ผบ.ทบ.สั่งฟันทหาร ฉก.39 หากพัวพันทำอิหม่ามดับ-วางนโยบายห้ามแตะตัวผู้ต้องสงสัย

โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา

 

วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2008 21:07น.

การเสียชีวิตอย่างปริศนาของ นายยะผา กาเซ็ง อายุ 56 ปี โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านกอตอ หมู่ 5 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ที่หน่วยเฉพาะกิจ 39 (ฉก.39) จังหวัดนราธิวาส กลายเป็นประเด็นที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้ความสนใจเป็นพิเศษระหว่างเดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2551

 

 

จุดแรกที่ พล.อ.อนุพงษ์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมคือหน่วยเฉพาะกิจที่12 จังหวัดยะลา ซึ่งตั้งอยู่ในค่ายลูกเสือเดชานุชิต ตำบลกายูบอเกาะ อำเภอรามัน โดย พล.ต.จิรพันธ์ เกษมศานติ์สุข ผู้บัญชาการกองบัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร (พตท.) ได้รายงานสรุปสถานการณ์และแนวโน้มของเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยยืนยันว่าสถิติการเกิดเหตุรุนแรงในปีนี้ เทียบกับเมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงอย่างชัดเจน อันสืบเนื่องจากมาตรการเชิงรุก ทั้งปิดล้อม ตรวจค้น และกดดันพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งข้อมูลข่าวสารแก่ทางราชการ

 

ต่อมา พล.อ.อนุพงษ์ ได้เดินทางต่อไปยังห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจที่ 38 ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสทั้ง 9 หน่วย โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

 

พล.อ.อนุพงษ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้มีการพูดคุยกันถึงการเสียชีวิตของนายยะผา โดยได้กำชับให้มีการสอบสวนตามความเป็นจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการสอบสวน แต่ถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเสียหายกับฝ่ายทหาร

 

"ผู้ที่รับผิดชอบอย่างต่ำที่สุดต้องออกนอกพื้นที่ อีกทั้งจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่สามารถลดโทษให้ได้ เนื่องจากถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่นอกขอบเขตที่กฏหมายกำหนดไว้" ผบ.ทบ. กล่าว

 

มีรายงานด้วยว่า ผบ.ทบ.ได้มอบนโยบายกับกองกำลังในพื้นที่ทุกนายว่า ห้ามแตะตัวผู้ต้องสงสัยอย่างเด็ดขาด ใครมีอำนาจหน้าที่แค่ไหนก็ให้ปฏิบัติแค่นั้น หากทำผิดทางกองทัพบกไม่สามารถช่วยเหลือได้ ต้องปล่อยให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ทัพ4มอบเงินช่วย2หมื่นไม่รอผลชันสูตร

 

ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการข่าวสาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ส่วนหน้า กล่าวว่า หลังจากการเสียชีวิตของนายยะผา พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างโปร่งใส และหากพบเจ้าหน้าที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง ก็ต้องดำเนินการเอาผิดทันทีโดยไม่มีการละเว้น พร้อมกันนี้ก็ได้เร่งเข้าไปชี้แจงและสร้างความเข้าใจกับญาติของผู้ตาย รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 20,000 บาท

 

 "หากพบว่ามีการกระทำผิด ทำร้ายร่างกายจริง จะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องรอผลการชันสูตรศพว่าเสียชีวิตด้วยเหตุผลใด แม้จะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวเพราะสภาพร่างกายที่อ่อนแอ หรือถูกทำร้ายร่างกายจริง กองทัพก็พร้อมจะให้ความเป็นธรรม" พ.อ.อัคร ระบุ

 

สำหรับเหตุผลการจับกุมนายยะผาและพวกเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมานั้น โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เนื่องจากมีหลักฐานซึ่งเป็นผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีก่อความไม่สงบให้การซัดทอดว่า นายยะผามีส่วนร่วมในเหตุการณ์รุนแรงหลายกรณี โดยเฉพาะคดีคนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถของ นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ ที่เดินทางไปตรวจสอบความเรียบร้อยการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา

 

นายอำเภอรับชาวบ้านไม่พอใจ

 

สำหรับความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนวเร่งสอบปากคำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม รวมถึงผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวอยู่ด้วยกัน รวมทั้งญาติพี่น้อง เพื่อสรุปสำนวนให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยการสอบสวนจะยึดความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ได้เตรียมการป้องกันเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างเข้มงวด เพื่อสกัดกั้นการก่อเหตุร้าย โดยเฉพาะการเปิดแผนเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้ง 13 อำเภอทั่ว จ.นราธิวาส เพื่อไม่ให้แผนสะดุด และเพื่อป้องกันการฉวยโอกาสของกลุ่มก่อความไม่สงบที่อาจใช้ประเด็นการเสียชีวิตของนายยะผา ก่อเหตุตอบโต้ได้

 

ขณะที่ นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ กล่าวว่า การเสียชีวิตของนายยะผา ทำให้ญาติและครอบครัวไม่พอใจการกระทำของเจ้าหน้าที่อย่างมาก ล่าสุดจึงเร่งเข้าพื้นที่เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเร่งด่วนแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะมีมือที่สามฉวยโอกาสเข้าปลุกระดมให้มีการก่อเหตุการณ์ไม่สงบ หรือรวมตัวประท้วง

 

"อังคณา"จี้รัฐเร่งเผยความจริง

 

วันเดียวกัน นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ เปิดเผยว่า คณะทำงานฯได้ออกแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลเร่งเปิดเผยความจริงและแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีการเสียชีวิตของประชาชนที่อยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะกรณีของนายยะผา

 

ทั้งนี้ คณะทำงานฯได้รับแจ้งจากญาติของนายยะผาว่า ก่อนถูกควบคุมตัว นายยะผาเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่เคยเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงมาก่อน แต่หลังจากที่นำศพออกจากโรงพยาบาล กลับพบว่าบริเวณลำตัวของนายยะผามีจุดไหม้คล้ายถูกไฟจี้ ใบหน้าบวมช้ำ หน้าอกยุบ และบริเวณเล็บมือและเล็บเท้าเป็นแผลเหมือนถูกกระแทกอย่างแรง จึงขอให้รัฐบาลเร่งคลี่คลายข้อสงสัยนี้โดยด่วน และขอให้หน่วยงานความมั่นคงยึดหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนในการตรวจค้น จับกุม คุมขังด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โต๊ะอิหม่าม อ.รือเสาะ เมืองนรา เสียชีวิตขณะถูกควบคุมตัว

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท