เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานว่า มีความคืบหน้าบัญชีรายชื่อการปรับย้ายนายทหารกลางปี (เม.ย.) ที่เหล่าทัพได้พิจารณาและส่งมอบให้กับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม และนายสมัครได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายไปตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีการปรับย้ายเพียงเล็กน้อย ซึ่งรายชื่อการปรับย้ายครั้งนี้มีเพียงประมาณ 400 รายชื่อ

ในส่วนนายทหารจาก ตท.10 เพื่อนร่วมรุ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. มีการโยกเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญในกองทัพหลายตำแหน่งด้วยกัน โดยเฉพาะในกองทัพบกและสำนักงาน รมว.กลาโหม

สำหรับตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. ที่แต่เดิมมีความพยายามที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ต้องการจะเปลี่ยนตำแหน่ง เสธ.ทบ. จาก พล.อ.มนตรี ชมพูจันทร์ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.6 ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. แล้วผลักดันให้ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาเป็นเสธ.ทบ. เพื่อวางตัวในการเป็น ผบ.ทบ.ต่อไปนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ได้ปรับย้าย พล.ท.สุนัย สัมปัตตะวนิช ผบ.นสศ. เด็ก พล.อ.สนธิเข้ากรุ แต่ให้ยศพลเอกในตำแหน่งที่ปรึกษา สปท.บก.สส. แล้วโยก พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ จเรทหาร บก.สส. เพื่อน ตท.10 ข้ามกลับถิ่นเก่าเป็น ผบ.นสศ. พร้อมกับเด้ง พล.ท.ชวลิต จารุจินดา ผบ.ศรภ. เด็ก พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดฯ กลาโหม ออกไปเป็น รอง ผบ.หน่วยทหารพัฒนา (รอง ผบ.นทพ.) และโยก พล.ท.ชูชัย บุญย้อย ผคท.พิเศษ บก.สส.(ตท.10) เป็น ผบ.ศรภ.

พร้อมกันนี้ได้ย้าย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ผอ.สงป.กห. มือขวา พล.อ.วินัย และเป็นนายทหารคนเดียวที่ออกชนกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคพลังประชาชน ตลอดจนอาจนำไปสู่การยุบพรรค ไปเป็นประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล) โดยโยก พล.อ.รังสาทย์ แช่มเชื้อ ผคท.พิเศษ บก.สส. (ตท.10) เป็น ผอ.สงป.กห.

ในส่วนกองทัพบก ตำแหน่งที่มีการปรับย้ายสำคัญๆ ประกอบด้วย พล.ท.บดินทร์ ลักษมีวาสิน รองเสธ.ทบ. เป็น หน.ฝสธ.ผบ.ทบ. พล.ท.อารักษ์ ประภาพันธ์ จก.สื่อสารทหารบก เป็นที่ปรึกษาพิเศษ พล.ท.ดิชวัฒน์ กุญชรานุสสรณ์ ผคท.พิเศษ เป็นที่ปรึกษาพิเศษ (อัตราพลเอก)

ส่วน ตท.10 ที่ได้ขยับตำแหน่ง พล.ท.พิรุณ แผ้วพลสง อดีตรอง ผบ.ศรภ. ข้ามมาเป็น รอง เสธ.ทบ.พล.ท.กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผอ.ททบ.5 เป็น จก.สื่อสารทหารบก พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ จเรทหาร บก.สส. เป็น ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.)

พล.ต.อดุล อุบล รอง จก.ยุทธศึกษาทหารบก เป็น จก.ยุทธศึกษาทหารบก พล.ต.ชาย วงคำษา รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.จิระพันธ์ เกษมศาสนติ์สุข รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นที่ปรึกษา ทบ. พล.ต.โปฎก บุนนาค รอง ผบ.นสศ. เป็นที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. (อัตราพลโท) พล.ต.คณิต สาพิทักษ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.เดชา กิ่งวงษา ผบ.พล.ร.5 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.สืบพงษ์ เปาวรัตน์ ผบ.ศูนย์การทหารม้า เป็นรอง จก.ยุทธศึกษาทหารบก

พล.ต.ฤทธิไกร อุ่นพันธ์ ผบ.มทบ.13 เป็น รอง ผบ.นสศ. พล.ต.ไตรรัตน์ รังคะรัตน์ รอง ผอ.ททบ.5 เป็น ผบ.ศูนย์การทหารม้า และที่ฮือฮาเมื่อ พล.ต.ธนดล เผ่าจินดา เสธ.นสร. น้องชาย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. โยกขึ้นเป็น รอง ผบ.นสร. เพื่อจ่อคิดเป็น ผบ.นสร. ในเดือนตุลาคมนี้ พ.อ.วิเชียร มัญญาหงส์ รอง ผบ.มทบ.13 เป็น ผบ.มทบ.13 พ.อ.วลิต โรจนภักดี รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. เป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.

สำหรับกระทรวงกลาโหม ทีมนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม ส่วนใหญ่จะได้รับการผลักดันจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้ขึ้นมารับหน้าที่ช่วยนายสมัคร ประกอบด้วย พล.อ.ท.สุเมธ์ โพธิ์มณี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. เป็นหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม (อัตราพลเอก) พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต อดีตผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.) พล.ต.มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 พล.อ.ต.พงษ์ธร บัวทรัพย์ อดีตเจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ เป็น ผช.หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม (อัตราพลโท) พล.อ.รังสาทย์ แช่มเชื้อ ผคท.พิเศษ บก.สส. เป็นผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม (ผอ.สงป.กห.) โดยมีการมองว่าถูกส่งมาตรวจสอบการใช้งบประมาณช่วงปฏิวัติ

ขณะที่กองบัญชาการทหารสูงสุดมีการปรับ พล.อ.เหมรัฐ ขำนิล (ตท.9) ผบ.หน่วยทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) นายทหารใกล้ชิดกับ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ อดีต รมว.กลาโหม ถูกเด้งเข้ากรุเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ บก.ทหารสูงสุด โดยปรับเอา พล.ท.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ รอง ผบ.นทพ. ขึ้นมาเป็น ผบ.นทพ.แทน เช่นเดียวกับ พล.ท.ชวลิต จารุจินดา ผบ.ศรภ. โดนย้ายเข้ากรุเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ บก.ทหารสูงสุด แล้วขยับให้ พล.ท.ชูชัย บุญย้อย อดีตรอง ผบ.ศรภ. ขึ้นเป็น ผบ.ศรภ.

กองทัพเรือมีการปรับให้ พล.ร.ท.นิพนธ์ จักษุดุล (ตท.10) รองเสธ.ทร. ขึ้นเป็น เสธ.ทร. แล้วขยับ พล.ร.ท.วัลลภ เกิดผล (ตท.10) ผบ.รร.นายเรือ เป็นที่ปรึกษาพิเศษ ทร.

สำหรับกองทัพอากาศ ที่มีความพยายามจากฟากการเมืองที่จะโยก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตผู้ช่วย ผบ.ทอ. ซึ่งหลังการปฏิวัติถูกเด้งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. กลับสู่ตำแหน่งเดิม แต่เนื่องจาก พล.อ.อ.สุกำพล กับ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. มีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จึงมีการปรับให้ พล.อ.อ.สุกำพลย้ายไปสำนักงานปลัดฯ กลาโหม เป็นที่ปรึกษาพิเศษ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ พล.อ.อ.พุฑฒิ มังคละพฤกษ์ ผบ.กองบัญชาการยุทธทางอากาศ (ผบ.บยอ.) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมงฟอร์ตกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น ผช.ผบ.ทอ. พล.อ.อ.คณาพันธุ์ สงวนสัตย์ ผบ.สนับสนุนทหารอากาศ มาเป็น ผบ.บยอ.

พล.อ.อ.พิพิธพร กลิ่นเฟื่อง (ตท.10) รอง ผบ.ฝึกศึกษาทหารอากาศ เป็น ผบ.สนับสนุนทหารอากาศแทน พล.อ.ท.เกรียงเดช เจียจันทร์พงษ์ ผบ.หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (ผบ.อย.) เป็นที่ปรึกษาพิเศษ ทอ. (อัตราพลอากาศเอก) พล.อ.ต.อธิบดี เพ็งฉุย รองผบ.หน่วยบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ เป็น ที่ปรึกษา สปท.บก.ทหารสูงสุด (อัตราพลอากาศเอก) พล.อ.ต.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ ผู้บังคับการทหารอากาศดอนเมือง เป็น ผบ.หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (ผบ.อย.) พล.อ.ต.อานนท์ จารยะพันธุ์ เสธ.กรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ (คปอ.) เป็นผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง

………………………………….
ที่มา: เว็บไซต์ไทยโพสต์