ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 13 เมษายน 2551

ในประเทศ

 

 

พปช.แก้ม.237 สู้ยุบพรรค

เว็บไซต์คมชัดลึก - "ยงยุทธ" ขอพักงานปัดตอบรับชท.-มัชฌิมาฯซบหากถูกยุบ "อนุสรณ์" โทษ รธน.ไม่เป็น ปชต.ทำยุบพรรค ระบุกรณี "ยงยุทธ" ยังอยู่ชั้นศาลไม่เหมือนสองพรรค "ประชัย"ปลงการเมืองลั่นไม่ยุ่งอีกแล้ว "สุนทร" ปัดต้นเหตุยุบพรรคอ้างไม่มีเงินซื้อเสียง เด็ก"สมศักดิ์"ชี้วิกฤตยุบพรรคเปิดโอกาสคนรุ่นใหม่เข้าสู้การเมือง ทำลายระบบนักการเมืองเก่าผูกขาด

 

พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในฐานะคณะทำงานด้านกฎหมายคดีใบแดงของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติ 4 ต่อ 1 เสียง ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเตรียมส่งสำนวนฟ้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย จะมีการเชื่อมโยงไปถึงการให้ยุบพรรคพลังประชาชนด้วย เพราะเชื่อจะมีการตั้งธงที่จะยุบ 3 พรรค ซึ่งคณะทำงานจะต่อสู้พิสูจน์ข้อเท็จจริงกันอย่างเต็มที่ และหากยังเสนอให้มีการยุบพรรค ก็คงต้องเริ่มกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ ด้วยการหารือกับพรรคร่วม และเปลี่ยนแนวทางมาแก้มาตรา 237 มาตราเดียวเท่านั้น

 

นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภา และรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน หลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชนในระหว่างร่วมเดินสายทำบุญกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ กกต.มีมติยุบพรรคชาติไทย กับพรรคมัชฌิมาธิปไตย ว่าหนังตัวอย่าง 2 พรรคเป็นอย่างไร นายยงยุทธ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า "ช่วงนี้ ผมพักงานไม่ขอพูด ทำบุญๆ เพราะธรรมะคือธรรมชาติ ตอนนี้ก็เห็นชัดแล้วใช่หรือไม่ว่า อะไรคืออะไร"

 

ด้านนายอนุสรณ์ วงวรรณ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ตอบคำถามเรื่องเดียวกันว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยคุยเรื่องนี้กันในพรรค รู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ เพราะรัฐธรรมนูญบังคับว่าตรงนี้ต้องเลี้ยวซ้าย ตรงนี้ต้องเลี้ยวขวา ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะไม่มีทางเลือกอื่น แต่กรณีของนายยงยุทธไม่เหมือนของสองพรรคนั้น เพราะกรณีของนายยงยุทธ อยู่ในชั้นศาล และเมื่อถึงตอนนั้นรัฐธรรมนูญก็อาจเปลี่ยนได้ และโดยส่วนตัว ตนคิดอย่างเดียวว่าจะทำงานให้เต็มที่ เขาให้ทำแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น แต่ไม่ใช่ว่านับวันรอ เดี๋ยวโดนต่อว่าแบบรัฐบาลชุดที่แล้วอีก

 

เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีพรรคไทยรักไทยทีม C หรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่าจะเป็น ทีม C, D ,E , F มันก็ต้องมีไปเรื่อยๆ การเมืองมันต้องเดินต่อ เพราะอย่างไรก็ต้องมีคนเข้ามาทำงาน

 

 

สมาคมนักข่าวฯเล็งตั้งเครือข่ายสิทธิเสรีภาพสื่อ

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - สมาคมนักข่าวฯเล็งตั้งเครือข่ายสิทธิเสรีภาพของสื่อ หวังทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครเฝ้าระวังการคุกคามสื่อ เพื่อรายงานให้สาธารณชนได้รับทราบ

 

นายวันชัย วงศ์มีชัย อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ เปิดเผยถึงกรณีการข่มขู่คุกคาม น.ส.ชลธิชา เหลิมทอง ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ประจำรัฐสภา ที่ถูกชายกลุ่มหนึ่งในชุดซาฟารีตามถึงบ้านพักหลังมีปากเสียงกับนักการเมือง จากพรรคร่วมรัฐบาล ในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ โดยสมาคมมีความห่วงใยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะติดตามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ก่อนนำเสนอในที่ประชุมของสมาคมฯ

 

หลังเกิดเหตุ น.ส.ชลธิชา เข้าแจ้งความกับตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ซึ่ง พ.ต.อ.ศรัญญู ชำนาญราช ผู้กำกับการ สน.นางเลิ้ง ให้มีการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าน่าจะมีการข่มขู่เกิดขึ้นจริง

 

นอกจากนี้ นายวันชัยยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพสิทธิการทำหน้าที่ของกันและกัน ไม่ควรมีพฤติกรรมการข่มขู่คุกคามแทรกแซง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่อการทำงานของสื่อมวลชน เพราะเสรีภาพของประชาชนคือ เสรีภาพของสื่อ การคุกคามสื่อคือการคุกคามประชาชน โดยทางสมาคมฯ มีแผนงานในการจัดตั้งเครือข่ายสิทธิเสรีภาพของสื่อ ทำหน้าที่อาสาสมัครเฝ้าระวังการคุกคามสื่อ เพื่อรายงานให้สาธารณชนได้รับทราบ

 

 

ประธานสภาสูงไฟเขียว ส.ว. ยื่นถอดถอน "ไชยา"

เว็บไซต์คมชัดลึก - เมื่อวันที่ 12 เม.ย.50 ที่อาคารรัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีมี ส.ว.จำนวนหนึ่งเตรียมล่าชื่อถอดถอนนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ว่า วุฒิสภารอให้ ป.ป.ช.แจ้งมาก่อนจึงจะสามารถบรรจุเข้าในระเบียบวาระการประชุม เพื่อแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบได้ ส่วนสมาชิกวุฒิสภาจะดำเนินการอย่างไรถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับเรื่องจาก ป.ป.ช. จึงไม่ทราบข้อเท็จจริง

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าประธานวุฒิสภา เคยระบุว่าควรให้เป็นเรื่องที่แต่ละสภาดำเนินการกันเอง ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ไม่เป็นไร หากมี ส.ว.คิดอยากจะทำก็สามารถทำได้ เพราะมีมาตราหนึ่งที่ระบุให้ กกต.เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้เช่นกัน ถ้า กกต.ดำเนินการก็สามารถทำได้รวดเร็วกว่าองค์กรอื่น คนอื่นก็ไม่ต้องทำ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมายื่นซ้ำซ้อนกัน

 

นายประสพสุข กล่าวด้วยว่า หาก กกต.ไม่ดำเนินการ วุฒิสภาก็คงดำเนินการรอเพียงการแจ้งหนังสือมาอย่างเป็นทางการจากป.ป.ช.เท่านั้น จะรีบดำเนินการอย่างรวดเร็วไม่มีเลือกปฏิบัติอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องโปร่งใสเพราะเมื่อกฎหมายระบุให้ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องส่งอย่างรวดเร็ว ไม่มีเห็นแก่หน้าใครอยู่แล้ว จะปฏิบัติตามกฎหมายไม่มีล่าช้า

 

เมื่อซักว่าหากได้รับเรื่องจากป.ป.ช.แล้วต้องนำเข้าที่ประชุมเพื่อขอความเห็นชอบก่อนหรือไม่ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ไม่ต้องฟังความเห็นของที่ประชุม เพราะแค่มีส.ว.เข้าชื่อก็สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้แล้ว เพียงแต่แจ้งให้ที่ประชุมทราบเท่านั้น

 

ประธานวุฒิสภา ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังวันสงกรานต์ด้วยว่า คงประเมินไม่ได้เพราะเท่าที่คุยกับหลายคนก็เห็นว่าเงียบๆ และตนก็คงไม่เปิดบ้านให้ข้าราชการวุฒิสภาและส.ว.มารดน้ำดำหัวเพราะยังรู้สึกเขินๆอยู่ เพียงแต่วันพฤหัสที่ 17 เม.ย. จะมีการทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ที่รัฐสภา

 

ต่อข้อถามว่าคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นชนวนทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่การนำมาแก้ไขในรัฐสภาดีกว่าไปแก้กันที่อื่น แต่ก่อนจะทำต้องให้ตกผลึกเสียก่อนว่าข้อบกพร่องจริงๆมันคืออะไร อยู่ตรงไหน ต้องฟังฝ่ายค้านและวุฒิสภาด้วยว่ามีข้อเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายคนเห็นว่าน่าจะมีส.ส.ร.ขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้เพราะส.ส.และส.ว.มีส่วนได้ส่วนเสีย นายประสพสุข กล่าวว่า ไม่น่าจะถึงขนาดนั้น น่าจะเตรียมศึกษามากกว่า หากถามตนก็ยังยืนยันว่าควรใช้รัฐธรรมนูญให้ได้สัก 1 ปีแล้วค่อยมาแก้ไข ส่วนกรณีพรรคพลังประชาชนเตรียมเสนอร่างแก้ไขเข้าสภาในสมัยประชุมนี้ นายประสพสุข กล่าวว่า คำตอบมีอยู่ในตัวแล้วว่ามันเร็วไปหรือไม่

 

เมื่อซักว่าพรรคพลังประชาชน และรัฐบาล ได้ประสานมายังประธานวุฒิสภา เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่พรรคพลังประชาชนจะเชิญวุฒิสภาไปคุยเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลมีเสียงมากพอที่จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ในวันศุกร์ที่ 18 เม.ย. ญัตติที่ ส.ว.เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาร่างรัฐธรรมนูญก็จะเข้าสู่การพิจารณา จะได้ทำเป็นคู่ขนานไปกับสภาผู้แทนราษฎร

 

 

นราธิวาสคุมเข้มแก๊งมอดไม้บุกรุกป่า

เดลินิวส์ - เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายธนน เวชกรกานนท์ รอง ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยถึงการเข้าตรวจสอบตามแผนมาตรการเชิงรุกของจังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ว่า จากการออกตรวจพื้นที่ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา พบการบุกรุกตัดไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี 40 ไร่, อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป 35 ไร่, เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติฯ 37 ไร่, ป่าสงวนแห่งชาติป่าลูโบ๊ะลาเซาะ 7 ไร่ และป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำบางนรา 20 ไร่ เมื่อสรุปภาพรวมในพื้นที่จังหวัด นราธิวาสมีเนื้อที่ที่ถูกการแผ้วถางป่าแล้ว 16 จุด เนื้อที่ประมาณ 139 ไร่ ทั้งนี้ หากพบว่าพื้นที่ใดมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จะต้องมีการสอบสวนและลงโทษต่อไป นอกจากนี้ยังมีการสั่งการให้มีการตรวจพื้นที่ทางอากาศอีกเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อคอยเฝ้าระวังไม่ให้มีการ แผ้วถางป่าเพิ่มเติม

 

ส่วนที่ จ.พัทลุง เช้าวันเดียวกัน นายสุเทพ โกมลภมร ผวจ.พัทลุง นำกำลังประมาณ 50 นาย เดินตรวจป่าบริเวณป่าอ่าวรำคาญ บ้านในวัง ท้องที่หมู่ 2, 8 ต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต พบไม้ซุงท่อนวัดวงรอบได้ 100-200 ซม. ความยาว 6-10 เมตร 14 ท่อน มากองรวมหมอนทิ้งไว้ในป่าสวนยางพารา จึงได้ตรวจยึดเพื่อเร่งสืบสวนหาตัวเจ้าของไม้มาดำเนินคดี ส่วนที่ จ.พิษณุโลก นายเธียรพิพัฒน์ มีศร เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.14 (น้ำคลาด) 5 จ.พิษณุโลก นำกำลังยึดไม้ยางถูกตัดโค่น 1 ต้น ปริมาตร 0.17 ลูกบาศก์เมตร ได้จากป่าทุ่งนาหลังหมู่บ้าน บ้านพร้าว หมู่ 5 ต.บ้านพร้าว ส่วนที่ จ.สระบุรี พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ กาญจนสุนทร รอง ผกก.ป. สภ.วิหารแดง ยึดไม้พะยูง 20 ท่อน ที่ซุกซ่อนมาในรถกระบะ ทะเบียน บท 9690 ศรีสะเกษ คุมตัวนายเกรียงไกร เรืองเดช, นายอเนก ภูมิอินทร์ และ น.ส.ปาริฉัตร แซ่หยิ่ง ไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

ต่างประเทศ

 

 

ผู้นำจีนปัดเจรจาทะไล ลามะ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : "หู จิ่นเทา" ไม่แยแสเสียงเรียกร้องนานาชาติ ปัดเจรจากับ "ทะไล ลามะ" พร้อมโจมตีผู้นำจิตวิญญาณทิเบตเป็นผู้ยุยงให้เกิดความรุนแรง และวางแผนก่อวินาศกรรมโอลิมปิก ปักกิ่ง

 

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า นายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน ออกมาปฏิเสธเสียงเรียกร้องจากบรรดาผู้นำชาติตะวันตก ที่ต้องการให้เขาจัดการเจรจากับองค์ทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณของทิเบต พร้อมกล่าวโทษว่า ผู้นำพลัดถิ่นชาวทิเบตเป็นผู้ยุยงให้เกิดความรุนแรง และการก่อวินาศกรรมระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง

 

ผู้นำจีนย้ำว่า จุดยืนที่จีนยึดถือมาเป็นเวลานาน คือ จะยอมหารือกับทะไล ลามะ ก็ต่อเมื่อผู้นำจิตวิญญาณของทิเบต เลิกต่อสู้เพื่ออิสรภาพของทิเบตและเลิกก่อความรุนแรง ซึ่งเงื่อนไข 2 ข้อนี้เป็นสิ่งที่ทะไล ลามะ ใช้ผูกมัดตัวเองไว้อย่างเปิดเผย

