5 มี.ค.51 เครือข่ายแรงงานนอกระบบนำเสนอข้อเสนอเนื่องในวันสตรีสากลที่จะมาถึงในวันที่ 8 มี.ค.นี้ ระบุให้กระทรวงแรงงานเร่งออกพ.ร.บ.คุ้มครอง ส่งเสริม และพัฒนาแรงงานในงานรับไปทำที่บ้าน พ.ศ. ... โดยยึดหลักการงานที่มีคุณค่าและอนุสัญญาฉบับที่ 177 ว่าด้วยงานที่รับไปทำที่บ้าน และเพิ่มองค์ประกอบของคณะกรรมการรับงานไปทำที่บ้านให้ครอบคลุมผู้นำแรงงานอกระบบและองค์กรพัฒนาเอกชนที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการร่วม เพื่อให้มีบทบาทส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนา และคุ้มครองแรงงานอย่างรอบด้าน
ประการต่อมาระบุให้กระทรวงแรงงานมีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการขยายประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบ โดยยึดหลักการเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข ทุกคนจ่ายเงินสมทบตามความสามารถและได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครองเท่าเทียมกัน รัฐบาลควรร่วมจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของแรงงานนอกระบบ เช่นเดียวกับแรงงานในกฎหมายประกันสังคม เพื่อไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติ และพิจารณากำหนดสิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมกับแรงงานในระบบ
ทั้งนี้ ในแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบของเครือข่ายแรงงานนอกระบบนั้นได้ สรุปสถานการณ์การขับเคลื่อนและผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานนอกระบบในระยะที่ผ่านมา รวมถึงการการขับเคลื่อนผลักดันต่อในช่วงการดำเนินงานระยะที่ 2 ดังนี้
1. พ.ร.บ. คุ้มครองส่งเสริมและพัฒนาผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ.... ซึ่งการขับเคลื่อนระยะที่ผ่านมา มีร่าง พ.ร.บ. 2 ฉบับ (ฉบับกระทรวงแรงงาน และ ฉบับเครือข่ายแรงงานนอกระบบ) ขับเคลื่อนคู่ขนานกันโดยในส่วนของฉบับกระทรวงแรงงาน ณ ปัจจุบันถึงขั้นตอนที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีการพัฒนาปรับปรุง ให้สอดคล้องกับข้อเสนอของเครือข่ายแรงงานนอกระบบ โดยเรียกผู้เกี่ยวข้องไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม (หลังจากที่คณะกรรมการกฤฎีกาตรวจสอบและเสนอให้กระทรวงแรงงานนำกลับไปพิจารณาปรับปรุงใหม่แต่กระทรวงแรงงานยืนยันหลักการร่าง พ.ร.บ.ฯ เดิม และส่งกลับคืนให้คณะกรรมการกฤษฎีกา)
ในส่วนร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับของเครือข่ายแรงงานนอกระบบ ถึงขั้นตอนที่คณะกรรมาธิการแรงงานและสวัสดิการสังคม (สนช.) รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ฉบับเครือข่ายฯ เพื่อเสนอบรรจุวาระการประชุมฯ แต่ไม่ทันเนื่องจากปิดสภาฯ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ (ที่ปรับแก้โดยคณะอนุกรรมการแก้ไขกฎหมายด้านแรงงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สนช.)
ทิศทางในระยะต่อไป ขับเคลื่อนและผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ฉบับเครือข่ายใหม่ (โดยใช้ฉบับเดิมที่ยังไม่ปรับแก้จากคณะอนุกรรมการแก้ไขกฎหมายแรงงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากฉบับที่คณะอนุกรรมการแก้ไขกฎหมายฯ แก้ไขได้ตัดเอาส่วนที่เป็นหลักการสำคัญคือ กองทุน และคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาฯ ออก) แนวทางการขับเคลื่อนจะผลักดันผ่านพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาล รัฐบาลเงา และในขณะเดียวกันจะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่อผลักดันร่วมกับแกนนำเครือข่ายและช่องทาง Lobbing กับแกนนำคนสำคัญของพรรคการเมืองและเลขาธิการรัฐมนตรี
2. นโยบายขยายการคุ้มครองประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบ สถานการณ์ที่ผ่านมา ได้มีการรณรงค์ผ่านคณะทำงานพัฒนานโยบายสาธารณะของแผนงาน และผลักดันผ่านคณะอนุกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายประกันสังคมแรงงานนอกระบบ สนง.ประกันสังคม โดยรัฐมนตรีชุดที่ผ่านมาไม่ได้ให้ความสำคัญเนื่องจากเกี่ยวข้องกับมาตรการการเงินการคลัง
จากการที่ได้หารือกับผู้อำนวยการโครงการขยายประกันสังคมแรงงานนอกระบบ สำนักงานประกันสังคม เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2550 ได้กำหนดแนวทางร่วมกันดังนี้ 1). จัดตั้งคณะทำงานศึกษาและแก้ไขมาตรา 39 และมาตรา 40 ใน พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 เพื่อให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ 2). นิยามสิทธิประโยชน์ที่จำเป็นและสอดคล้องกับความต้องการปัญหาของแรงงานนอกระบบและจัดทำระบบสิทธิประโยชน์พร้อมกับอัตราเงินสมทบและเงินอุดหนุน 3). ริเริ่มกับกลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมในลักษณะ Action Research เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของแรงงานนอกระบบ
3. ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมสถาบันความปลอดภัย (ฉบับบูรณาการ) สถานการณ์การขับเคลื่อน ณ ปัจจุบัน ทางองค์กรแรงงานในระบบและสภาเครือข่ายผู้ป่วยฯ ได้มีการล่ารายชื่อ 10,000 ชื่อ โดยมีเครือข่ายแรงงานนอกระบบร่วมด้วยเพื่อผลักดันร่าง พ.ร.บ.ฯ ต่อ แต่จากการวิเคราะห์ของคณะทำงานนโยบายพบว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมแรงงานนอกระบบและในหลายประเด็น เช่น การนำเงินกองทุนทดแทน มาบริหารเอง และอื่นๆ ยังไม่เหมาะสมหรือเป็นไปได้ยาก
ทิศทางการขับเคลื่อน ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ภายใต้แผนงานระยะต่อไปคือ การวิเคราะห์ช่องว่างและศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ รวมถึงการปรับปรุงบางมาตราดังตัวอย่างที่กล่าวถึงให้มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้ เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกได้รวดเร็วขึ้น และกระทรวงแรงงานเองก็ได้เสนอ ร่าง พ.ร.บ.ความปลอดภัยคู่ขนานกับ ร่าง พ.ร.บ. ฉบับภาคประชาชนเช่นเดียวกันในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ไม่ผ่านการพิจารณาจาก สนช.
4. นโยบายเกี่ยวกับสวัสดิการสังคม : ได้เข้าร่วมกระบวนการขับเคลื่อนกับกลุ่มนโยบายการออม กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง เกี่ยวกับบำเหน็จบำนาญผู้สูงอายุ ซึ่งแรงงานนอกระบบเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักหนึ่งของการสร้างระบบการออมในระยะยาวเพื่อเป็นบำเหน็จบำนาญชราภาพ แต่ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนเนื่องจากขณะนี้มีนโยบายที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกัน 3 นโยบาย ที่อยู่ในกระบวนการขับเคลื่อนของแรงงานนอกระบบ คือ พ.ร.บ.ส่งเสริมสวัสดิการสังคมแห่งชาติ นโยบายบำนาญชราภาพ และนโยบายขยายประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบ ซึ่งเป็นโจทย์ที่แรงงานนอกระบบต้องวิเคราะห์และแยกแยะให้ชัดว่า จะขับเคลื่อนผลักดันอย่างไรร่วมกันทั้ง 3 นโยบาย เนื่องจากมีประเด็นสิทธิประโยชน์ที่ใกล้เคียงและร่วมกัน
5. ในส่วนของเกษตรพันธสัญญา มุ่งเน้นการพัฒนามาตรการเชิงบริหาร เพื่อการคุ้มครองสัญญาที่เป็นธรรม
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)