผมเชื่อว่ารัฐบาลจะมีมาตรการเฉียบพลันอะไรบางอย่างไปจัดการกับพันธมิตรฯ การกวาดล้างพันธมิตรฯให้สิ้นแผ่นดินไทย เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะใช้กฎหมายจัดการ เราเคลื่อนมากดดันศัตรูให้พะว้าพะวังตอนนี้บรรลุผลแล้ว"  น.พ.เหวงกล่าว


 


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net