ชาติไทย-เพื่อแผ่นดิน ยื่น 5 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล จับตา 4 ม.ค. ตั้งรัฐบาลได้หรือไม่

ช่วงเย็นวัน ที่ 27 ธ.ค. นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตประธานสภานโยบายและยุทธศาสตร์พรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดบ้านต้นสน ภายในซอยปรีดีพยมยงค์ 14  เลี้ยงอาหารค่ำให้กับกลุ่มแกนนำพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยมีแกนนำของทั้งสองพรรคเข้าร่วมรับประทานอาหารในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก  นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ นายพินิจ จารุสมบัติ นายสุชาติ ตันเจริญ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตกรรมการสภานโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อแผ่นดิน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา ว่าที่ ร.ต. ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำพรรคเพื่อแผน่ดิน 

 

ต่อมา นายบรรหาร พร้อมด้วยสุวิทย์และนายวัฒนา แถลงถึงหารือของทั้งสองพรรค ว่า หลังจากที่ผ่านพ้นการเลือกตั้งมาในระยะเวลาหนึ่งแล้ว ประชาชนเกือบทั่วประเทศอยากเห็นประเทศชาติมีความสามัคคีกลมเกลียวไม่แตกแยก และหลังจากมีรัฐบาลใหม่ ขณะนี้บ้านเมืองไม่น่าไว้วางใจ  ทุกคนตระหนักได้เป็นอย่างดีว่า  หากขาดความสามัคคีแล้ววิกฤติภายในชาติก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงอยากให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ประการ คือ

 

1. ต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะล่วงละเมิดมิได้ 

2. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ถือเป็นรัฐบุรุษที่สูงสุดในบรรดาผู้คนทั้งหลายและเป็นที่เคารพของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ต้องรักษาไว้ และต้องไม่ก้าวล่วง

3. ต้องไม่มีการล้างแค้นซึ่งกันและกัน เพราะหากมีการล้างแค้นเกิดขึ้นแล้วก็จะเกิดการล้างแค้นไม่สิ้นสุดและไม่สามารถหาข้อยุติได้ 

4. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องเดินทางเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยต้องไม่มีการแทรกแซงและก้าวก่าย และ

5. คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) จะต้องไม่ยุบไม่ยกเลิกและต้องไม่ไปแตะต้อง

 

"หากหลักการตรงนี้เป็นที่ยอมรับกันได้ ทั้งสองพรรคการเมืองก็สามารถที่จะร่วมงานกับทุกฝ่ายที่เห็นพ้องต้องกันได้ และจะสามารถแก้ไขปัญหาความแตกแยกภายในชาติได้ และทำให้คนในชาติเกิดความสามัคคีกันได้" หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวและว่า หากข้อเสนอนี้ได้รับการตอบรับก็สามารถประสานหรือพูดคุยกันได้

 

"มาร์ค"ขีดเส้นพปช.ถึง4 ม.ค.ตั้ง รบ.ไม่ได้ - ปชป.จะตั้งเอง

วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ตลาดหลักทรัพย์ซบเซาว่า ตอนนี้พรรคพลังประชาชนเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลอยู่ และบอกว่าจะแถลงในวันที่ 4 มกราคม ดังนั้น ดีที่สุดก็คือรอการแถลงในวันดังกล่าว ในส่วนของพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคที่จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ ต้องช่วยกันคิดว่า จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจได้อย่างไร ที่ผ่านมาคนจึงได้แนะนำพรรคพลังประชาชนเสมอว่า ในเรื่องนโยบายต่างๆ ขอให้คิดถึงปัญหาของประชาชน ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาของประเทศก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกลับมา และต้องมีมาตรการที่ให้เห็นทิศทางที่ชัดเจนทางเศรษฐกิจด้วย เพราะว่าลำพังเพียงแค่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้งอย่างเดียว แม้ว่าจะช่วยแล้วแต่ยังคงไม่เพียงพอ

 

พลังประชาชนกังขาผลคะแนนเมืองกรุง

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชาชนนั้น เมื่อเวลา 10.30 น. มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน โดยในที่ประชุมได้มีการตั้งข้อสังเกต พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ผลการเลือกตั้งใน กทม.กันอย่างกว้างขวาง

 

นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนกล่าวช่วงหนึ่งระหว่างเป็นประธานการประชุมว่า คะแนนเลือกตั้งใน กทม.ต้องเริ่มต้นนินทากัน จะบอกถึงนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ให้ว่า จะทำอะไรก็ขอให้ระมัดระวังตัว เพราะเราต้องขอเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าผลเลือกตั้งโดยเอ็กซิทโพลล์ พรรคพลังประชาชนได้ 21 คน แต่เอาคะแนนมารวมแล้วเหลือ 9 คน คะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ว่าใครไปทำอะไรมิดีมิร้ายกับคะแนนนั้นหรือไม่ จาก 100 คะแนน พรรคพลังประชาชนได้ 20 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ได้ 80 คะแนน บางอันเราได้ 0 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ได้เต็ม

 

จากนั้นเวลา 12.00 น. ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า ความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น วันนี้น่าจะจบได้แล้ว เนื่องจากขณะนี้พรรคพลังประชาชนรวบรวมเสียงได้ 254 เสียง ซึ่งมากกว่าอีกฝ่ายที่จะรวบรวมมาแข่งขันด้วยได้ รวมทั้งยังมีสัญญาณที่ดีจากพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ได้มีการพูดคุยกันไปบ้างแล้วด้วย ดังนั้นทุกอย่างน่าจะนิ่ง ยุติ เพื่อให้สังคมเกิดความมั่นใจ ว่าจะมีรัฐบาลอย่างแน่นอนในช่วงปีใหม่

       

พรรคเพื่อแผ่นดินที่พรรคพลังประชาชนอ้างว่ามีสัญญาณที่ดีจากพรรคเพื่อแผ่นดินว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลด้วยนั้น เมื่อเวลา 12.00 น. นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน แถลงภายหลังการประชุมพรรค ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตนเอง นายวัฒนา อัศวเหม และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นผู้ตัดสินใจทางการเมืองในนามของพรรค โดยคำนึงถึงความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงนำปัญหาปากท้องของชาวรากหญ้ามาประกอบการตัดสินใจด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะไปจับขั้วใด คาดว่าจะเห็นรูปร่างก่อนช่วงปีใหม่ ทั้งนี้ การตั้งรัฐบาลจะมองเฉพาะเรื่องตัวเลขคงไม่ได้ แต่ต้องดูว่าอยู่กับพรรคไหนแล้วจะยุติปัญหาความแตกแยกได้ และทำให้ประชาธิปไตยเดินต่อไปได้

 

ส่วนที่บรรดาว่าที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรค ต้องการให้ไปจับมือกับพลังประชาชนนั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า ก็คุยกันเรื่องนี้ เรื่องความเห็นต่างกันถือเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องดูความเห็นคนส่วนใหญ่ ซึ่งท้ายที่สุดมั่นใจว่าหากพรรคตัดสินใจอย่างไร สมาชิกทั้งหมดก็จะเดินไปในแนวทางเดียวกัน

 

"จรัญ" ชี้ "สมัคร" ไม่หมดคุณสมบัติเป็นนายกฯ

นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตรองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุถึงข้อกฎหมายกรณี นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน ระบุว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรนูญมาตรา 174(5) ที่บัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรีฟ้องหมิ่นประมาท ว่า เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต้องการให้บุคคลที่อยู่ระหว่างรับตำแหน่งรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ต้องมีความสง่างาม เมื่อต้องโทษระหว่างดำรงตำแหน่งก็จำเป็นต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะถือว่าต้องคำพิพากษา ไม่ว่ารอลงอาญาหรือไม่ก็ตาม แต่ในรัฐธรรมนูญได้ยกเว้นโทษไว้ 3 อย่าง คือ การกระทำผิดโดยประมาท กระทำผิดโดยไม่เจตนา และกระทำผิดโดยหมิ่นประมาท ซึ่งคดีหมิ่นประมาทเป็นความผิดลหุโทษ จึงต้องมีข้อยกเว้น เนื่องจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี ต้องให้สัมภาษณ์และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ดังนั้น อาจจะไปหมิ่นประมาทคนอื่นโดยไม่ตั้งใจก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากเป็นความผิดประเภทอื่นๆ ถึงแม้คดีจะรอลงอาญาก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ ถ้าเป็นประชาชนทั่วไปหากต้องคำพิพากษาต้องรอคดีให้ถึงที่สุด ยังไม่ถือว่ามีความผิด

 

ทหารยังไม่ขยับ แต่ไม่รับปากไม่มีปฏิวัติ

เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม ผบ.เหล่าทัพ นำโดย พล.อ.วินัย ภัททยิกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และนายทหารระดับสูงจากทุกเหล่าทัพ ตบเท้าเข้าอวยพร พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่

 

พล.อ.บุญรอด ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันภายหลังการเลือกตั้ง ว่า ตอนนี้ปล่อยวางแล้วที่พูด อะไรจะเกิดก็เกิด ไม่ใช่หน้าที่ของเราแล้ว หน้าที่ของเราจบลงไปแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะฟอร์มรัฐบาลและเข้ามาบริหารประเทศต่อไป ส่วนทหารก็จะกลับเข้ากรมกอง และทำหน้าที่ทหาร คือ ด้านการรักษาความมั่นคงแห่งชาติต่อไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

 

ต่อข้อถามว่า แสดงว่าทหารไม่กลัวการถูกเช็กบิลจากฝ่ายการเมืองที่จะเข้ามา พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า พูดง่าย ๆ ที่ผ่านมาเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องก็จะต้องไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าปีหน้าจะไม่มีการปฏิวัติ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ตนยืนยันในหลักการว่าจะไม่เกิด เหมือนกับภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่มีอะไรที่จะยืนยันได้ ทุกอย่างเป็นสัจธรรม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท