Skip to main content
sharethis

ตัวแทนชาวบ้าน 5 พันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมประจวบฯ เดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านการต่อสัญญาเช่าใช้ที่ดินสาธารณะที่อยู่ในความดูแลของ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 350 ไร่ ซึ่งให้บริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กในเครือสหวิริยาเช่าใช้ประโยชน์อยู่และจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนธันวาคมปีนี้


 


แกนนำชาวบ้าน ยื่นหนังสือดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งถึงนายกฯอบจ. จ.ประจวบคีรีขันธ์, ผู้ว่าราชการจ.ประจวบคีรีขันธ์,คณะกรรมการป.ป.ช. และคณะกรรมการสิทธืมนุษยชนแห่งชาติ


 


นอกจากนี้ ยังได้ยื่นหนังสือติดตามเรื่องการดำเนินคดีและการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทับที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่รำพึงอีก 611ไร่ ของบริษัทสหวิริยา ซึ่งได้มีการแจ้งความดำเนินคดีมาตั้งแต่ปี 2535 แต่ปัจจุบันเรื่องได้เงียบหายไป


 


นายวิฑูรย์ บัวโรย ประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงกล่าวว่า ชาวบ้านแม่รำพึงมีมติร่วมกันที่จะทวงที่สาธารณะและป่าสงวนแม่รำพึงจำนวนโดยรวมประมาณ 961ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นป่าชายเลนและเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ชุ่มน้ำแม่รำพึง และเป็นแก้มลิงธรรมชาติของคนบางสะพานคืนสู่ชุมชน พื้นที่นี้ควรเป็นพื้นที่อนุรักษ์และเป็นแหล่งอาหาร พื้นที่เพาะเลี้ยงที่ยั่งยืนของส่วนรวมไม่ควรถูกนำไปใช้ประโยชน์เพื่ออุตสาหกรรมเหล็กเรายืนยันที่จะใช้ประโยชน์ในที่ดินผืนดังกล่าวและคัดค้านการที่รัฐจะเอื้อให้เอกชนเช่าที่ดินผืนใหญ่นี้ไปลดต้นทุนแสวงหากำไรส่วนตัว


 


 


 


 


50 หมู่1 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน


จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77140


 


                                                                     24 เมษายน 2551


 


เรื่อง ขอให้ตรวจสอบและขอคัดค้านการอนุญาตให้เอกชนเช่าที่ดินสาธารณะที่อยู่ในความดูแลของอบจ.ประจวบคีรีขันธ์


 


เรียน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ


 


ตามที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้อนุญาตให้เอกชนเช่าที่ดินสาธารณะบริเวณตำบลแม่รำพึงจำนวนประมาณ 350 ไร่ให้แก่


 


1. บริษัท เวสเทิร์นซีบอร์ด จำกัด โดย นายผดล พรโสภณชัย เช่าใช้ประโยชน์ในที่ดินประมาณ 230ไร่ เพื่อกิจการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็กต่างๆและสาธารณูปโภคซึ่งสัญญาเช่าจะครบกำหนดภายใน30 ธันวาคม 2551 โดยจ่ายค่าเช่าตาราวาละ14.30บาท


2. บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) โดย น.ส.พิมพิชชา ศรีเล็ก เช่าใช้ประโยชน์ในที่ดินประมาณ 120 ไร่เพื่อกิจการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็กต่างๆ และสาธารณูปโภค ซึ่งสัญญาเช่าจะครบกำหนดในวันที่ 30 ธ.ค. 51 โดยจ่ายค่าเช่าตารางวาละ 12.08 บาท


 


เราขอคัดค้านการให้เอกชนรายหนึ่งรายใดเช่าใช้ต่อด้วยเหตุผลดังนี้


 


1. พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์สูง เพราะเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ป่าชายแลน ป่าชุ่มน้ำแม่รำพึง และเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่แก้มลิงธรรมชาติของอำเภอบางสะพาน ไม่ควรให้เอกชนเข้าทำประโยชน์เพื่อทำอุตสาหกรรมเหล็กและสาธารณูปโภคเพื่อแสวงหากำไรส่วนตัว และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีคุณค่าไป อีกทั้งการเปลี่ยนสภาพพื้นที่แก้มลิงยังสร้างปัญหาน้ำท่วมบางสะพานซ้ำซาก


 


2. แนวทางในการพิจารณาการใช้ประโยชน์ หากพื้นที่ดังกล่าวมีความเสื่อมโทรมลง รัฐควรพิจารณาส่งเสริมให้เกิดการฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนและป่าชุ่มน้ำให้สมบูรณ์ มากกว่านำไปให้เอกชนเช่าใช้แสวงหาผลประโยชน์


 


3. การนำที่ดินสาธารณะออกให้เอกชนโรงงานอุตสาหกรรมเช่าใช้ทำประโยชน์ในทางธุรกิจเพื่อแสวงหากำไร จะสร้างสันดานที่เห็นแก่ตัวให้บริษัทเอกชนที่ขาดธรรมมาภิบาล ใช้วิธีเดียวกันนี้ รุกที่สาธารณะหรือป่าสงวนแห่งชาติ ด้วยการออกเอกสารสิทธิเท็จทับซ้อน หากจับไม่ได้ก็ถือว่าเป็นค่าโง่ของส่วนรวมที่ต้องเสียรู้ แต่หากถูกจับได้ก็ขอเช่าใช้ในราคาถูกๆ จึงจะเห็นได้ว่านี่เป็นช่องทางการหาที่ดินราคาถูกๆมาใช้ลดต้นทุนทางอุตสาหกรรม


 


4. การพิจารณาให้เช่าใช้พื้นที่สาธารณะที่ควรค่าอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์ไปเอื้อให้เอกชนลดต้นทุนในการจัดซื้อที่ดินทำโรงงานอุตสาหกรรม จึงไม่ใช่แนวทางที่รัฐควรจะทำ เพราะการมีแนวทางปฏิบัติเช่นนี้ จะเท่ากับหน่วยราชการกำลังส่งเสริมให้มีการยึดครองที่สาธารณะทำลายป่าสงวนแห่งชาติเสียเอง


 


5. นายทุนอุตสาหกรรมที่เช่าใช้ที่ดินสาธารณะ ไม่ใช่คนจน คนยากไร้ที่รัฐต้องพิจารณาให้เช่าบนพื้นฐานมนุษยธรรม เหมือนการสร้างบ้านเพื่อซุกหัวนอน แต่กรณีนี้เป็นการทำอุตสาหกรรม ที่ควรอย่างยิ่งที่จะต้องสำนึกได้ว่า การใช้ที่ดินสาธารณะสมบัติส่วนรวมไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว บริษัทที่มีสำนึกที่ดี รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมไม่ควรทำ


 


6. อย่าหลงกลลวงภายใต้ความพยายามทำให้เห็นว่า เหล็กสำคัญต่อชาติ เพราะข้อเท็จจริงที่เราจะต้องไม่ลืมคือชีวิตคนในชาติและสิ่งแวดล้อมสำคัญกว่าเหล็ก


การก่อสร้างอุตสาหกรรมที่มีมลพิษเข้มข้นอย่างนิคมอุตสาหกรรมเหล็ก จึงเป็นทิศทางการพัฒนาที่เราไม่ควรส่งเสริม เพราะการสนับสนุนให้ก่อสร้างอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษสูงเช่นนี้ ไม่แตกต่างจากการขุดหลุมฝังชีวิตตัวเองและลูกหลานในอนาคต


 


7. เรายืนยันต้องการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะผืนนี้ซึ่งเป็นป่าชายเลน ป่าชุ่มน้ำ โดยมีแนวทางร่วมกันเพื่อการอนุรักษ์ ทางนิเวศวิทยาและเป็นแหล่งอาหารของชุมชนอย่างยั่งยืน รัฐมีหน้าที่ในการดูแลการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะเพื่อประโยชน์ของคนส่วนรวม มิควรเอาที่ดินสาธารณะที่ชาวบ้านต้องการใช้ประโยชน์ไปให้เอกชนใช้แสวงหากำไรเพื่อธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็ก


 


จึงขอคัดค้านการต่อสัญญาเช่าและขอยืนยันใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะตำบลแม่รำพึงที่อยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ให้ใช้ประโยชน์ในแนวทางการอนุรักษ์และเป็นแหล่งอาหารที่ยั่งยืนของชุมชนร่วมกันตลอดไปและขอสงวนสิทธิที่จะคัดค้านเอกชนทุกรายที่ขอเช่าใช้ที่ดินสาธารณะผืนนี้และเพื่อความโปร่งใสหากมีการประชุมพิจารณาในการเช่าที่ดินสาธารณะดังกล่าวขอให้แจ้งวันเวลา สถานที่ประชุมให้แก่กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงทราบล่วงหน้าด้วย


 


 


 


 


ขอแสดงความนับถือ


 


นายวิฑูรย์ บัวโรย


ประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net