เมื่อวันที่ 14 ก.พ.51 คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) ออกแถลงการณ์ "นโยบายหลักของรัฐบาลประชาธิปไตยคือการธำรงสิทธิเสรีภาพของสื่อและประชาชน เนื้อหาความว่า ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.50 พรรคพลังประชาชนคือพรรคการเมืองได้รับเสียงข้างมากจึงเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มีนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 51 มีกำหนดแถลงนโยบายการบริหารและชี้แจงการดำเนินการตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐภายในระยะเวลา 15 วัน ตามข้อบังคับของรัฐธรรมนูญ
ความเคลื่อนไหวและท่าทีเบื้องแรกที่มีต่อสื่อของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายก นาย
นำมาสู่ความกังวลถึงปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของสื่อและประชาชนตามอำนาจที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมือง เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การจำกัด แทรกแซง ควบคุม สื่อและกลุ่มคนที่เห็นแตกต่างทางการเมืองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นถ้ารัฐบาลประชาธิปไตยที่นำโดยพรรคพลังประชาชนไม่ตั้งต้นด้วยการเปิดใจกว้าง พร้อมที่จะเปิดรับการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างและการวิพากษ์วิจารณ์ แต่กลับใช้โอกาสในขณะมีอำนาจ ควบคุม สกัดกั้นความคิดเห็นทางการเมือง สุดท้ายไม่เพียงส่งผลกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูประชาธิปไตยแต่ยังส่งผลลบต่อเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลเอง
คปส. เห็นว่า นโยบายแรกและนโยบายหลักของรัฐบาลประชาธิปไตยคือ การธำรงและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การแสดงออก ของสื่อมวลชนและประชาชน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ยุติการแทรกแซงทั้งทางตรงหรือทางอ้อม เน้นการปฏิรูปสื่อแทนการจัดระเบียบสื่อ ไม่ตกเป็นเครื่องมือหรือกระบอกเสียงของรัฐในทุกรัฐบาล เคารพเจตจำนงเรื่องสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นทั้งสิทธิตามธรรมชาติและสิทธิทางกฎหมายตามรัฐธรรมนูญของประชาชนทุกคน
นอกจากนี้ คปส. เรียกร้องให้ รัฐบาล เปิดพื้นที่สื่อของรัฐให้กับพรรคฝ่ายค้าน และ ภาคพลเมืองในการเข้าถึงสื่อของรัฐอย่างเสมอภาคและใช้พื้นที่สื่อในการแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคมอย่างเปิดกว้าง เพื่อนำไปสู่การลดอคติ ความลำเอียง จากการเสนอข้อมูลข่าวสารด้านเดียวดังเช่นที่ผ่านมา
แถลงการณ์ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส) นโยบายหลักของรัฐบาลประชาธิปไตย คือการธำรงสิทธิเสรีภาพของสื่อและประชาชน ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนคือพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงข้างมากจึงเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ตามครรลองของประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาจักรไทย พ.ศ. 2550 เป็นกฎหมายสูงสุด โดยมีนาย
ความเคลื่อนไหวและท่าทีเบื้องแรกที่มีต่อสื่อของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายก นาย
จากนั้นนำมาสู่กรณีการกดดันให้ นาย ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น นำมาสู่ความกังวลถึงปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของสื่อและประชาชนตามอำนาจที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมือง เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การจำกัด แทรกแซง ควบคุม สื่อและกลุ่มคนที่เห็นแตกต่างทางการเมืองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นถ้ารัฐบาลประชาธิปไตยที่นำโดยพรรคพลังประชาชนไม่ตั้งต้นด้วยการเปิดใจกว้าง พร้อมที่จะเปิดรับการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างและการวิพากษ์วิจารณ์ แต่กลับใช้โอกาสในขณะมีอำนาจ ควบคุม สกัดกั้นความคิดเห็นทางการเมือง สุดท้ายไม่เพียงส่งผลกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูประชาธิปไตยแต่ยังส่งผลลบต่อเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลเอง คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส) เห็นว่า นโยบายแรก และนโยบายหลักของรัฐบาลประชาธิปไตยคือ การธำรงและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การแสดงออก ของสื่อมวลชนและประชาชน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการยุติการแทรกแซงทั้งทางตรงหรือทางอ้อม หรือการเน้นการปฏิรูปสื่อ แทนการจัดระเบียบสื่อ เพื่อ ปลดปล่อยให้สื่อของรัฐมีความเป็นอิสระที่แท้จริง ไม่ใช่ตกเป็นเครื่องมือหรือกระบอกเสียงของรัฐในทุกรัฐบาล อีกทั้งการเคารพเจตจำนงเรื่องสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นทั้งสิทธิตามธรรมชาติและสิทธิทางกฎหมายตามรัฐธรรมนูญของประชาชนทุกคน
คปส. ขอเรียกร้องให้ รัฐบาล เปิดพื้นที่สื่อของรัฐให้กับพรรคฝ่ายค้าน และ ภาคพลเมืองหลากหลายกลุ่มในการเข้าถึงสื่อของรัฐอย่างเสมอภาคและใช้พื้นที่สื่อในการแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคมอย่างเปิดกว้าง เพื่อนำไปสู่การลดอคติ ความลำเอียง จากการเสนอข้อมูลข่าวสารด้านเดียวดังเช่นที่ผ่านมา
คปส. เห็นว่านโยบายการเคารพสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็นของสื่อและประชาชน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลประชาธิปไตยอันจะนำไปสู่การฟื้นฟูสังคมไทยให้มีความมั่นคงทางการเมืองได้อย่างแท้จริง คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส) 14 กุมภาพันธ์ 2551 |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)