Skip to main content
sharethis


"สมัคร" รับครม.ขี้เหร่

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ : นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการทูลเกล้าฯรายชื่อคณะรัฐมนตรี ว่า ตนไม่ทราบว่าในขณะนี้ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้นำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้วหรือยัง แต่ล่าสุด ได้รับรายงานว่า การตรวจสอบคุณสมบัติ ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมยอมรับว่า การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีภายในพรรค ส่งผลให้สมาชิกเกิดความไม่พอใจ แต่ก็มีการพูดคุยให้สมาชิกพรรคเข้าใจกันแล้ว ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าไม่พอใจตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งหมด ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งการพิจารณาในส่วนตัวมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งทั้งหมด 12 ตำแหน่ง


 



"เป็นของธรรมดา พูดกันง่าย ๆว่าบางครั้งผมก็รู้สึกว่า เค้าไม่ค่อยให้โอกาสผม แต่ผมก็พูดไม่ได้ ยกตัวอย่าง กระทรวงการคลัง เค้าก็บอกว่า ต้องเป็นคุณไพโรจน์ ผมก็บอกว่า ผมอยากได้น้องชายคุณจาตุรนต์ เพราะพี่ชายเค้าเก่งเรื่องงบประมาณ   เรื่องการเงินการคลังก็น่าจะให้โอกาส เค้าบอกไม่ได้ อย่างนี้จนถึงป่านนี้ ในส่วนตัวผมสบายดี ผมหายใจโล่ง ผมปรับไป 12 ตำแหน่งดูหน้าตา ไม่สวยแต่ว่าก็ขี้เหร่นิดหน่อย"


 



นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะนั่งควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม เพื่อทำหน้าที่ตัวกลางประสานความเข้าใจ จะไม่เข้าไปก้าวก่ายโยกย้ายภายในกระทรวงกลาโหม แต่มีความตั้งใจดีที่จะเป็นตัวกลางสร้างความเข้าใจกับนายทหารรุ่นต่างๆ ขณะที่ ในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีก็จะเปิดบ้านเลี้ยงอาหารกลางวันและให้สัมภาษณ์ ในเวลา 12.00 น. ด้วย และเตรียมที่จะเดินทางลงพื้นที่ปฎิบัติภาระกิจที่จังหวัดขอนแก่นในเร็ว ๆนี้


 


 


"อังคณา"ปูด จนท.ทรมานผู้ต้องหา
เว็บไซต์คมชัดลึก : นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ กล่าวว่า จากกรณีการจับกุมและควบคุมตัวนักศึกษาในสถาบันราชภัฏยะลาและสถาบันพลศึกษาวิทยาเขตยะลา เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา จำนวน 7 คน และต่อมามีการจับกุมเพิ่มในวันที่ 28 มกราคม อีก 2 คนนั้น คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการควบคุมตัวนักศึกษาทั้งหมดเป็นไปโดยการถูกซัดทอดจากผู้ที่ถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้ โดยที่นักศึกษาทั้งหมดยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดในการกระทำความผิด หรือการก่ออาชญากรรมแต่อย่างใด อีกทั้งนักศึกษาทั้ง 9 คนนี้ เป็นอาสาสมัครอบรมกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ที่ทำงานในการให้ความรู้เกี่ยวกับการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และหลักการสิทธิมนุษยชน โดยทำงานประสานกับคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพด้วยดีมาโดยตลอด


 


นางอังคณา กล่าวว่า คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพยังรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้อยู่ในเหตุการณ์การควบคุมตัวว่า นักศึกษาบางคนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ให้ความร่วมมือกับนักสิทธิมนุษยชน และพบว่าบางคนถูกซ้อมทรมานในขณะที่ถูกสอบสวน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงสร้างความสับสนและความหวาดระแวงให้แก่บรรดาญาติพี่น้องและเยาวชนในสถานศึกษาต่างๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยิ่ง


 


นางอังคณา กล่าวอีกว่า ล่าสุดกลุ่มนักศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บางส่วนได้เดินทางเข้ามาพักอาศัยกับเพื่อนนักศึกษาที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มาศึกษาเล่าเรียนในกรุงเทพฯ เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย เกรงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว ขณะที่บางส่วนไม่กล้ากลับบ้านเกิด หลังทราบว่ามีรายชื่ออยู่ในบัญชีของทางการ และกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมก่อนนำไปสู่การควบคุมตัวในที่สุด


 



"นักศึกษาในพื้นที่หลายคนเป็นนักกิจกรรม ทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ กระทั่งร่วมงานกับคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ด้วยการนำข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายไปถ่ายทอดแก่ชาวบ้าน ช่วยเก็บข้อมูลการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพื้นที่ส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ถูกตั้งแง่ในสายตาเจ้าหน้าที่บางส่วนว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายผู้ไม่หวังดี ทำให้ถูกเชิญตัวไปซักถาม และบางรายถูกควบคุมตัวไว้ในค่ายทหารเพื่อสอบสวน จนปัจจุบันแทบไม่มีนักศึกษาร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่เหลืออยู่เลย" นางอังคณา กล่าว



 


นางอังคณา กล่าวด้วยว่า มีความกังวลต่อการควบคุมตัวประชาชนภายใต้กฎอัยการศึก และพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะแม้คำสั่งที่ 11/2550 ลงวันที่ 24 มกราคม 2550 ลงนามโดยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จะระบุสถานที่ที่ใช้ในการควบคุมตัวประชาชนไว้ชัดเจนว่า ให้ควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์วิวัฒน์สันติ ค่ายอิงคยุทธบริหาร และศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 จ.ยะลา แต่ในทางปฏิบัติจริงผู้ถูกควบคุมตัวส่วนใหญ่มักถูกนำมาควบคุมตัวไว้ตามหน่วยเฉพาะกิจต่างๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมิได้มีการแจ้งให้บรรดาญาติพี่น้องของผู้ถูกควบคุมตัวทราบแต่ประการใด


 



นางอังคณา กล่าวอีกว่า อีกทั้งจากรายงานที่คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพได้รับ คือ ผู้ถูกควบคุมตัวส่วนใหญ่มักถูกซ้อมทรมานเพื่อให้รับสารภาพในสามวันแรกที่ถูกควบคุมตัว และไม่ได้รับอนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยม ซึ่งเป็นการขัดต่อหลักนิติธรรม กฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ระบุไว้ชัดเจนในมาตรา 32 วรรค 2 ว่า "การทรมาน ทารุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการอันโหดร้าย หรือไร้มนุษยธรรมจะกระทำมิได้..." ในมาตรา 39 วรรค 2 "ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหา หรือจำเลยไม่มีความผิด" และในมาตรา 40 (4) ว่า "ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา โจทก์ จำเลย คู่กรณี ผู้มีส่วนได้เสีย หรือพยานในคดี มีสิทธิได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมในการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งสิทธิในการได้รับการสอบสวนอย่งถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม และการไม่ให้ถ้อยคำเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง"


 


"คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพเห็นว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจที่ 11 ในการจับกุมและควบคุมตัวนักศึกษาดังกล่าวสวนทางกับนโยบายของ ผบ.ฉก.ยะลา พล.ต.วรรณทิพย์ ว่องไว ผบ.ฉก.ยะลา ที่ให้คำมั่นกับประชาชน ผู้นำศาสนา และองค์กรสิทธิมนุษยชน ว่าจะยึดหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินการต่างๆ ด้วยความโปร่งใส ถูกต้อง และเป็นธรรม" นางอังคณา กล่าว


 



นางอังคณา กล่าวเตือนผู้เกี่ยวข้องว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในขณะนี้ คือ ความรู้สึกของกลุ่มนักศึกษาและกลุ่มปัญญาชนในพื้นที่ภาคใต้ ที่เริ่มไม่ไว้วางใจการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังไม่ได้รับโอกาสให้เข้าเยี่ยมเพื่อนนักศึกษา 9 คน ที่ถูกควบคุมตัวไปตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ทำให้มีความพยายามจะเคลื่อนไหวในเร็วๆ นี้ จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องหาทางลดอุณหภูมิ หรือคลายความกดดันก่อนปัญหาจะบานปลาย เหมือนเหตุการณ์กลุ่มศูนย์ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาและประชาชน ชุมนุมที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 และชุมนุมยืดเยื้อเป็นเวลานานร่วมสัปดาห์ กว่าที่ทุกฝ่ายจะหาทางคลี่คลายและยุติสถานการณ์ได้


 


 


"จรัญ"ชี้ระบบคัดผู้บริสุทธิ์ที่ถูกยัดข้อหาไม่เปิดช่องคนผิด


เว็บไซต์คมชัดลึก : นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการตรวจสอบคัดกรองผู้ต้องขังที่อาจเป็นผู้บริสุทธิ์ถูกแก๊งตชด.โหดของร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชนนิธิวณิชย์ ผบ.หมวด.426 กก.ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ กก.ตชด.41 จ.ชุมพร ยัดข้อหาจับกุมจนต้องถูกคุมขังในเรือนจำว่า โครงการคัดกรองเพื่อช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม ได้วางระบบไว้ค่อนข้างรัดกุม แทบไม่เหลือช่องว่าง หรือโอกาสให้ผู้กระทำความผิดตัวจริง ฉวยโอกาสแอบแฝงมารวมอยู่ในกลุ่มผู้บริสุทธิ์


 



โดยในขั้นแรกผู้ต้องขังจะต้องยื่นคำร้อง พร้อมแสดงหลักฐาน และเหตุผลต่อเจ้าหน้าที่เรือนจำ ว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกทำร้ายร่างกาย และยัดข้อหาจับกุมอย่างไร จากนั้นกรรมการระดับเรือนจำ จะกลั่นกรองข้อมูล พร้อมทำความเห็นเสนอมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้คณะกรรมการของกรมราชทัณฑ์ คัดกรอง และแยกเรื่องร้องเรียนออกเป็นกลุ่ม โดยกลุ่มเอ เป็นผู้ต้องขังที่มีความน่าเชื่อมากว่า อาจเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกยัดข้อหา จากนั้นจะไล่ลงมาเป็นกลุ่มบี และซี ไปจนถึงกลุ่มดี ซึ่งในกลุ่มสุดท้ายนี้กรมราชทัณฑ์เสนอให้ตัดชื่อทิ้ง เพราะหลักฐานข้อมูลที่ร้องเรียนไม่น่าเชื่อถือ


 



นายจรัญ กล่าวอีกว่า เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการตรวจสอบของกรมราชทัณฑ์ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเสนอให้คณะกรรมการระดับกระทรวง เพื่อกลั่นกรอง และคัดแยกให้เหลือเฉพาะผู้ต้องขังที่มีแนวโน้มเป็นผู้บริสุทธิ์ เพื่อส่งชุดสืบสวนเข้าหาหลักฐานเชิงลึก และให้ความช่วยเหลือในทางคดีต่อไป ซึ่งการฟ้องร้องเพื่อให้ศาลรับพิจารณาคดีใหม่ พยานหลักฐานถือเป็นหัวใจสำคัญ หากผู้ต้องขังที่ถูกยัดข้อหาไม่เคยแจ้งความ ให้การ หรือลงบันทึกประจำวันว่า ถูกทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ให้รับสารภาพ ก็อาจมีปัญหาในการต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความจริง


 



นายจรัญ กล่าวต่อว่า การป้องกันการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจโดยไม่ชอบของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต่างประเทศให้ความสำคัญและเข้มงวดมาก ในประเทศอังกฤษมีคณะกรรมการรับเรื่องร้องทุกข์จากการปฏิบัติงานของตำรวจโดยตั้งเป็นหน่วยงานอิสระ ไม่อยู่ในระบบงานของตำรวจ ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจได้ศึกษาและนำเสนอต่อรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลลานนท์ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ร่างกฎหมายไม่ผ่านความเห็นชอบ ดังนั้นจึงหวังว่ารัฐบาลใหม่จะมองเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน สร้างผลงานลำดับแรกๆ ด้วยการจัดวางระบบเพื่อดึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมในงานสืบสวนสอบสวนกลับมา


 


 


อุตุฯคาดฤดูแล้งปีนี้ร้อนจัดอุณหภูมิสูงสุด40-43องศา


เว็บไซต์คมชัดลึก : กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ฤดูร้อนของประเทศไทยปีนี้ จะเริ่มประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ในระยะต้นฤดู บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นช่วง ๆ ทำให้บริเวณดังกล่าวยังมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ส่วนในตอนกลางวันมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป สำหรับในระยะกลางฤดู จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปกับร้อนจัดในหลายพื้นที่ ซึ่งอากาศร้อนจัดนี้ส่วนใหญ่อยู่บริเวณภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง แต่ในบางช่วงจะมีแนวพัดสอบของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พาดผ่านประเทศไทยตอนบน อาจทำให้มีฝนตกลงมาทำให้ช่วยคลายร้อนลงได้บ้าง ส่วนในระยะปลายฤดู ลักษณะอากาศจะแปรปรวนและจะมีฝนตกต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝน


 



สำหรับฤดูร้อนปีนี้ คาดว่าอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 40-43 องศาเซลเซียสในภาคเหนือและอีสาน ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 40-42 องศา ในบางพื้นที่ของจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี และสระแก้ว ส่วนภาคใต้ กรุงเทพฯ และปริมณฑล อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 37-39 องศา


 



นอกจากนี้ คาดว่าปริมาณฝนที่ตกในช่วงฤดูร้อนปีนี้จะสูงกว่าค่าปกติ แต่ปริมาณฝนที่ตกอาจไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภครวมทั้งการใช้น้ำในการเกษตรกรรมบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยแล้งซ้ำซาก ซึ่งอยู่บริเวณภาคเหนือและอีสานเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ พิจิตร เลย หนองคาย อุดรานี หนองบัวลำภู นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี อยุธยา ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และสตูล ขณะเดียวกัน ในช่วงฤดูร้อนจะมีลักษณะอากาศแห้ง จะเอื้ออำนวยต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าได้ง่าย ประชาชนจึงควรระมัดระวังการใช้เชื้อเพลิงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไว้ด้วย


 



อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูร้อนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งโดยเฉพาะในเดือนมีนาคมและเมษายน ซึ่งมักจะเกิดบริเวณประเทศไทยตอนบน โดยจะมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง และอาจเกิดลูกเห็บตกลงมา ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สิน สิ่งปลูกสร้าง ตลาดจนทำความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตรได้ และในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม อาจมีพายุไซโคลนก่อตัวขึ้นในทะเลอันดามัน และเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ชายฝั่งหรือเคลื่อนเข้าสู่ประเทศพม่า ส่งผลให้ด้านตะวันตกของไทยจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น อาจก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันในที่ราบลุ่มบางพื้นที่ได้


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net