Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 มกราคม 2551 ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือ ศจพ.โดยมีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในที่ประชุม โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องการแก้ปัญหาความยากจนด้านที่ดิน ซึ่งรวมถึงการแก้ปัญหาอุทยานบูโด - สุไหงปาดี ทับที่ดินทำกินของชาวบ้านอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาสด้วย โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาที่ดินทำกินและชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบาเจาะ 60 คนเข้าร่วมด้วย


 


ในที่ประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลปัญหาอุทยานทับที่ทำกินชาวบ้านที่เกิดขึ้นว่า มีทั้งหมด 887 ราย 991 แปลง รวมที่ดินจำนวน 4,452 ไร่เศษ โดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินระดับอำเภอ ได้รวบรวมข้อมูลขึ้นอย่างเป็นระบบ เพื่อเสนอผ่านคณะอนุกรรมการแก้ปัญหาความยากจนด้านที่ดิน ของ ศจพ. ที่มีพล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง เป็นประธานคณะอนุกรรมการ


 


นอกจากนี้ มีตัวแทนชาวบ้านอำเภอบาเจาะได้ชี้แจงในที่ประชุมด้วยว่า พื้นที่ทำกินของชาวบ้านในพื้นที่มีมาก่อนที่จะมีการประกาศตั้งอุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดีทับที่ดินดังกล่าวด้วย โดยได้เข้าทำกินมาตั้งแต่เริ่มมีการก่อตั้งชุมชน ซึ่งมีอายุมากกว่า 300 ปีมาแล้ว ซึ่งเห็นได้จากการที่มีมัสยิดเก่าแก่ ที่บ้านตะโละมะเนาะ อำเภอบาเจาะ ซึ่งมีอายุ 300 ปีมาแล้ว


 


ที่ประชุมจึงมีมติออกมาใน 3 ประเด็น ได้แก่ ให้นำกรณีการแก้ปัญหาที่ดินทำกินของอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นต้นแบบให้กับอำเภออื่นๆ ทั่วประเทศดำเนินการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน โดยเฉพาะที่เกิดจากปัญหาอุทยานแห่งชาติทับที่ทำกิน


 


สอง เสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สามารถโค่นต้นยางพาราที่หมดอายุแล้วในพื้นที่ดังกล่าวได้ในอัตราร้อยละ 5 ของเขตพื้นที่ปกครองในระดับตำบลหรืออำเภอต่อปี โดยให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอขึ้นเพื่อตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว


 


สาม ให้มีหน่วยงานที่ชำนาญตรวจสอบรังวัดโดยใช้อุปกรณ์ GPS และลงพิกัดตำแหน่ง GIS แปลงที่ดินของชาวบ้านเพื่อแก้ปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเริ่มจากอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ก่อนที่จะขยายไปยังเขตอำเภออื่นๆ ต่อไป


 


หลังการประชุมกลุ่มชาวบ้านทั้ง 60 คน ต่างแสดงความพอใจกับผลการประชุมดังกล่าว แม้ว่าที่ประชุมไม่ได้มีมติขอเพิกถอนสภาพอุทยานแห่งชาติที่ทับที่ดินทำกินของพวกเขาก็ตาม จากนั้นได้เดินทางกลับจังหวัดนราธิวาสทันที

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net