ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2551

 





การเมือง -  สังคม

 

อภิสิทธิ์ เผยผลประชุมพรรค เตรียมยื่นไม่ไว้วางใจนายกฯ-รมต.รวม 6 คน

เว็บไซต์แนวหน้า - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยผลที่ประชุมแกนนำพรรคฯ มีมติเตรียมใช้อำนาจนำรัฐธรรมนูญมาตรา 158 และมาตรา 159 เพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประมาณ 6 คน โดยไม่มีการถอดถอนและให้วิปฝ่ายค้านยกร่างญัตติเพื่อให้ ส.ส.ร่วมลงชื่อก่อนเสนอประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันอังคารที่ 17 มิถุนายน นี้  พร้อมระบุว่า  หากยังคงให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไปจะมีความเสียหายเกิดขึ้นได้และคิดว่าหากรัฐบาลมีความจริงใจก็เชื่อว่าจะสามารถเปิดอภิปรายทันในสมัยประชุมนี้ได้

 

สมัคร ไม่เปิดอภิปรายรัฐบาลสวน ปชป.รีบร้อน

เว็บไซต์สยามรัฐ - 15มิ.ย.51 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ถึงกรณีการนัดกินอาหารกลางวันร่วมกันของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่ห้องอาหารจีน ไชน่าพาเลซ ชั้น 32 โรงแรมปริ๊น พาเลซ  เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและพบผู้สื่อข่าวจึงจ้องมองว่า ได้โทรศัพท์นัดกัน 5 คน 5 พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้บอกใคร นึกว่าจะมานั่งคุยกันสบายๆ เลือกชั้น 32 ของโรงแรม ทางโรงแรมก็คงไม่ให้ใครขึ้นไป ถึงเวลานัดพบคนเต็มไปหมด

 

 "ผมแสดงความประหลาดใจ มองในสายตาของผมว่า คุณขึ้นมากันทำไม มาได้อย่างไร ทำไมใครปล่อยให้ขึ้นมา จะเอาให้ได้ เหมือนฟ้าถล่มดินทลาย ก็มอง สื่อมวลชนก็มาเขียนด่า แค่มองหน้าก็เอาไปหาเรื่อง"

ส่วนการขอเปิดอภิปรายนั้น นายสมัครกล่าวว่าจะไม่เปิดการอภิปรายทั่วไป เพราะเวลามีน้อย เนื่องจากจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ในวันที่ 25-26 มิ.ย. หากให้เปิดอภิปรายทั่วไปเป็นวันที่ 23 มิ.ย.จะกระชั้นชิดเกินไป ไม่ได้กลัวการอภิปรายทั่วไป หากมีคำถามมา ก็ตอบได้ทั้งหมด ย้อนถามฝ่ายค้านว่า ทำไมต้องรีบร้อน

 

ปชป. ระบุ สมัคร บิดเบือนเรื่องการอภิปรายทั่วไป

เว็บไซต์แนวหน้า - นายองอาจ กล่าวถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ สนทนาประสาสมัคร เรื่องการไม่เปิดอภิปราย 2 สภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 โดยอ้างว่า การประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 สามารถอภิปรายปัญหาต่างๆได้อยู่แล้ว และไม่มีเวลาเพียงพอนั้น ว่า พรรคประชาธิปัตย์เข้าใจดีว่ามาตรา 179 เป็นอำนาจของนายกฯ แต่ที่ อ้างมานั้นบิดเบือน สร้างความเข้าใจผิดให้สาธารณะ เพราะการอภิปรายทั่วไป กับการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

ส่วนที่อ้างว่า สภาไม่มีเวลา เพราะต้องพิจารณากฎหมายที่ต้องออกตามรัฐธรรมนูญ และวันที่ 25-27 มิถุนายน ต้องพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา เพราะสภาไม่จำเป้นต้องประชุมแค่วันพุธหรือพฤหัส แต่วันอื่นแม้แต่วันเสาร์ อาทิตย์ ก็ประชุมได้ แต่ที่นายกฯ อ้าง เป็นการจงใจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ส่วนที่หาว่า ฝ่ายค้านหรือ ส.ว.กระเหี้ยนกระหือรือ รีบร้อนนั้น ฝ่ายค้านไม่ได้รีบร้อน แต่ทำอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่เกมการเมืองหรือมุ่งทำลายรัฐบาล ทั้งนี้ฝ่ายค้านมีช่องการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เห็นว่าหากมีการเปิดอภิปราย 2 สภา จะเกิดประโยชน์มากกว่า เพราะระดมความเห็นจากส.ส.ทุกคน และส.ว.เสนอต่อรัฐบาลได้ แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่เห็นเจตนาดี

 

เลขา กกต.วอนสังคมจับตา หมัก นั่งหัวโต๊ะประชุม ดีเอสไอ ฮั้วบัตรเลือกตั้งพรุ่งนี้

เว็บไซต์แนวหน้า - นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบกรณีที่ พล.ต.อ.เสวก ร้องเรียนว่ามีการฮั้วการประมูลบัตรเลือกตั้งว่า ในส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีความคืบหน้าไปพอสมควรคาดว่าจะสรุปผลได้เร็วๆ นี้ แต่ยังมีปัญหาว่าเมี่อขอความร่วมมือจากอธิบดีดีเอสไอนั้นไม่ได้รับความร่วมมือ ทั้งนี้ตนทราบมาว่าในวันพรุ่งนี้ดีเอสไอจะนำเรื่องที่มีผู้ร้องในเดียวกันนี้ต่อดีเอสไอเช่นเดียวกัน เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการพิจารณาคดีพิเศษ ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยตนเป็นห่วงว่าเมื่อยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องขอบเขตอำนาจระหว่างองค์กรแล้วเหตุใดดีเอสไดจะต้องนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ทั้งนี้ตนก็เชื่อมั่นในดุลพินิจของคณะกรรมการฯ ทุกคน แต่ถ้าคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวมีมติออกมาว่า รับเรื่องการฮั้วประมูลบัตรเลือกตั้งไว้พิจารณาเป็นคดีพิเศษแล้ว ต่อไปก็จะทำให้เสียระบบของการตรวจสอบองค์กรอิสระ เพราะตามกฎหมายแล้วหากองค์กรอิสระกระทำความผิดองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบโดยตรงก็คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)

 

จารุวรรณ โต้ข่าวมีบ้านหรู 50 ล้าน

ผู้จัดการรายวัน - คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย จงจรูญหิรันย์ หัวหน้ากลุ่มติดตามการปฎิรูปการเมืองและต่อต้านคอร์รัปชั่น (PRAC) พาสื่อมวลชนถ่ายภาพ คฤหาสน์ 50 ล้านบาท ว่า ตนทราบว่ามีแม่ค้าไปตะโกนด่ากลุ่มดังกล่าวด้วย ซึ่งที่ผ่านมาบรรดาแม่ค้าโทรศัพท์มาแจ้งว่า ตนมาซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าว เป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้ความเจริญมาถึงพื้นที่นั้นเร็วขึ้น และอยากชี้แจงว่าที่ดินดังกล่าวมีพื้นที่ 1 ไร่ เป็นที่ที่สามีตนซื้อมาในปี 2505 ราคาไร่ละ 1 หมื่นบาท โดยซื้อก่อนแต่งงานกับตน และมีหลักฐานยืนยันทุกอย่าง

         

ส่วนตัวบ้านที่ระบุว่า หลังละ 50 ล้านบาทนั้น ถ้านายวันชัย สนใจ และขอซื้อจากตน ในราคา 40 ล้านบาท ตนก็พร้อมที่จะขายให้ทันที ส่วนสาเหตุที่ใช้หลังคาสีเหลืองไม่ใช่ สีแดง หรือเขียวนั้น เพราะต้องการแสดงถึงความจงรักภักดี จึงทำให้หลังคาดูกว้าง และใหญ่ขึ้น ซึ่งราคาหลังคาตนมีใบสั่งซื้อยืนยันว่า เป็นราคา 6 แสนบาท ส่วนบ้านที่ดูโอ่โถงก็สร้างมานานกว่า 3 ปีแล้ว จนผู้ออกแบบก่อสร้างเสียชีวิตไปแล้ว เพราะตนมีเงินก็สร้าง ไม่มีเงินก็หยุดสร้าง ยืนยันว่ามีใบ บีคิว คือใบกำหนดราคาก่อสร้างที่ตกลงราคากับผู้ก่อสร้างที่ราคา 4.4 ล้านบาท ตนพร้อมชี้แจงทุกอย่างแต่ที่ไม่อยากตอบโต้เพราะคิดว่าเราบริสุทธิและทุกอย่างสามารถชี้แจงได่ แต่ยิ่งปล่อยกลุ่มนี้ก็ยิ่งหนักข้อขึ้น

         

คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาเรื่องการว่างจ้างบริษัทเข้าไปฝึกอบรมข้าราชการของ สตง.นั้น ก็ทำมาตั้งแต่ปี 2546 เนื่องจากบริษัทนี้ทางบริษัทหลักทรัพย์ ก็ว่าจ้างบริษัทดังกล่าว เพราะเป็นบริษัทที่ผ่านการตรวจสอบว่ามีคุณภาพ และคุ้มค่ากับการจ้าง แม้กระทั่งช่วงที่ตนเว้นวรรคไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ สตง.ระหว่างปี 2547-2548 ทาง สตง.ก็ว่าจ้างบริษัทดังกล่าวในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เพราะคุ้มค่า เนื่องจากหลังอบรมแล้วทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานตรวจสอบพบการทุจริตจำนวนมาก

         

คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวด้วยว่า รู้สึกสงสัยในพฤติกรรมของ นพ.เหวง โตจิราการ ที่ก่อนหน้านี้ปี 2547 ช่วงที่ตนต้องเว้นวรรค ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯสตง. ยังมาเดินทางมาให้กำลังใจตนอยู่เลย ไม่เข้าใจว่า เหตุใดเวลาผ่านไปไม่เท่าไร กลับมีพฤติกรรมเปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือ เช่นเดียวกัน นายวันชัย ซึ่งทราบมาว่ามีคดีติดตัว เพราะเป็นบุคคลที่ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ นปก.ชุมนุม และบุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งไม่ทราบว่าตอนนี้คดีของนายวันชัย ไปถึงไหนแล้ว

 

กุเทพ ป้องมท.1ไม่ได้แทรกแซงสื่อ

เว็บไซต์สยามรัฐ - 15มิ.ย.51  ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน (พปช.) และคณะทำงานติดตามการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรียกผู้ประกอบการเคเบิลทีวีที่รับสัญญาณเอเอสทีวีไปแจ้งให้ยุติการถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า มีการพูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม ก่อนที่จะสั่งการกับผู้ว่าฯ โดยหารือในข้อกฎหมายว่า เมื่อไม่สามารถระงับการออกอากาศของเอเอสทีวี เพราะศาลปกครองคุ้มครองก็ใช้ช่องทางเอาผิดกับเครือข่ายเคเบิลที่เผยแพร่สัญญาณแทน เพราะมีการปลุกระดมสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง มีความผิดตามกฎหมาย

 

โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวต่อว่า ยืนยันกรณีนี้ ไม่ได้เป็นการแทรกแซงสื่อ หรือ ปิดกั้น การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน เพียงแต่ต้องการสร้างความสงบเรียบร้อยในประเทศ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรเห็นใจและยกย่องการทำงานของ รมว.มหาดไทย มากกว่าการออกมาต่อว่า หรือ จะดำเนินคดีฟ้องร้องเอาผิดฐานปิดกั้นสื่อ อย่างไรก็ตาม ไม่หวั่นหากจะมีการชุมนุมของประชาชนในต่างจังหวัดที่ไม่พอใจคำสั่งนี้ เพราะเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยเท่านั้น ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมดูแลได้

 

สรส. นัดหารือแนวทางอารยะขัดขืน อังคารนี้

เว็บไซต์แนวหน้า - นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) กล่าวว่า ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ เวลา 14.00 น.ที่โรงแรมหลุยส์ เซเว่น หลักสี่ ตนได้นัดประชุมประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทั้ง 43 แห่ง เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการอารยะขัดขืน ซึ่งทางสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจได้ร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวกับทางกลุ่มพันธมติรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น โดยขณะนี้เห็นว่าการยื่นหนังสือข้อเรียกร้องเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถที่จะทำให้รัฐบาลออกมาแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องผู้ใช้แรงงานได้ จึงต้องยกระดับปัญหาปากท้องเป็นปัญหาการเมืองระดับชาติ โดยทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจจะได้กำหนดมาตรการอารยะขัดขืนขั้นต้นก่อน หากรัฐบาลยังไม่ฟังเสียงเรียกร้องของพี่น้องผู้ใช้แรงงานคงจะได้มีการเพิ่มมาตรการขั้นรุนแรงต่อไป

 

โพลล์ชี้เด็กกรุงกว่า 3 แสนรายส่อเล่นพนันบอล

เว็บไซต์เดลินิวส์ - 15 มิ.ย. นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ผลประมาณการจำนวนคนที่ตั้งใจเล่นทายพนันบอลและวงเงินสะพัดช่วงบอลยูโร 2008 กรณีศึกษาเด็กและเยาวชนอายุ 12 - 24 ปีในกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล จำนวน 2,910 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-14 มิถุนายน พบว่าตัวอย่างที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.7 ติดตามข่าวการแข่งขันบอลยูโร 2008 ผ่านสื่อโทรทัศน์ ร้อยละ 36.6 ผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ และที่น่าพิจารณาคือตัวอย่างมากถึงร้อยละ 28.6 ติดตามข่าวการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต เป็นตัวเลขที่เคยพบครั้งแรกว่า กลุ่มตัวอย่างติดตามข่าวสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตมากกว่าทางวิทยุ

 

 





เศรษฐกิจ

 

คลั่งสั่งปรับจีดีพี คาดโตต่ำกว่า 6 %

เดลินิวส์ - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะแถลงการปรับตัวเลขประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ปี 51 นี้ใหม่อีกครั้ง จากก่อนหน้านี้ประมาณการไว้ที่ 5.6% และคาดว่ามีโอกาสขยายตัวได้ถึง 6% จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ทั้งนี้จะต้องปรับสมมุติฐานอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จากเดิมที่คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 4.5% เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาน้ำมันดิบดูไบ จากที่เคยคาดว่า ทั้งปีน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 93 ดอล ลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ว่า เศรษฐกิจไทยจะยังขยายตัวได้ถึง 6% หรือไม่ เพราะต้องรอประเมินสถานการณ์ในช่วงปลายเดือนก่อน

 

นายสมชัย สัจจพงษ์ โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ยังคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ที่ 6% อยู่ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน พิจารณาแล้วยังคงมีแรงขับเคลื่อนให้ขยายตัวได้ ทั้งการบริโภคและการลงทุน เห็นได้จากตัวชี้วัดด้านการบริโภคจากการที่ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ยังจัดเก็บได้สูง ขณะที่ตัวชี้วัดด้านการลงทุนพบว่า การนำเข้าสินค้าทุนยังขยายตัวได้ดีอยู่ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้น ก็ไม่น่าเป็นห่วงมาก เพราะ จะมีผลดีกับภาคการส่งออก

 

ทั้งนี้เป็นห่วงเพียงเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ และหากอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นมาก ๆ ก็จะทำให้อำนาจซื้อของประชาชนและการลงทุนลดลง ซึ่งคงติด ตามสถานการณ์อีกระยะ สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันนั้น เชื่อว่าส่งผลกระทบต่อทุกประ เทศไม่เฉพาะแต่ไทยเท่านั้น โดยกรณีของไทยถือว่ายังดีกว่าหลายประเทศ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าเป็นเรื่องยากที่เงินเฟ้อของไทยจะสูงถึงตัวเลข 2 หลัก เพราะที่สุดแล้วกลไกตลาดจะทำงานเอง

 

เพิ่มวงเงินสร้างเมกะโปรเจคท์

เดลินิวส์ - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 16 มิ.ย.นี้ คณะกรรมการกำกับด้านการเงินและการระดมทุนสำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (เมกะโปรเจคท์) จะจัดประชุมเพื่อวางแนวทางการระดมเงิน เพื่อใช้ก่อสร้างรถไฟฟ้า รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบจากการลงทุนต่อฐานะการคลังและเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ เพื่อไม่ให้กระทบต่อหนี้สาธารณะ ซึ่งมูลค่าโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้า รวม 9 สาย เดิมมีวงเงิน 770,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 523,000 ล้านบาท เอกชนลงทุนระบบเดินรถ 171,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากปัจจุบัน ค่าวัสดุก่อสร้างปรับราคาสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ทำให้ต้องทบทวนมูลค่าการลงทุนใหม่

 

เบื้องต้น ได้กำหนดให้ปรับขึ้นวงเงินก่อสร้างรถไฟฟ้าอีก 15% ของมูลค่าเดิม ซึ่งสัปดาห์นี้ กระทรวงคมนาคมจะได้เสนอครม.ให้ความ เห็นชอบปรับมูลค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง  บางซื่อ-บางใหญ่ สำหรับงานด้านโยธาจากวงเงิน 31,000 ล้านบาท เป็น 36,000 ล้านบาท

 

เหตุผลการปรับเพิ่มมูลค่าโครงการลงทุนนอกจากให้สอดคล้องกับสภาพค่าครองชีพปัจจุบัน  แต่หากโครงการก่อสร้างดำเนินโครงการล่าช้าออกไป จะยิ่งกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างด้วย

 

 





ต่างประเทศ

 

จี 8 ร้องผลิตน้ำมันเพิ่มแก้วิกฤติศก.

เดลินิวส์ - รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 8 หรือ จี 8 เรียกร้องเพิ่มผลผลิตน้ำมันดิบ เพื่อบรรเทาภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลก ไอเอ็มเอฟ เล็งตรวจสอบราคาน้ำมันผันผวน ขณะที่สหรัฐยันการเก็งกำไรไม่ใช่สาเหตุน้ำมันแพง

         

การประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มจี 8 ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันเสาร์ที่ประชุมได้เรียกร้องต่อบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบ ให้เพิ่มผลผลิตขึ้นอีก เนื่องจากราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เกิดความท้าทายอย่างร้ายแรงต่อการเติบโตอย่างมั่นคงทั่วโลก และอาจส่งผลกระทบเกิดภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก และภาวะความยากจนเลวร้ายลง

 

ซาอุดีฯพร้อมลงมือแก้ราคาน้ำมันที่ สูงอย่างผิดปกติ

ผู้จัดการรายวัน - กษัตริย์อับดุลเลาะห์ แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงมีความเห็นว่าราคาน้ำมันในปัจจุบัน "สูงอย่างผิดปกติ" สืบเนื่องจาก "ปัจจัยต่างๆ ในเรื่องการเก็งกำไรและนโยบายของรัฐบาลแห่งชาติบางราย" และทรงพร้อมที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่ทรงสามารถทำได้เพื่อทำให้ราคาลงมาอยู่ใน "ระดับที่เหมาะสม" เลขาธิการสหประชาชาติ บันคีมุน แถลงเมื่อวานนี้(15) ถึงผลการเข้าเฝ้าพระราชาธิบดีของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกในคืนวันเสาร์(14)

         

สื่อมวลชนรายงานในวันศุกร์(13)ที่แล้วว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังวางแผนเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนหน้าขึ้นอีกราว 500,000 บาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) เป็น 10 ล้านบีพีดี โดยที่บันก็กล่าวว่า ทางซาอุดีอาระเบีย "ดูเหมือนกำลังพิจารณาอย่างจริงจังมากในเรื่องที่ว่าพวกเขาสามารถแก้ไขประเด็นนี้ (ประเด็นเรื่องราคาน้ำมันแพงลิ่ว) ด้วยการเพิ่มการผลิตได้อย่างไร"

         

ซาอุดีอาระเบียยังกำลังดำเนินการจัดการประชุมระดับผู้นำของพวกประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคน้ำมัน ในวันที่ 22 เดือนนี้ที่นครเจดดะห์, ซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือเรื่องราคาน้ำมันทะยานพรวดที่กำลังสร้างความวิตกว่าจะทำให้ทั่วโลกมีอัตราเงินเฟ้อสูงและอัตราเติบโตลดต่ำ เลขาธิการยูเอ็นแสดงความหวังว่า การประชุมที่เจดดะห์จะบังเกิดผลในการแก้ปัญหา

 

จีนเคราะห์ซ้ำ น้ำท่วมกลืนชาวบ้าน 55 ราย ตนนับล้านหนีตายทิ้งบ้านเรือน

เว็บไซต์แนวหน้า - สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันจากฝนที่กระหน่ำหนัก ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 55 ราย และประชาชนกว่า 1 ล้านคนต้องหนีภัยน้ำท่วม โดยมณฑลกวางตุ้ง เป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบหนัก โดยมีประชาชนสูญหาย 7 ราย ทำให้รัฐบาลวิตกว่าสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าวอาจมีแนวโน้มแย่ขึ้น เนื่องจากคาดว่าฝนจะตกติดต่อเป็นเวลา 10 วัน ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

 

แผ่นดินไหว 7.2 ที่ญี่ปุ่นตายเพิ่มเป็น 9 หาย 11

ผู้จัดการรายวัน - เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของญี่ปุ่น เร่งค้นหาผู้ที่สูญหายอีก 11 คนตลอดวานนี้(15) หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ตามมาตราริกเตอร์ ทางภาคเหนือของญี่ปุ่น เมื่อเช้าวันเสาร์(14) จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 200 คน

         

แผ่นดินไหวในครั้งนี้ทำให้เกิดภูเขาถล่ม สะพานบิดโค้ง และดินถล่มทับถนนหนทางต่าง ๆ ในจังหวัดมิยากิและจังหวัดอิวาเต ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือราว 300 กิโลเมตร ทว่าเนื่องจากเป็นพื้นที่ซึ่งมีประชากรเบาบางจึงทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนไม่มาก แต่หลังจากแผ่นดินไหวได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกนับร้อยครั้ง และทางการได้เตือนว่าอาจมีแผ่นดินไหวรุนแรงตามมาอีก

 

ระเบิดพลีชีพเรือนจำอัฟกาฯนักโทษหนีกระเจิง

เดลินิวส์ - มือระเบิดพลีชีพบุกโจมตีเรือนจำขนาดใหญ่ในเมืองกันดาฮาร์ ทางตอนใต้ของอัฟกา    นิสถานอย่างอุกอาจ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิตอย่างน้อย 15 ศพ และนักโทษกว่า 1,000 คน รวมทั้งสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงตาลีบันด้วย ถือโอกาสหลบหนี เจ้าหน้าที่ต้องไล่ล่ากันจ้าละหวั่น

 

กองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลน ติกเหนือ หรือนาโต ในอัฟกานิสถาน เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า นักโทษมากกว่า 1,150 คนในเรือนจำทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ซึ่งรวมทั้งสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง หลบหนีออกจากเรือนจำ หลัง จากตาลีบันบุกโจมตีแบบพลีชีพอาคารเรือนจำ    ดังกล่าว โดยพลเอกคาร์ลอส บรังโก โฆษก    กองกำลังช่วยเหลือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศของนาโต หรือไอเอสเอเอฟ กล่าวกับ   เอเอฟพีว่า มีนักโทษกว่า 1,150 คน สามารถหลบหนีไปได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท