เอ็นจีโอใต้ประกาศหนุนพันธมิตรล้มระบอบทักษิณ

 

5 มิ.ย. ที่ศูนย์ประสานงานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) อ.เมือง  จ.สงขลา คณะกรรมการ กป.อพช.ใต้ และเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ ได้แถลงข่าวประกาศจุดยืนเคียงข้างพันธมิตรล้มระบอบทักษิณ สืบเนื่องจากระบอบทักษิณเป็นปัญหาของชาติ และการชุมนุมของพันธมิตรไม่ใช่เงื่อนไขความรุนแรงของสังคมไทย

 

นายบรรจง  นะแส เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) กล่าวว่า คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในทุกรูปแบบ ตั้งแต่บัดนี้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ และกล่าวว่าต่อกรณีการเคลื่อนไหวรณรงค์ใช้สัญลักษณ์ ความเห็นต่างได้แต่ไม่ใช้ความรุนแรงนั้น เราเห็นด้วยกับการไม่ใช้ความรุนแรงกับทุกภาคส่วนในสังคมไทย แต่ประเด็นที่เป็นข้อคิดเห็นรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวชไม่ได้หยิกยกขึ้นมาพิจารณา แต่ยกฉวยเอาขบวนการรณรงค์สัญลักษณ์สีขาวไปขยายผล  เบี่ยงเบนความสนใจของสังคมไทยทีกำลังสนใจกลุ่มพันธมิตรที่กำลังพยายามนำเสนอปัญหาของสังคมไทยที่เกิดจากระบอบทักษิณ และใช้แนวคิดดังกล่าวฟอกตัวให้กับตนเองและระบอบทักษิณ  เห็นได้จากการขยายผลไปยังกลุ่มต่างๆ ซึ่งสื่อเองไม่ได้นำเสนอข้อมูลความเลวร้ายของระบอบทักษิณที่ได้กระทำกับสังคมไทยตอลดระยะ 6 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นขอเรียกร้องให้สื่อควรให้ความเป็นธรรมในการนำเสนอข่าวปัญหาที่เกิดจากระบอบทักษิณกับสังคมไทยด้วยจึงจะเกิดความเป็นธรรมไม่ใช่เลือกนำเสนอหรือหยิกยกเพียงบางประเด็น บางด้านมาเสนอข่าวเท่านั้น

 

ต่อแนวคิดของนักวิชาการบางท่านที่ออกมานำเสนอประเด็นแนวคิดล้าหลัง คลั่งชาติมาตอบโต้กลุ่มพันธมิตรนั้น ตนเองคิดว่าคำว่าล้าหลังของการพัฒนาประเทศต้องมาตั้งคำถามว่าล้าหลังของใคร ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาระบอบทักษิณไก้สร้างระบบคลั่งชาติขึ้นในสังคมไทย กรณีปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมาทักษิณไม่ให้ความเคารพความคิด ความเชื่อของศาสนิกต่างศาสนาทำให้เกิดความแตกแยก ก่อกระแสความเกลียดชังต่อพี่น้องมุสลิมในสังคมไทย  นี่คือรูปธรรมคลั่งชาติที่ระบอบทักษิณก่อขึ้น  ดังนั้นนักวิชาการอย่านำเสนอประเด็นลอยๆเพื่อสร้างวาทกรรมเท่านั้น แต่ต้องหยิกยกรูปธรรมที่เกิดขึ้นจริงมาวิเคราะห์ด้วย

 

ด้านนายกิตติภพ สุทธิสว่าง องค์กรพัฒนาเอกชน ตอบประเด็นที่มีผู้สื่อข่าวถามกรณีการที่พันธมิตรปิดถนนสร้างความเดือนร้อนให้กับนักเรียนนักศึกษาและรถติดนั้น ว่าเวลานี้รัฐบาลและสื่อพยายามนำเสนอเฉพาะปัญหาเล็กๆที่เกิดขึ้นแต่ปัญหาของชาติและต้นตอของปัญหาไม่ได้ถูกนำเสนอ ในความเป็นจริงปัญหาจราจรเป็นปัญหาความเดือดร้อนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปัญหาที่เกิดจากระบอบทักษิณ แต่สื่อพยายามนำเสนอและให้ความสนใจ แต่ปัญหาใหญ่ระดับชาติที่ระบอบทักษิณกระทำกับสังคมไทยกลับไม่ถูกนำเสนอทางสื่อ ทั้งที่ปัญหาสังคมไทยที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นกระทำของระบอบทักษิณไม่ว่าจะปัญหาเศรษฐกิจข้าวของแพง ราคาสินค้าขึ้นสูงริบทั้งข้าวสาร น้ำตาล น้ำมัน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ทำให้ทุกภาคส่วนในสังคมไทยเดือดร้อนไม่ว่ากรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด ซึ่งต้นเหตุจริงๆมาจากการที่ระบอบทักษิณนำปตท.มาแปรรูปให้กับนายทุนเข้ามาถือหุ้นและกอบโกยเอาผลประโยชน์ท่ามกลางความเดือนร้อนของประชาชน

 





 

คำประกาศคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้

 

ประเทศไทยในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การยึดกุมอำนาจของพรรคไทยรักไทยและได้แปลงร่างมาเป็นพรรคพลังประชาชน สืบต่ออำนาจและระบบทุนนิยมสามานย์มาจนถึงปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อสังคม ในทิศทางที่ทำให้สังคมไทยเสื่อมทรามลงในทุกด้าน

 

ระบบเศรษฐกิจได้ผูกขาดรุมทึ้งตักตวงผลประโยชน์ของชาติไว้ในอุ้งมือของพวกพ้อง โดยวิธีฉ้อฉลทุกรูปแบบ  สังคมเสื่อมทรามไร้คุณธรรมและจริยธรรม  คุณค่าทางศาสนาและวัฒนธรรมถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ โดยรัฐบาลได้ชี้นำผลักดันให้สังคมไทยผูกโยงรัดตรึงให้มองเห็นแต่คุณค่าของเงินทองเป็นใหญ่เท่านั้น  ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันเป็นฐานปัจจัยการผลิตของผู้คนส่วนใหญ่ ไม่ว่าป่าไม้ ที่ดิน แม่น้ำ ลำคลอง ตลอดจนทรัพยากรชายฝั่งและในทะเลได้ถูกปล่อยปละละเลยให้ระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา  ไม่มีมาตรการปกป้องดูแลเกษตรกรและผู้อ่อนแอของสังคมในทุกอาชีพ  ปล่อยให้พี่น้องซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศต้องเผชิญกับความอดอยากยากจน ดำเนินชีวิตตามยถากรรม ช่องว่างทางสังคมจึงถ่างออกไปเรื่อยๆ ช่องว่างระหว่างคนยากจนกับคนที่ร่ำรวยและได้เปรียบในสังคมปล่อยให้เป็นไปอย่างไร้ขีดจำกัด  ระบบการศึกษาที่แท้จริงถูกละเลย  แต่ได้นำเอาระบบการศึกษาไปผูกติดกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจเพียงมิติเดียว  --ทำให้ระบบการศึกษาเป็นธุรกิจการศึกษามากขึ้น  ทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศเข้าไม่ถึง ได้รับผลกระทบกว้างขวาง นักเรียนบางคนต้องฆ่าตัวตาย

 

การจัดโครงสร้างการเมืองการปกครองของระบบทักษิณในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา  ได้มุ่งสู่การรวมศูนย์ทางอำนาจและรวมศูนย์ระบบเศรษฐกิจของประเทศเอาไว้ในหมู่บริวารของตัวเองเท่านั้น  ซ้ำมุ่งทำลายขบวนการตรวจสอบขบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน กระบวนการยุติธรรมทุกระดับ พัฒนาประเทศด้วยโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่คำนึงผลกระทบและความเดือนร้อนของผู้คนชุมชน

 

ปรากฏการณ์ทางรูปธรรมที่เป็นตัวยืนยันถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณในรอบ 6 ปีในพื้นที่ภาคใต้มีมากมาย เช่น

 

1. สร้างความแตกแยกความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ทำให้ชีวิตของผู้คนต้องสูญเสียจำนวนมาก ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดโกรธแค้นเกลียดชังของประชาชนที่มีความแตกต่างทางศาสนา นับตั้งแต่เข้ามามีอำนาจจนถึงปัจจุบัน

 

2.  แทรกแซงองค์กรอิสระ สื่อมวลชน ละเมิดรัฐธรรมนูญแทรกแซงขบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้กำลังตำรวจเข้าสลายการชุมชนอย่างสงบของชาวบ้านในกรณีท่อส่งก๊าซไทย-มาเลเซีย  ซึ่งต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแล้วว่าชาวบ้านไม่มีความผิด และศาลปกครองก็ได้พิพากษาใช้ตำรวจชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้าน  แนวความคิดที่ไม่เคารพสิทธิของชุมชนและการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลทักษิณได้รับการส่งต่อราวกับมรดกมายังนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันในกรณีจะใช้อำนาจสลายการชุมชนของพันธมิตรฯ