 

 

IMF ประกาศปิดสำนักงานในเกาหลีใต้แล้ว            

สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น - หนังสือ พิมพ์ ไต้หวัน นิวส์ ออนไลน์ รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ประกาศปิดสำนักงานของตนประจำเกาหลีใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการประกาศปิดสำนักงานในเกาหลีใต้ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ของ IMF

 

อย่างไรก็ตาม ทาง IMF ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนของ IMF ที่ประจำอยู่ในเกาหลีใต้จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อไปตามปกติ จนกว่าจะถึงเดือนกันยายนนี้ จึงจะทำการยุติภารกิจในเกาหลีใต้และจะปิดตัวโดยสมบูรณ์

 

ทาง IMF กล่าวว่า ในขณะนี้ IMF จำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างภายในองค์กร เพื่อให้มีขนาดเล็กลงและปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้มีความจำเป็นต้องปิดสำนักงานในบางประเทศเพื่อลดค่าใช้จ่าย ซึ่งทาง IMF ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และเห็นว่าในขณะนี้ เกาหลีใต้สามารถผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจมาได้แล้วและเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ใน ขณะนี้ก็แข็งแรงพอที่จะยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง IMF จึงตัดสินใจปิดสำนักงานของตนในเกาหลีใต้ลง

 

ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 1997 เกาหลีใต้ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียอย่างหนักจนต้องขอความ ช่วยเหลือด้วยการกู้เงินจาก IMF เป็นวงเงินกว่า 19.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

แผ่นดินไหวรุนแรง 7.1 ริกเตอร์ ในนิวซีแลนด์         

ศูนย์ข่าวแปซิฟิก - เกิดแผ่นดินไหวระดับความรุนแรง 7.1 ริกเตอร์ ในมหาสมุทรใต้ใกล้เกาะแมคควอรี ของออสเตรเลีย เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ ตามเวลาในท้องถิ่น แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ขณะที่เว็บไซต์ของศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกก็ไม่ได้เตือนภัยสึนามิ

 

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นในมหาสมุทรอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ แมคควอรี 110 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ของออสเตรเลีย ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะออคแลนด์ ของนิวเซีแลนด์ ซึ่งไม่มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 755 กิโลเมตร และอยู่ห่างไปทางใต้ของกรุงเวลลิงตัน 1,995 กิโลเมตร

 

 

ผู้นำคิวบา เตรียมเดินหน้าปฏิรูปประเทศขนานใหญ่

ศูนย์ข่าวแปซิฟิก - หนังสือพิมพ์แกรนมาของทางการคิวบา รายงานว่า มาตรการปฏิรูประบบเกษตรกรรมในคิวบาที่เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อไม่นานมานี้ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีราอูล คาสโตร ผู้นำคิวบาคนใหม่ อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในอีกหลายๆ ด้านตามมาในคิวบา โดยการปฏิรูประบบเกษตรกรรมทำให้เกษตรกรชาวคิวบาสามารถตัดสินใจได้เองว่าจะ ใช้ที่ดินของพวกเขาได้อย่างไร การให้เกษตรกรเช่าที่ดินทำกินของรัฐบาลในราคาถูก และการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรของรัฐบาล

 

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ของทางการคิวบา ยังแสดงท่าทียินดีต่อการยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลของประธานาธิบดีราอูล กำลังทยอยดำเนินประกาศออกมา รวมถึงการยกเลิกข้อจำกัดในการซื้อขายสินค้าในหมวดหมู่อิเลกทรอนิกส์ การอนุญาตให้ชาวคิวบาสามารถเข้าพักในโรงแรม หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้อนุญาตให้เฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้นที่มี สิทธิเข้าพักในโรงแรมได้ และการอนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างเสรีภาพมากยิ่ง ขึ้น

 

ทั้งนี้ แนวคิดในการปฏิรูปด้านต่างๆ ภายในคิวบา ได้รับการริเริ่มจากอดีตประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร และขยายแนวคิดดังกล่าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยประธานาธิบดีราอูล คาสโตร น้องชาย เพื่อมุ่งหวังในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวคิวบาให้ดีขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ดังกล่าวได้มีการลงบทความแสดงความเห็นของอดีตประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตรว่าการปฏิรูปเหล่านี้จะนำพาให้ชาวคิวบากลายเป็นคนเห็นแก่ตัว พร้อมเตือนถึงความอันตรายต่อการเข้าสู่ยุคบริโภคนิยมของสังคมคอมมิสนิ สต์อย่างโรมาเนียและคิวบา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท