สำนักข่าว Mizzima รายงานเมื่อวันที่ 7 ม.ค.50 ว่า ทางการพม่าใช้ระเบียบการใหม่ในการคัดเลือกและมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาที่ต้องการเรียนต่อต่างประเทศที่เข้มงวดขึ้น หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการชุดใหม่โดยเพิ่มคณะกรรมการระดับผู้บริหารจากกระทรวงทบวงกรมต่างๆ เข้ามา

ทั้งนี้ ในระเบียบการใหม่ระบุว่า นักเรียนทุนที่กำลังศึกษาอยู่ในต่างประเทศต้องกลับประเทศเมื่อสำเร็จการศึกษา โดยคู่สมรสหรือครอบครัวต้องลงชื่อรับรองและต้องจ่ายเงินจำนวน 5 ล้านจั๊ต(135, 135 บาท) ในกรณีที่นักศึกษาไม่สามารถกลับประเทศได้ ระหว่างนั้นทางการจะไม่อนุญาตให้สมาชิกคนใดคนหนึ่งในครอบครัวของนักศึกษาออกนอกประเทศเพื่อป้องกันนักศึกษาไม่กลับประเทศหลังจากที่เรียนจบ นอกจากนี้ หากต้องการศึกษาต่อ นักศึกษาต้องรับราชการเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี

นักศึกษาพม่าคนหนึ่งที่ได้รับทุนจากรัฐบาลและกำลังศึกษาอยู่กล่าวว่า กฎระเบียบใหม่ได้ทำลายความฝันของนักศึกษาที่ต้องการเรียนต่ออย่างสิ้นเชิง เพราะถ้าหากต้องรับราชการถึง 3 ปี ก่อนที่จะได้เรียนต่อนั้น อายุก็จะเกินเกณฑ์ตามที่สถาบันการศึกษากำหนดเอาไว้ เพราะปกติ นักศึกษาที่ได้รับทุนจากรัฐบาลก็มีอายุเกือบจะเกินเกณฑ์แล้ว

นอกจากนี้ ระเบียบใหม่ยังห้ามนักศึกษาหญิงเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศตามลำพัง โดยกำหนดว่าต้องมีนักศึกษาหญิงอย่างน้อยสองคนไปเรียนต่อในโครงการเดียวกัน

นักศึกษาพม่าคนเดิมกล่าวว่า รัฐบาลพม่าไม่ได้ให้ความสนใจกับการศึกษาของคนในชาติ แต่กลับสนใจอำนาจของตนเองเท่านั้น ซึ่งทุนเรียนต่อต่างประเทศส่วนมากได้มาจากประเทศที่รับนักศึกษาไปเรียน หรือกลุ่มองค์กรเอ็นจีโอ มีเพียงเจ้าหน้าที่กองทัพที่ไปเรียนต่อในรัสเซียและจีนเท่านั้นที่รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนและออกค่าใช้จ่ายให้

นักศึกษาพม่าอีกคนที่กำลังเตรียมตัวเพื่อสมัครรับทุนศึกษาต่อต่างประเทศแสดงความคิดเห็นว่า เจ้าหน้าที่พร้อมยืดหยุ่นกฎระเบียบต่าง ๆ ที่กำหนดขึ้นมาใหม่ได้หากได้รับสินบน

--------------------------------

CHUEM NEWS โดย ศูนย์ข่าวสาละวิน