 

3. สมคบกับต่างชาติเสวงหาผลประโยชน์เข้าพรรคพวกกรณีโครงการท่อส่งก๊าซโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซียและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียผลประโยชน์โดยรวม แต่คนในระบบทักษิณได้ประโยชน์ไปเฉพาะตัวเฉพาะกลุ่ม นอกจากนี้ยังได้ใช้อำนาจละเมิดที่ดินวะกัฟ อันเป็นที่ดินสาธารณะที่ชาวบ้านได้มอบให้กับพระเจ้าตามหลักศาสนาอิสลาม ไปให้กับบริษัท ปตท. จำกัด นับเป็นการสร้างรอยแผลในสังคมที่ละเอียดอ่อนและลึกมาก

 

4.ปล่อยให้ทุนต่างชาติเข้ายึดกุมผลประโยชน์ของชาติเช่นกรณีบริษัทเชฟรอนที่เข้ามาผูกขาดการสำรวจขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ แหล่งน้ำมันในอ่าวไทยระยะยาวและแบ่งผลประโยชน์ให้ประเทศชาติเพียงน้อยนิดทำให้ประเทศเสียเปรียบต่างชาติ มีการต่อสัญญาต่อสัมปทานระยะยาวและไม่เปิดเผยผลประโยชน์ที่ชาติจะได้รับต่อสาธารณะ

 

5. วางแผนให้กลุ่มทุนไร้สัญชาติเข้ามาเสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลในอ่าวไทย  กรณีของบริษัทนิวคาสตอลที่ได้รับสัมปทานขุดเจาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน  โดยไม่เปิดเผยผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับต่อสาธารณะ  ซ้ำร้ายบริษัทดังกล่าวก็ตั้งอยู่บนเกาะเคแมน ซึ่งรับรู้กันทั่วไปว่า  เป็นเกาะที่เป็นแหล่งฟอกเงินของเหล่าทุนสามานย์ทั่วโลก

 

6.  ผลักดันโครงการขนาดใหญ่กรณีโครงการแลนด์บริด สงขลา-สตูล โดยร่วมมือกับทุนข้ามชาติ  มีท่าเรือน้ำลึกทั้งสองฝั่ง ที่จะกระทบต่อผู้ประกอบอาชีพของผู้คนจำนวนมาก แต่ไม่แยแสต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว  รวมไปถึงท่าเรือมารีน่าในฝั่งอันดามันด้วย

 

7. ไม่ใช้กระบวนการยุติธรรมในการคลี่คลายและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกรณีกรือแซะ และตากใบ ก่อให้เกิดความเคียดแค้นชิงชังขึ้นระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่งผลให้ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ยังมองไม่เห็นทางยุติ

 

8. ซ้ำเติมปัญหาของเกษตรกรผู้ใช้ฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการประกอบอาชีพในพื้นที่ป่าชายฝั่งพื้นที่ประสบภัยสึนามิโดยใช้มาตรการแข็งกร้าว ตรวจจับยื่นฟ้องด้วยข้อหาที่รุนแรงต่อผู้คนที่ด้อยโอกาส

 

ในรอบ 6 ปีของระบอบทักษิณ  ปัญหาของพี่น้องคนส่วนใหญ่ของภาคใต้นอกจากจะไม่ได้รับการดูแล หรือมีเป้าหมายของการพัฒนาที่จะลดความอดอยากยากแค้น ไร้ความยุติธรรมแล้ว ระบอบทักษิณยังซ้ำเติมให้ปัญหาต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

 

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช ใต้) ในฐานะองค์กรพัฒนาที่ทำงานช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส  ผู้ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมในทุกสาขาอาชีพในภาคใต้ ได้ประชุมร่วมกันและวิเคราะห์แล้วเห็นว่า หากขืนปล่อยให้พรรคพลังประชาชนอันเป็นพรรคการเมืองที่แปลงร่างมาจากพรรคไทยรักไทยในอดีต และใช้ระบอบทักษิณหรือทุนนิยมสามานย์ปกครองประเทศต่อไปแล้ว  ความเลวร้ายความอดอยากยากจนของคนส่วนใหญ่จะไม่ได้รับการดูแลปกป้องแล้ว  เป็นไปได้สูงที่จะทำให้ประเทศชาติของเราล่มจม ผู้คนจะถูกกระทำย่ำยี  สังคมจะเสื่อมโทรมในทุกมิติ ความเป็นชาติไทย สังคมไทยจะสูญสิ้น

 

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในทุกรูปแบบ  ตั้งแต่บัดนี้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ

 

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท