กกต. ประกาศรับรองผล ส.ส. 397 คน

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 5 คนนำโดยนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ร่วมกันแถลงข่าวประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน รวมทั้งสิ้น 397 คน  โดยแบ่งเป็น ส.ส. แบบสัดส่วน ประกาศรับรอง 76 คน ไม่รับรอง 4 คน เป็นว่าที่ ส.ส. พรรคพลังประชาชน 3 คน  คือ นายยงยุทธ  ติยะไพรัช  ว่าที่ ส.ส. กลุ่มที่หนึ่ง  นายชวลิต วิชยสุทธิ์ และนายธนเทพ ทิมสุวรรณ ว่าที่ ส.ส. กลุ่ม 3  ขณะที่เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งคนคือนาย ไพฑูรย์ แก้วทอง ว่าที่ ส.ส. กลุ่มสอง ซึ่งทั้งหมดโดนข้อหาแจกทรัพย์สินและแจกเงิน ขณะที่ ส.ส. แบบแบ่งเขต ประกาศรับรอง 321 คน ไม่ประกาศรับรอง 79 คน และหลังจากนี้ กกต. จะเร่งทำหนังสือรับรองและ  ส.ส. ที่ได้รับการรับรองในวันที่ 3 ม.ค. สามารถมารับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. เป็นต้นไป

 

นายอภิชาตยังกล่าว  ยืนยันว่าการประกาศรับรองไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งหรือจ้องที่จะไม่ประกาศใคร เพราะ กกต. ไม่คำนึงว่าเป็นพรรคไหนอย่างไรแต่ดูเป็นรายบุคคล  โดยเริ่มพิจารณาจาก จังหวัดที่มี ส.ส. น้อยที่สุดอย่าง จ.ระนอง ไปจนถึง ที่มี ส.ส. มากที่สุดอย่าง กทม. และพิจารณาตรวจเช็คข้อมูลระหว่างด้านสืบสวนสอบสวนและด้านบริหารเลือกตั้งเพื่อให้ชัดเจนว่าทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนค้างอยู่ถึงสามรอบด้วยกัน

 

นายอภิชาตกล่าวถึงส่วนที่ยังไม่ได้รับรองว่า  กกต. ได้ตรวจสอบไปยังเจ้าหน้าที่เจ้าของสำนวนว่า เรื่องอยู่ขั้นตอนใด รวมทั้งได้กำหนดวันแล้วเสร็จของแต่ละสำนวน เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำเสนอสำนวนเข้าที่สู้ที่ประชุม กกต. ตามเวลาที่กำหนด  โดยมีเวลาพิจารณาในส่วนที่เหลือได้ถึงกลางเดือนนี้ หากไม่แล้วเสร็จก็อาจจะต้องประกาศรับรองไปก่อน

 

ผู้สื่อข่าวถามว่ากกต. ยืนยันว่าการประกาศรับรองในส่วนที่เหลือจะไม่กระทบต่อการเปิดประชุมสภาใช่หรือไม่ นายอภิชาตกล่าวว่าต้องดูว่าที่ประกาศไปนั้นใกล้จำนวน 95% แล้วหรือยัง ซึ่ง ส.ส. ที่ กกต. รับรองในส่วนที่เป็นหัวหน้าพรรคนั้นไม่มีผู้ใดที่มีปัญหา

 

เมื่อถามต่อว่า ในกรณีของนายบรรหาร ศิลปอาชา ว่าที่ ส.ส. เขต 1 สุพรรณบุรี และหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ กกต. มีมติให้สอบสวนเพิ่มเนื่องจาก กรรมการประจำหน่วยวางตัวไม่เป็นกลางเหตุใดจึงมีการรับรอง นายอภิชาตกล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณากันและมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของ เจ้าหน้าที่ จึงให้รับรองไปก่อน แต่หากผลการสอบสวนในเวลาต่อมาพบว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรมก็สามารถสั่งให้เลือกตั้งใหม่ได้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ศาลฎีกามีคำสั่งรับคำฟ้องของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส. บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ ไว้พิจารณาจะมีผลกระทบต่อการประกาศรับรองของ กกต. หรือไม่ นายอภิชาตกล่าวว่าคงไม่กระทบเพระทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง เราต้องดูว่าอะไรที่เข้าหลักเกณฑ์อะไรที่อยู่ในอำนาจของ กกต. เราก็ประกาศรับรองไป และที่ กกต. เพิ่งจะแถลงก็ไม่ใช่เพราะรอผลการพิจารณาของศาลแต่เรื่องเข้ามาให้พิจารณาช่วงบ่าย และจนถึงขณะนี้ก็ไม่ทราบว่าศาลพิจารณาอย่างไร และ กกต. ก็คงไม่ต้องไปประสานกับทางศาล หากท่านพาดพิงมาเราก็แก้ข้อกล่าวหาไป เชื่อว่าศาลคงพิจารณาไปตามพยานหลักฐาน

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของ 83 ว่าที่ ส.ส. ที่ยังไม่ได้รับการรับรองหาก ประวิงเวลาโดยไม่เข้าชี้แจงจะทำอย่างไร นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารเลือกตั้ง กล่าวว่า อยากให้มาชี้แจง เพราะถ้าไม่ชี้แจง แล้ว กกต.ประกาศรับรองไปก่อน แล้วมาพบหลักฐานในภายหลังว่าการเลือกตั้งไม่สุจริต  กกต.ก็ต้องส่งเรื่องไปที่ศาลและเมื่อถึงตอนนั้นก็จะมีโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี  ดังนั้นถ้าถูกแจ้งข้อกล่าวหาก็ควรมาชี้แจงเรื่องจะได้ยุติ

 

ขณะที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า เท่าที่ดูสำนวนก็เชื่อได้ว่า กกต. จะสามารถพิจารณารับรอง ส.ส. ได้เพียงพอต่อการเปิดประชุมสภา และขณะนี้ก็เหลือเพียง 59 คนเท่านั้น   ส่วนกรณีของนายยงยุทธ ที่ยังไม่ได้รับรอง  หากนายยงยุทธมาชี้แจงในวันที่ 8 ม.ค. ที่จะถึงนี้  วันที่ 10 ม.ค. เราก็จะตัดสินเลยว่าจะได้ใบขาว ใบเหลือง หรือ ใบแดง แต่ถ้านายยงยุทธไม่มาก็จะเสียสิทธิ และทำให้การพิจารณาของ กกต. ล่าช้าออกไปอีก

 

ปชป. ค้าน ประกาศผล 30 ว่าที่ ส.ส.พปช.

นายถาวร เสนเนียม และนายเจือ ราชสีห์ ว่าที่ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการประกาศคัดค้านการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง กับบุคคลที่ถูกร้องว่าร่วมกันแจกแผ่นซีดีทักษิณ ซึ่งเป็นว่าที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนรวม  30 คน  อาทิ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ว่าที่ส.ส.เชียงใหม่ นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร นายไชยวัฒฯ ติณรัตน์ นายสรรภัญญ ศิริไปล์ ว่าที่ส.ส.มหาสารคาม ฯลฯ

 

นายถาวร กล่าวว่า  ขอให้กกต.ระงับการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะหากต้องสอยทีหลังจะเป็นส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นไปอย่างใสสะอาด แม้จะทำให้การเปิดสภาต้องล่าช้าไปกว่า 30 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดก็ตามก็ไม่มีความสำคัญกว่าความโปร่งใสในการโหวตเลือกนายกฯ

 

ศาลฎีการับคำร้อง"ไชยวัฒน์"

วันเดียวกัน ศาลฎีกา (คดีเลือกตั้ง) มีคำสั่งรับคำร้องของนายไชยวัฒน์ สินธุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) และผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 พปช. โดยศาลฯได้นัดพิจารณาคดีในวันที่ 15 ม.ค.51 เวลา 10.00 น. ส่วนคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินและคุ้มครองชั่วคราว ศาลให้ยกคำร้องเนื่องจากไม่มีเหตุเพียงพอ

 

ทั้งนี้ ในคำฟ้องของนายไชยวัฒน์ ขอให้ศาลฯวินิจฉัยว่า พรรคพลังประชาชนไม่มีสิทธิส่งผู้สมัครทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15-16 ธ.ค.50 นั้นเป็นโมฆะ เนื่องจากพรรคพลังประชาชนได้มีการแจกซีดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

 

นายไชยวัฒน์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังศาลมีคำสั่งแล้วว่า  พฤติการณ์ที่ผ่านมาเชื่อโดยสุจริตใจได้ว่า ผู้สมัครของพรรคพลังประชาชนเป็นคนของพรรคไทยรักไทย ทั้งจากการให้สัมภาษณ์ของนายสมัคร , พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้ง สมาชิสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำให้เชื่อว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย

 

ในวันนัดพิจาณาจะนำพยาน ซึ่งขอยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร แต่จะมีพยานประมาณ 10 ปาก โดยจะเตรียมข้อมูลมาให้ครบถ้วน เพราะจะทำให้กระบวนการพิจารณาไต่สวนของศาลเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ยืดเยื้อ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท