Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 11.30 . วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากการประสานงานโดยวาจากับ นายนัทธี  จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ศ.เสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนางสุนี ไชยรส กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะ ได้เข้าเยี่ยม นางคำ เหล้าหวาน พยานสำคัญในคดีสังหารพระสุพจน์ สุวโจ ซึ่งถูกฆาตกรรมอย่างทารุณโหดร้ายเมื่อ 3 ปีก่อน โดย นางคำได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดในคดีอาญา เนื่องจากเกิดเพลิงไหม้บ้านพักของนางคำเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน หลังจากนางคำพบศพพระสุพจน์ประมาณ 15 วัน แต่เพิ่งถูกจับกุมดำเนินคดีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง ก่อนจะถูกอัยการจังหวัดฝางสั่งฟ้อง และศาลประทับรับฟ้องเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ศกนี้


นางคำ เหล้าหวาน ได้ให้ปากคำกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า ในวันเกิดเหตุตนมิได้อยู่ในบ้านพัก โดยออกไปกับเพื่อนคนงานตั้งแต่หัวค่ำ ต่อมาทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเกิดเพลิงไหม้บ้านหมดทั้งหลัง โดยตนเองไม่ทราบสาเหตุที่เพลิงไหม้แต่อย่างใด และหลังจากนั้นตนก็ยังทำงานอยู่ในสถานปฏิบัติธรรม "สวนเมตตาธรรม" มาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อต้นปี 2551 ตนเองแต่งงานมีครอบครัว จึงย้ายออกไปอยู่ภายนอก แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมาพบ แจ้งว่าจะเชิญตัวไปสอบปากคำ เมื่อต้นเดือนเมษายน 2551 แต่เมื่อไปถึงสถานีตำรวจก็ได้แจ้งว่าต้องจับกุมตนไว้ ในข้อหาประมาททำให้ไฟไหม้ แม้ว่าตนจะปฏิเสธ แต่ตนก็ถูกคุมตัวเข้าห้องขัง จนหมดอิสรภาพมาตั้งแต่นั้น โดยไม่ได้มีโอกาสได้พบทนายความ หรือรับทราบสิทธิต่างๆ แต่อย่างใด นอกจากนั้น นางคำได้บอกเล่าเพิ่มเติมว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ก็มีเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เดินทางมาพบและสอบปากคำตนเองเกี่ยวกับคดีพระสุพจน์อีกด้วย


หลังจาก ศ.เสน่ห์ จามริก และคณะได้สอบถามนางคำ และให้คำแนะนำเรื่องสิทธิของผู้เสียหาย และสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาแล้ว ก็ได้เดินทางต่อมายังสถานปฏิบัติธรรม "สวนเมตตาธรรม" ณ บ้านห้วยงูใน หมู่ 5 ตำบลสันทราย อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกำลังจัดงานครบรอบ 3 ปี แห่งการจากไปของ พระสุพจน์ สุวโจ โดยมีการพบปะและให้กำลังใจกับ บิดา-มารดา ของพระสุพจน์ ตลอดจนเครือข่ายกัลยาณมิตรของพระสุพจน์ และองค์กรภาคประชาชนที่มาร่วมจัดงาน


ซึ่งระหว่างการพบปะกันนี้ นางสุนี ไชยรส กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ติดตามคดีการสังหารพระสุพจน์มาตั้งแต่ต้น ทั้งในส่วนของคดีฆาตกรรม และกรณีความขัดแย้งเรื่องที่ดินของสถานปฏิบัติธรรม ที่ถูกผู้มีอิทธิพลบุกรุกเข้ามาทำประโยชน์ ได้รับรู้มาอย่างต่อเนื่อง ว่าคดีไม่มีความคืบหน้า แม้ว่าคณะกรรมการสิทธิฯ จะมีการเร่งรัดต่อผู้เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม


"คดีนี้มีความซับซ้อน และน่าเชื่อว่าจะมีการกดดันจนเจ้าหน้าที่ทำงานไม่สะดวก หรือไม่อย่างนั้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ทั้งระดับท้องถิ่นและส่วนกลาง ก็อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงทำให้คดีไม่มีความคืบหน้า แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมามากแล้วก็ตาม" นางสุนีกล่าว


จากนั้น ศ.เสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้กล่าวเสริมด้วยว่า เมื่อตนได้มาพบเห็น และรับฟังรายละเอียด ทั้งในส่วนของคดีพระสุพจน์ และคดีนางคำ เหล้าหวาน ก็รู้สึกเสียใจ และรู้สึกสิ้นหวัง ต่อการทำงานของกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะทั้งสองคดีนี้ และคดีอื่นๆ ทำนองเดียวกันนี้ ได้สะท้อนความรุนแรงของการละเมิดสิทธิมนุษยชน และความบกพร่องของกระบวนการยุติธรรม จนเกิดความเสียหายร้ายแรงต่อบุคคลและชุมชนอย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้นำชุมชนและสิทธิของชุมชน ในการปกป้องรักษาทรัพยากร และการอนุรักษ์ธรรมชาติ แม้ว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจะพยายามยื่นมือเข้าไปให้การช่วยเหลือ แต่เมื่อภาคส่วนต่างๆ ยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว ก็ดูเหมือนว่าแต่ละกรณี ก็แทบไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในด้านที่เป็นคุณกับผู้เกี่ยวข้องเลย


"ผมเองรู้สึกผิดหวังและสิ้นหวังกับการแก้ปัญหาของภาครัฐ ยิ่งในภาวะที่การเมืองมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงเช่นนี้ ก็ยิ่งดูเหมือนกับว่าแต่ละส่วนงานต่างพากันละเลยต่อความเดือดร้อนของประชาชนไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีผู้นำชุมชน ที่มีความเห็นไม่ตรงกับภาครัฐ ที่ประสบชะตากรรมเช่นนายเจริญ วัดอักษร หรือแม้แต่กรณีของพระสุพจน์ สุวโจ ก็ตาม" .เสน่ห์ จามริกกล่าวในที่สุด


ด้าน พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ ประธานมูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ได้กล่าวสรุปความไม่คืบหน้าของคดีพระสุพจน์ ทั้งในส่วนของการดำเนินงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มีความล่าช้าและไม่มีความคืบหน้าใดๆ มาตลอดระยะเวลา 3 ปี และในส่วนของความล้มเหลวในการคุ้มครองพยาน โดยได้ตอบคำถามสื่อมวลชน มีใจความโดยสรุปว่า นับตั้งแต่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีพระสุพจน์มาอยู่ในความรับผิดชอบ ถึงบัดนี้แม้เวลาจะล่วงเลยมาจนครบ 3 ปี และมีการเปลี่ยนคณะทำงานมากว่า 4 คณะแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถแม้แต่จะระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้เลย มิพักจะต้องกล่าวถึงการจับกุมตัวผู้กระทำผิด หรือการสืบสาวไปถึงตัวผู้บงการ ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเกินความสามารถของกรมสอบสวนคดีพิเศษไปเสียแล้ว


"กรมสอบสวนคดีพิเศษมักมุ่งเน้นการทำงานเพื่อสนองความต้องการของฝ่ายการเมือง เน้นคดีที่เป็นข่าว หรืออยู่ในความสนใจของสื่อเป็นด้านหลัก ไม่เช่นนั้น ก็เป็นคดีที่ผู้มีอำนาจกระทำต่อฝ่ายตรงกันข้าม หากเป็นคดีที่ต้องใช้ทักษะหรือความสามารถในการสืบสวนสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ไม่ได้มีความสามารถเหนือกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ประการใด เพราะบุคลากรส่วนใหญ่ก็เป็นอดีตตำรวจ ยังใช้รูปแบบการทำงานแบบตำรวจ มีท่าทีวางอำนาจ และปฏิบัติต่อผู้เกี่ยวข้องเช่นเดียวกับที่ตำรวจทำ เมื่อคดีพระสุพจน์เวลาผ่านมาจนครบ ๓ ปี ตนและผู้เกี่ยวข้องกับพระสุพจน์จึงแทบไม่เหลือความหวังใดๆ อยู่เลย" ประธานมูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์กล่าว


ต่อจากนั้น ประธานมูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ได้นำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปเยี่ยมชมกุฎิพระสุพจน์ สุวโจ และที่เกิดเหตุสังหารพระสุพจน์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากกุฎิที่พักเกือบ 400 เมตร


ทั้งนี้ ในวันที่ 16-17 มิ.ย.นี้ ในงาน "ครบรอบ 3 ปี การสังหาร พระสุพจน์ สุวโจ" จะมีการสรุปความไม่คืบหน้า คดีสังหารพระสุพจน์ สุวโจ โดย พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ, สรุปสถานการณ์การใช้ความรุนแรงและละเมิดสิทธิมนุษยชน โดย คุณเมธา  มาสขาว  คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.) นอกจากนั้น จะมีการเสวนาเรื่อง "สิทธิชาวบ้านกับการเข้าถึงความยุติธรรม"  นำการเสวนาโดย คุณกรณ์อุมา พงษ์น้อย, คุณรสนา โตสิตระกูล,คุณอังคณา นีละไพจิตรเป็นต้น


โดยในวันสุดท้ายของงาน จะมีพิธีกรรมแบบล้านนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ผู้จากไป รวมทั้งปาฐกถาธรรม "ก้าวข้ามความโกรธ รื้อถอนความรุนแรง" โดย พระไพศาล วิสาโล พร้อมกับการถวายผ้าป่าสามัคคีเพื่อกองทุนจัดตั้ง "มูลนิธิพระสุพจน์ สุวโจ" ด้วย 


 








 


กำหนดการ


งานครบรอบ ๓ ปี การสังหาร พระสุพจน์ สุวโจ


๑๕-๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๑


ณ สถานปฏิบัติธรรม "สวนเมตตาธรรม"


๓๑๓ หมู่ ๕ บ้านห้วยงูใน ตำบลสันทราย อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 


๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๑


๐๘.๐๐ - ๑๒.๐๐ น.  ลงทะเบียน


๑๓.๐๐ - ๑๖.๐๐ น.  บรรยายสรุปความเป็นมา, นำชมกุฏิพระสุพจน์ สุวโจ และที่เกิดเหตุ


                  โดย พระมหาเชิดชัย กฺวิวํโส


๑๙.๐๐ - ๒๑.๐๐ น.  ชมสารคดีเบื้องหลังและบทวิเคราะห์ กรณีการสังหาร


                  พระสุพจน์ สุวโจ  ผลงานถ่ายทำของเนชั่นทีวี 


๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๑


๐๙.๐๐ - ๑๑.๓๐ น.  สรุปความไม่คืบหน้า คดีสังหารพระสุพจน์ สุวโจ โดย พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ


๑๓.๐๐ - ๑๓.๓๐ น.  สรุปสถานการณ์การใช้ความรุนแรงและละเมิดสิทธิมนุษยชน


                  โดย คุณเมธา  มาสขาว  คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.)


๑๓.๔๕ - ๑๖.๐๐ น.  เสวนา "สิทธิชาวบ้านกับการเข้าถึงความยุติธรรม"


                  นำการเสวนาโดย


                        คุณกรณ์อุมา พงษ์น้อย,


                        คุณรสนา โตสิตระกูล


                        คุณอังคณา นีละไพจิตร


                        น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ


                        คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ


                        คุณถาวร เสนเนียม


    พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์


                        พ.อ.ปิยวัฒก์ กิ่งเกตุ


                        คุณไพโรจน์ พลเพชร


    คุณแสงชัย รัตนเสรีวงศ์


                        พระครูพิพิธสุตาทร


                        พระอธิการเอนก จนฺทปญฺโญ


                  ดำเนินรายการโดย   คุณสุริยันต์ ทองหนูเอียด


๑๙.๐๐ - ๒๑.๐๐ น.  การแสดงโดยเพื่อนชาวดาระอั้ง และปกากะญอ 


๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๑


๐๘.๐๐ - ๐๘.๓๐ น.  ร่วมภาวนาเพื่อ พระสุพจน์ สุวโจ


๐๘.๔๕ - ๐๙.๔๕ น.  พิธีกรรมแบบล้านนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ผู้จากไป


๑๐.๐๐ - ๑๑.๐๐ น.  ปาฐกถาธรรม "ก้าวข้ามความโกรธ รื้อถอนความรุนแรง"


                  โดย พระไพศาล วิสาโล


๑๑.๑๕ - ๑๑.๓๐ น.  ถวายผ้าป่าสามัคคีเพื่อกองทุนจัดตั้งมูลนิธิพระสุพจน์ สุวโจ 


หมายเหตุ


- อาหารและภัตตาหาร เช้า-เพล/เที่ยง เวลา ๐๗.๐๐ น. และ ๑๑.๓๐ น.


- อาหารเย็น(ฆราวาส) และน้ำปานะ(สำหรับภิกษุสามเณรและแม่ชี) เวลา ๑๗.๓๐ น.


     ผู้มาร่วมงานที่ประสงค์จะพักค้างคืนในสวนเมตตาธรรม ควรเตรียมกลด, เต็นท์ หรือถุงนอน และเครื่องใช้ส่วนตัวที่จำเป็นมาเอง


     เนื่องจากระยะเวลาจัดงานเป็นช่วงฤดูฝน กิจกรรมกลางแจ้งอาจปรับเปลี่ยนเวลาตามความเหมาะสม


 


ร่วมจัดโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ


            คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน


            คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน


            สมัชชาคนจน


            กลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก


            เครือข่ายพุทธิกา


            เครือข่ายพระนักพัฒนาภาคเหนือ


            สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ


            สำนักพิมพ์สุขภาพใจ


            และกลุ่มพุทธทาสศึกษา - มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์   


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :  คุณอาภาวดี งามขำ โทรศัพท์ 086- 757 -5156,


            E-mail : mail@metta.or.th, website : http://www.metta.or.th/ และ http://www.kittisak.org


 


 


 


ข่าวประกอบ


3 ปี คดีพระสุพจน์: ความอัปยศของกระบวนการยุติธรรม ท่ามกลางการเมืองที่สิ้นหวัง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net