Skip to main content
sharethis

พล.ต.จำลอง ขุนสงค์ รองผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้เปิดศูนย์ประชาชนร่วมใจแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยสันติวิธี ขึ้นที่บ้านควนดิน อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ใกล้กับที่ตั้งกองพลทหารราบที่ 15 ตรงข้ามค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ไม่สงบ


 


พล.ต.จำลอง เปิดเผยอีกว่า ศูนย์ดังกล่าว ได้เปิดรับผู้ที่เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย อาจถูกผู้ก่อความไม่สงบตามไปทำร้ายร่างกายได้ หากยังอยู่ในพื้นที่ ดังนั้นการตั้งศูนย์ขึ้นเพื่อให้เป็นที่พักพิงชั่วคราว รวมทั้งเป็นสถานที่ที่จะให้ผู้ที่ต้องการแสดงตนว่าไม่เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ หรือจะร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นด้วย


 


พล.ต.จำลอง เปิดเผยต่อว่า ศูนย์ดังกล่าว ตั้งขึ้นเพื่อทดแทนศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ หรือ "ศูนย์วิวัฒน์สันติ" เดิม ที่ตั้งอยู่ในค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เนื่องจากสถานที่คับแคบและที่ผ่านมาได้ใช้เป็นสถานที่ควบคุมตัวผู้ที่ต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบจำนวนมาก


 


อีกทั้งการเปิดศูนย์นี้ ได้ใช้อำนาจตามมาตราพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ที่ใช้ในการควบคุมดูแลผู้ต้องสงสัย และคุ้มครองผู้ที่ได้รับผลกระทบ


 


ขณะเดียวกัน คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ได้เปิดศูนย์ประสานงานขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ โดยเฉพาะจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2551 เป็นต้นมาแล้ว


 


โดยศูนย์ประสานงานแห่งแรกตั้งขึ้นที่อาคารตรงข้ามปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนหนองจิก อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเดินทางไปร้องเรียนได้สะดวก โดยจะมีเจ้าหน้าที่ รวมทั้งองค์กรพันธมิตรที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ เช่น สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย (ยมท.) ศูนย์ทนายความมุสลิม ร่วมเป็นคณะทำงานให้ความช่วยเหลือด้วยในทางหนึ่งด้วย


 


นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ศูนย์แห่งนี้เปิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย เช่น หากชาวบ้านต้องการเยี่ยมญาติที่ถูกควบคุมไป ก็จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้ญาติสามารถไปเยี่ยมได้ หรือหากไม่สามารถหาทนายได้ ก็จะให้ความช่วยเหลือโดยให้เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย ของมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เป็นต้น


 


นางอังคณา เปิดเผยอีกว่า การเปิดศูนย์ดังกล่าว เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐได้รับทราบว่า ได้มีสำนักงานตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว และจะมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ประจำด้วย อย่างไรก็ตาม จะมีการเปิดศูนย์ประสานงานดังกล่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่รัฐเข้าร่วมด้วย


 


นางอังคณา เปิดเผยด้วยว่า คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ได้ทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มา 1 ปีกว่าแล้ว มีกรณีที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาหลายรายแล้ว ดังนั้นการตั้งศูนย์ประสานงานในพื้นที่ก็เพื่อไม่ต้องการให้เห็นว่า ทำงานอย่างหลบๆ ซ่อนๆ และไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐระแวงสงสัย


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net