Skip to main content
sharethis

5 มิ.. 51 - นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเปิดงานวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จัดกิจกรรมภายใต้คำขวัญที่องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กำหนดว่า CO2 Kick the Habit! Towards a Low Carbon Economy หรือ '' ลดวิกฤตโลกร้อน เปลี่ยนพฤติกรรม ปรับแนวคิดสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ'' ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ตอนหนึ่งว่า นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้เตือนว่าในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า น้ำจะท่วมประเทศเพราะน้ำทะเลขึ้นสูง แต่เท่าที่เงี่ยหูฟังกรมอุตุนิยมวิทยา ก็ยังเห็นว่าปกติ แต่ก็ไม่ละเลย


 


นายสมัครกล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่สร้างภาวะก๊าซเรือนกระจกสูงอันดับที่ 31 ของโลก จากทั้งหมด 192 ประเทศ ก็แปลว่าไทยเป็นประเทศที่เจริญดีพอสมควร แต่ไอ้หัวโจกอย่างสหรัฐทำลายมาก แต่เวลาประเทศอื่นเขาประชุมกัน ก็ไม่ยอมทำตาม และมีการจำแนกปัญหาโรคร้อนในประเทศไทยว่า เกิดจากภาคอุตสาหกรรมร้อยละ 50 ชาวนาร้อยละ 23 ป่าไม้ร้อยละ 17 มนุษย์ร้อยละ 10 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 10 เป็นประชาชนทั่วไป ดังนั้น เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะให้ปลูกต้นไม้ และเห็นด้วยการกับการสร้างเขื่อนอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถป้องกันน้ำท่วม ปล่อยน้ำทำการเกษตรกรรม ผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา ตลอดจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว


 


'' เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เก็บกักน้ำได้ 1.3 หมื่นลูกบาศก์เมตร เคราะห์ดีที่สร้างก่อนจะมีขบวนการปลุกระดม ก่อนเอ็นจีโอจะเกิด เช่นเดียวกับเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เก็บกักน้ำได้ 9.7 พันล้านลูกบาศก์เมตร แต่เขื่อนที่จะสร้างขึ้นมากั้นแม่น้ำยม จ.สุโขทัย เถียงกันมา 17 ปี จนบัดนี้ผ่านมา 30 ปีแล้ว ก็ยังสร้างไม่ได้ เพราะทุกคนต้องคารวะคุณพ่อเอ็นจีโอ ก็เลยสร้างไม่ได้ ก็ปลุกระดมกันบอกว่าทำไม่ได้ ซึ่งข้อดีของการมีเขื่อนพลังน้ำคือ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ อย่างเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ผลิตไฟฟ้าป้อน 32 จังหวัด ซึ่งต่อไปทุกอย่างจะใช้พลังไฟฟ้า ไม่ใช่รถจักรไอน้ำ หรือน้ำมันดีเซลอีกต่อไป นี่คือความสนับสนุนที่อยู่ในใจของผม''  นายสมัครกล่าว


 


นายสมัครกล่าวว่า ลาวมีเขื่อนพลังน้ำ 3 เขื่อน คือ เขื่อนน้ำงึม ผลิตไฟฟ้าใช้เองร้อยละ 10 ขายให้ไทยร้อยละ 90 เขื่อนน้ำเทิน 1 และเขื่อนน้ำเทิน 2 เก็บไฟไว้ใช้เองร้อยละ 15 ขายให้ไทยร้อยละ 85 และที่ลาวทำเขื่อนพลังน้ำได้เพราะไม่มีเอ็นจีโอ ไม่น่าเชื่อก็แล้วกัน ของไทยมีแร่โพแทช แต่ขุดมาใช้ไม่ได้ เพราะคุณพ่อเอ็นจีโอไม่ให้ขุด ขณะที่ลาวมีแร่เหล็กอะลูมินัม ให้เอกชนไทยเข้าไปขุดได้แล้วเอามาถลุงในไทย และให้ประเทศออสเตรเลียเข้าไปทำเหมืองทองแดง นี่แหละเพื่อนบ้าน ทำได้เพราะไม่มีคุณพ่อ คุณแม่ คุณพี่เอ็นจีโอ


 


