รัฐบาลพม่าประกาศว่า สถานการณ์ในพื้นที่ประสบภัยจากพายุนาร์กิสได้ผ่านพ้นช่วงเวลาของการบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยไปแล้ว โดยขณะนี้เป็นช่วงของการฟื้นฟูบ้านเมือง ในขณะที่หน่วยบรรเทาทุกข์ทั้งในและนอกประเทศยังคงระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

นายพลอาวุโสหม่องเอ รองผู้นำระดับสูงของพม่าประกาศระหว่างการประชุมกับเจ้าหน้าที่ในเมืองปะเตง เมืองหลวงของภาคอิระวดีว่า รัฐบาลพม่าได้ทำหน้าที่บรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลนนาร์กีสเป็นผลสำเร็จในช่วงเวลาอันสั้น ซึ่งขัดแย้งกับสถานการณ์ที่ได้รับรายงานของหน่วยบรรเทาทุกข์ทั้งในและนอกประเทศ โดยคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของพรรคเอ็นแอลดีเปิดเผยว่า หลายหมู่บ้านในเขตชนบทห่างไกลที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจนถึงทุกวันนี้ 

นายญาณวิน โฆษกพรรคเอ็นแอลดีกล่าวว่า มีผู้ประสบภัยที่คาดว่าได้รับความช่วยเหลือเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้น หากรัฐบาลพม่าเปิดรับความช่วยเหลือทั้งสิ่งของและเจ้าหน้าที่จากภายนอก ก็จะสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตชนบทที่ยังต้องอยู่อย่างอดอยากได้มากขึ้น

นายพอล ลิสลีย์  โฆษกขององค์การอาหารโลกประจำกรุงเทพฯ กล่าวว่า แม้การช่วยเหลือเบื้องต้นสิ้นสุดลงแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็น "การบรรเทาทุกข์" หรือ "การฟื้นฟู" ในความเป็นจริงก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน เพราะขณะที่การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในตัวเมืองลาบุตตาและโบกาเลในพื้นที่ปากแม่น้ำอิระวดีสามารถทำได้ แต่หลายพื้นที่ในเขตห่างไกลยังคงเข้าถึงยาก

ขณะที่มีรายงานว่า การช่วยเหลือด้านสิ่งของให้กับผู้ประสบภัยยังคงมีปัญหาและค่อนข้างยากเนื่องจากต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลพม่า  ทั้งนี้ องค์การอาหารโลกกำลังประสานงานกับรัฐบาลพม่าเพื่อขออนุญาตอนุญาตนำเฮลิคอปเตอร์เข้าไปแจกจ่ายอาหารและสิ่งของบริจาคให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งขณะนี้เฮลิคอปเตอร์จำนวน 1 ลำในกรุงย่างกุ้ง และอีก 9 ลำในกรุงเทพ ฯ พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือในทันที

อย่างไรก็ตาม มีรายงานอย่างต่อเนื่องว่า รัฐบาลได้ขับไล่ผู้ประสบภัยตามศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กลับไปซ่อมแซมบ้านเรือนและเพาะปลูกพืชผลในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการฟื้นฟู

นักธุรกิจคนหนึ่งจากองค์กรเอ็นจีโอยาดานาในกรุงย่างกุ้งที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตหมู่บ้านชนบทของเมืองลาบุตตากล่าวว่า พื้นที่ที่ดังกล่าวมีผู้รอดชีวิตเพียงไม่กี่คน และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดๆ "มันเป็นภาพที่น่าเศร้ามาก ชาวบ้านไม่มีน้ำดื่มสะอาด ไม่มีอาหาร ไม่มีที่พัก สถานการณ์เหมือนกับเพิ่งเกิดเหตุการณ์พายุไซโคลนนาร์กีสเข้าพัดถล่มใหม่ๆ"

นอกจากนี้ ร่างผู้เสียชีวิตยังคงลอยอึดอยู่ในแม่น้ำและยังไม่มีการเก็บกู้ศพแต่อย่างใด ขณะที่ ผู้คนเริ่มอดอยากและเกิดโรคระบาดในหมู่บ้านหลายแห่ง ทั้งนี้คาดว่า จะมีผู้ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนนาร์กีสครั้งนี้ถึง 2.4 ล้านคน

(ที่มา/Mizzima/Irrawaddy)

CHUEM NEWS โดย ศูนย์ข่าวสาละวิน ติดตามสถานการณ์