ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเดินทางกลับจากสหภาพพม่า ว่า ไปทำหน้าที่ตามที่ นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ขอร้องให้เข้าเจรจาถึงเหตุการณ์ร้ายแรงที่ประเทศพม่าว่ามีคนตายไม่มีที่อยู่ หรือคนที่ไม่ควรจะตายแล้วตาย ซึ่งต่างชาติได้เสนอความช่วยเหลือเต็มที่ วันนี้เป็นการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีของ2 ประเทศคือ ไทย และพม่า คุยกัน 2 ชั่วโมงครึ่ง นายกฯพม่าได้นำแผนที่ผืนใหญ่มาให้ดู  และระบุว่าพม่ามีทรัพยากรเหมือนทุกประเทศ มีประชากรกว่า 60 ล้านคน ความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และระยะเวลาที่เกิดยาวนานมาก ความเสียหายส่วนใหญ่เป็นเมืองตามชายทะเล ซึ่งนายกฯพม่าไม่คาดคิดว่าจะได้รับความเสียหายมากขนาดนี้ ขนาดต้น 2 คนโอบยังโดนแรงลมถอนรากถอนโคนออกมากองที่พื้น

นายสมัคร กล่าวว่า วันนี้เดินทางไปหลังจากเกดเหตุการณ์ 10 วัน เขายืนยันว่า เขาสามารถดูแล จัดการเองได้ ทำหน้าที่ได้ครบถ้วน มีรัฐบาล มีเอกชนที่ช่วยกันดูแลประชาชน  อย่างไรก็ตามพม่ามีศูนย์รับดูแลประชาชนจำนวน 600 ศูนย์ โดยมีศูนย์ ใหญ่ 3 ศูนย์ มีทหาร 4กองพลเข้าไปช่วยดูแล ข้าวของที่ใครคิดว่ามีการยักยอกเขาก็เปิดให้ดูว่าของที่ต่างชาติบริจาค รวมถึงของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ยังคงอยู่ที่นั่น เขาอยู่ของเขาได้ เขาทำของเขาได้เรียบร้อย  ความเสียหายที่เกิดขึ้นวันนี้มีคนตาย 31,000สูญหาย 29,000 คน

นายสมัคร กล่าวด้วยว่า การที่27 ประเทศต้องการจะส่งของเข้ามาช่วยเหลือและต้องการจะส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลโรคระบาดและการขาดแคลนอาหารนั้น เขายืนยันว่า มีภาคเอกชน และคณะรัฐมนตรีดูแลกันมาตลอด แน่ใจว่าแก้ไขได้ ยังไม่มีโรคระบาด ไม่มีอดอาหาร มีของกิน เขายืนยันว่า ยินดีรับความช่วยเหลือ แต่ไม่ต้องการผู้เชี่ยวชาญเข้ามา  อย่างไรก็ตามได้ขอให้พม่าพิจารณาให้ประเทศอื่นๆเข้าประเทศพม่า  ซึ่งเขาจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวดู

สำหรับสิ่งที่พม่าต้องการความช่วยเหลือและได้ร้องของจากประเทศไทยในเบื้องต้นในด้านการก่อสร้าง แต่สิ่งที่ต้องการด่วนคือ เครื่องสูบน้ำ เพื่อมาสูบน้ำเค็มออกมาจากบ่อน้ำจืด นอกจากนี้ยังต้องการแผ่นสังกะสี ตะปู และควายเหล็ก (ที่พม่าเรียกควายไทย) เพื่อให้ชาวนาทำมาหากินได้ แต่สิ่งที่เขากระซิบบอกกับตน ว่า อยากได้หมอ พยาบาล ซึ่งไทยได้เตรียมทีมแพทย์และพยาบาล 20 ชุด และทีมปราบปรามโรคระบาด อีก 20 ชุด ซึ่งไทยจะดำเนินการส่งให้อย่างเร็วที่สุด ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ต้องการทำกันแบบเอิกเกริก

นายสมัคร กล่าวด้วยว่า สำหรับการขอวีซ่าเข้าประเทศพม่านั้น ทางพม่าจะพิจารณาเป็นรายบุคคล แต่ถ้าเป็นคณะจะไม่พิจารณา

ที่มา : แนวหน้า