นายสมัครยังกล่าวถึงข้อเสนอในการลดภาวะโลกร้อน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีว่า 1) เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส และถอดเสื้อนอก 2) ส่งเสริมการใช้น้ำมันอี 85 3) ส่งเสริมการขับรถด้วยความเร็วไม่เกินร้อยละ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง 4) ต่อต้านการใช้ถุงพลาสติค ก็โอเค แต่ขอบ่นหน่อยว่า ถ้าไปตลาดแล้วเจอแกงก็ซื้อไม่ได้น่ะสิ เพราะถุงผ้าใส่แกงไม่ได้ ครั้นจะเอากล่องพลาสติคไปใส่ก็ไม่ได้อีก คิดว่าคงหิ้วหม้อไปตลาดด้วย


 


นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการ ทส. กล่าวว่า การประชุมผู้บริหาร ทส.สัปดาห์หน้า จะหยิบยกการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่ลุ่มแม่น้ำยม ที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงขึ้นมาหารือ เพื่อศึกษาผลดีผลเสีย เพราะมีการศึกษาเรื่องพื้นที่และผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น หากมีการตัดสินใจสร้างเขื่อน ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าต้องสร้างเมื่อใด ก็ต้องพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ด้วย


 


'' การสร้างเขื่อนในแม่น้ำยม มีความจำเป็นสำหรับประชาชนมาก เพราะที่ผ่านมาในช่วงฤดูน้ำหลาก น้ำท่วมหนักทุกปี และส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนจำนวนมาก ถ้ามีการสร้างเขื่อนจะทำให้เก็บกักน้ำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติได้ แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าจะผลักดันให้สำเร็จในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาถูกต่อต้านมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันเชื่อว่ากระแสการต่อต้านน่าจะน้อยลง เพราะเห็นความจำเป็นของเขื่อนมากขึ้น '' นางอนงค์วรรณกล่าว


 


นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) กล่าวว่า ในฐานะที่ทำงานองค์การพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) มาก่อน ยินดีจะเชิญนายกรัฐมนตรี และนางอนงค์วรรณ ลงพื้นที่ดูสภาพป่าสักทองในพื้นที่โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นป่าเสื่อมโทรมอย่างที่เข้าใจ หรือได้รับการบอกเล่ามาหรือไม่ ซึ่งทุกวันนี้ชาวบ้านยังไม่ไว้ใจ กลัวจะมีการปลุกโครงการขึ้นมาอีก เฝ้าระวังกันตลอด ยิ่งตอนนี้หน้าฝนป่าเขียวชุ่มชื่น มีนกยูงออกหากินร้องระงม นับร้อยๆ ตัว ไปพิสูจน์กันได้ตลอดเวลา


 


นายหาญณรงค์กล่าวว่า ที่นายกฯบอกว่าสร้างเขื่อนช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น เป็นการพูดเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าเป็นคนมีภูมิปัญญา แต่ความจริงแล้วรู้ไม่หมด รู้แค่ครึ่งเดียว เพราะขณะนี้ยูเอ็นมีข้อมูลออกมาชัดเจนทั่วโลกรู้กันหมดแล้วว่า ช่วง 10 ปีแรกของการเกิดเขื่อนนั้น ตัวเขื่อนจะปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นตัวทำลายชั้นบรรยากาศ และเป็น 1 ในส่วนประกอบของก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนด้วย


 


'' นายกฯไม่ระวังคำพูดเหมือนเช่นทุกครั้ง ที่เรียกเอ็นจีโอว่า คุณพ่อ ไม่มีใครบอกเขาเลยหรือว่า มากกว่าครึ่งของจำนวนคนกว่า 2,000 คน ที่นั่งฟังท่านอยู่ในห้องประชุมนั้นเป็นชาวบ้าน และเอ็นจีโอทั้งหมด ส่วนนางอนงค์วรรณบอกว่าจะเรียกประชุมข้าราชการที่เกี่ยวข้องหารือเรื่องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้น แสดงให้เห็นอย่างชัดว่าเป็นรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมที่ไม่ปกป้องทรัพยากรบ้านตัวเอง''  นายหาญณรงค์กล่าว


 


......


ที่มา:


เวบไซต์มติชน


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net