การเมือง

 

กลาโหม-คมช.ประสานเสียงไม่ได้แทรกแซง กกต.

โพสต์ทูเดย์ - พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทำหนังสือเสนอ กกต.เพื่อขอให้ทบทวนผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการสอบสวนเอกสารลับที่ กกต.ตั้งขึ้นว่า กองทัพไม่ได้แทรกแซงการทำงานของ กกต. กรณี คมช.ทำหนังสือให้ กกต.ทบทวนมติดังกล่าว เพื่อแสดงจุดยืนว่า สิ่งที่ได้ทำนั้นเป็นการทำตามหน้าที่และไม่ได้มีข้อแนะนำอะไรให้ กกต.

 

"เอกสารฉบับนี้ ออกมาตั้งแต่เดือนกันยายน ส่วนพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง เพิ่งออกมาเดือนตุลาคม ฉะนั้นก็ทำตามหน้าที่ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเป็นภารกิจที่ คมช.ต้องปฏิบัติ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าว และว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งออกมา กองทัพก็ให้ทุกหน่วยวางตัวเป็นกลาง และในทางปฏิบัติทุกหน่วยก็วางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว จึงต้องแยกสองส่วนออกจากกัน โดยในส่วนของกองทัพก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ส่วนบทบาทของ คมช.ก็มีบทบาทอยู่ และจะหมดบทบาทพร้อมรัฐบาลหมดวาระ

 

ขณะที่ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะ รักษาการประธาน คมช. กล่าวว่า  หนังสือที่ คมช.ส่งไปเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูล ไม่มีเจตนาเข้าไปแทรกแซงการทำงานของ กกต.เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่

 

"บุญรอด" ป้อง คมช.ไม่แทรกแซง กกต.

เดลินิวส์ - เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทำหนังสือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทบทวนมติเรื่องเอกสารลับ คมช.ที่หลายฝ่ายมองว่า คมช.แทรกแซงองค์กรอิสระ ว่า คงไม่เป็นการแทรกแซง เพราะเราให้ กกต.เป็นผู้พิจารณา

 

การที่ คมช.ทำหนังสือไป ก็เพื่อแสดงจุดยืนว่า สิ่งที่ได้ทำ ทำตามหน้าที่ และไม่ได้มีข้อแนะนำอะไรให้ กกต. เท่าที่ตนอ่านจากหนังสือพิมพ์ ก็เป็นทำนองชี้แจงว่า สิ่งที่ คมช.ทำไป ก็เพราะ คมช. มาจากคณะปฏิรูปการปกครอง สิ่งที่ทำไปก็ทำตามภารกิจ เอกสารฉบับดังกล่าวก็ออกมาตั้งแต่เดือน ก.ย. ส่วนพระราชกฤษฎีการเลือกตั้ง เพิ่งออกมาเดือน ต.ค. เพราะฉะนั้นก็ทำตามหน้าที่ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเป็นภารกิจที่ คมช. ต้องปฏิบัติ

 

ต่อข้อถามว่า ถือเป็นการทำหน้าที่ถูกต้องใช่หรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ถูกต้อง ถือว่าเป็นการทำด้วยความถูกต้อง แต่ในส่วนกระทรวงกลาโหม เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมา ก็ให้ทุกหน่วยวางตัวเป็นกลาง และในทางปฏิบัติทุกหน่วยก็วางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว ดังนั้นต้องแยกสองส่วนออกจากกัน

 

"สนธิ" แฉแผนเอกสารลับ คมช.เกมเขี่ยพ้นเก้าอี้ ต้านซื้อเสียง

คมชัดลึก - พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ มีหนังสือเลขที่ คมช.0002/1770 เสนอ กกต.เพื่อขอให้ทบทวนมติผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการสอบสวนเอกสารลับที่ กกต.ตั้งขึ้น โดยนายสุพล ยุติธาดา เป็นประธานว่า ยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าว คงต้องถาม คมช. แต่ถ้า คมช.รู้ว่าอะไรเป็นอย่างไร ก็น่าจะเสนอแนะได้ ทั้งนี้ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีตั้งข้อสังเกตว่า คมช.ทำหนังสือดังกล่าวเพื่อช่วยตนเอง

 

พล.อ.สนธิ กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งประธาน ครส. และย้ำว่าส่วนตัวไม่ได้ต้องการอะไร ที่ผ่านมา ถือว่าเสียสละมากพอสมควรแล้ว นอกจากนี้ ยังเชื่อว่ากระแสที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของ คมช.

 

 

ความมั่นคง

 

ผบ.ทบ.มั่นใจปัญหาใต้กระเตื้อง ชี้ฆ่ารายวันถี่แค่ช่วงเปลี่ยนถ่าย

ไทยโพสต์ - ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. นายวัฒนา ปูรานิธี ประธานชมรมกีฬายิงปืนสโมสรข้าราชการศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) นำคณะกรรมการจัดการแข่างขันยิงปืนเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบเงินรายได้จากการแข่งขันยิงปืนลูกโม่และกึ่งอัตโนมัติเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 565,700 บาท สมทบกองทุนส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความสงบเรียบร้อยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

 

ในโอกาสนี้ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ถึงแม้ความรุนแรงและความถี่ของเหตุการณ์จะลดลงไป แต่ก็ยังคงมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่จึงจำเป็นที่จะต้องชวยเหลือและให้ความห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ก็ได้นำเงินจากกองทุนฯ นี้ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วกว่า 130 ล้านบาท ทั้งนี้เงินจำนวนนี้ไม่ได้เป็ฯเงินที่มากมายเมื่อเทียบกับความสูญเสียแต่ก็เป็นน้ำใจที่คนไทยได้ช่วยเหลือดูแลกันจริงๆ

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดความร่วมมือจากประชาชนพร้อมกับควบคุมผู้ก่อความไม่สงบเพื่อทำให้สถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ลดลง โดยในระยะต่อไปคือ การสร้างความเข้าใจและความร่วมมือ ส่วนในระยะยาวคือ ให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ในสิ่งที่ถูกต้องถึงสภาพบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งทำความเข้าใจเรื่องความเชื่อทางศาสนา ที่ไม่มีศาสนาใดยอมรับนับถือการใช้ความรุนแรง และไม่มีสังคมใดที่จะเป็นสังคมในอุดมคติ ที่จะมีแต่คนเชื้อชาติเดียวศาสนาเดียวกันทั้งหมด ซึ่งหวังว่าจะเห็นบ้านเมืองมีความเป็นอยู่ที่ดีมีความสงบขึ้น

 

คตน.เร่งสรุปตัวเลขผู้เสียชีวิต จากสาเหตุนโยบายฆ่าตัดตอน

คมชัดลึก - นายคณิต ณ นคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์ การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษ และนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) เพื่อจัดทำโครงร่างรายงานฉบับแรก ซึ่งคตน.เตรียมเสนอต่อพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในเดือนมกราคม 2551

 

นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 1 เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการได้ตรวจสอบรายงานของตำรวจพบว่า ในช่วงประกาศสงครามยาเสพติดปี 2546 มีรายงานผู้เสียชีวิตจากคดีฆาตกรรมทั้งสิ้น 2,912 ราย จากนั้นได้มีการคัดกรองข้อมูลจน พบว่ามีผู้เสียชีวิตที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดกว่า 1,000 รายเท่านั้น ซึ่งจะต้องตรวจสอบจากฐานข้อมูลต่อไปให้ได้ข้อเท็จจริงว่า ผู้ที่มีรายชื่อในบัญชีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งถูกทางการเรียกเข้ารายงานตัว ถูกฆาตกรรมหลังเข้ารายงานตัวกี่ราย ทั้งนี้เพื่อนำเสนอข้อมูลดังกล่าวในรายงานฉบับแรกที่เตรียมเสนอนายกฯ

 

รายงานข่าวจาก คตน. เปิดเผยว่า สำหรับเนื้อหาของรายงานฉบับแรก จะเป็นการลำดับเหตุการณ์สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด ตั้งแต่ปี 2540-2544 จนกระทั่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำหนดนโยบายปรายปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาด มีการตั้งศูนย์อำนวยการต่อสู้เอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศตส.) และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย นำนโยบายปราบปรามยาเสพติดขั้นแตกหัก ไปสู่ระดับปฏิบัติในจังหวัดและอำเภอ โดยมีการกำชับให้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับผู้ค้ายาเสพติด ภายในกรอบระยะเวลา 3 เดือนนับจากวันที่ 1 ก.พ.- 30 เม.ย. 2546 ซึ่งแผนปฏิบัติการกำหนดให้มีการสำรวจ และรวบรวมข้อมูลผู้ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในแต่ละพื้นที่ และนำมาจัดทำเป็นบัญชี จากนั้นให้เรียกผู้ที่มีรายชื่อในบัญชีให้เข้ารายงานตัว พร้อมกดดันเพื่อลดเป้าผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนทำให้ในช่วงเวลา 3 เดือนของการประกาศสงคราม เกิดคดีฆาตกรรมขึ้นจำนวนมาก ในเดือน ก.พ. 2546 มีคดีฆาตกรรมสูงกว่า 60 % ต่อมาเมื่อมีการนำเสนอข่าวการฆ่าตัดตอน และมีนักสิทธิมนุษยชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทำให้สถิติคดีฆาตกรรมในเดือนมี.ค. 2546 ลดลงเหลือเพียง 20 % และเดือนเม.ย. 2546 มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นเพียง 10 %

 

 

 

คุณภาพชีวิต & สิ่งแวดล้อม

 

"เอ็นจีโอสากล"เ ผยกลยุทธ์ บ.ยาทุ่มบริจาคล้มซีแอล

ไทยโพสต์ -  นายเฉลิมศักดิ์ กิตติตระกูล เจ้าหน้าที่โครงการเอชไอวี/เอดส์ และการเข้าถึงยา องค์การอ็อกแฟม เกรท บริเทน ประจำประเทศไทย กล่าวภายในการสัมภาษณ์พิเศษ "เปิดตัวรายงานการลงทุนเพื่อรักษาชีวิต (Investing for Life) ของบริษัทยายักษ์ใหญ่" ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อดำเนินการตามมาตรการการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (ซีแอล) ในกลุ่มยามะเร็ง แต่ปัญหาคือ มียามะเร็งบางรายการอย่างอิมาทินิบ ได้ถูกใช้สิทธิตามโครงการ จี-แพ็ป คือผู้ป่วยบัตรทองสามารถรักษาฟรี จึงกังวลว่าอาจมีการนำเหตุผลดังกล่าวไปดำเนินการระงับการทำซีแอล

 

ทั้งนี้มีข้อมูลยืนยันจากรายงานการลงทุนเพื่อรักษาชีวิตฉบับล่าสุดของอ็อกแฟมฯ โดยทำการสอบถามผู้บริหารของบริษัทยายักษ์ใหญ่ 12 แห่ง อาทิ บ.แอ็บบ็อต บ.โนวาร์ดีส บ.โรช บ.ซาโนฟี่ อเวนตีสฯลฯ พบว่าบริษัทยาเหล่านี้หาทางออก โดยการบริจาคยาตามโครงการต่าง ๆ เพื่อทำให้คนสามารถเข้าถึงยาราคาถูกทั้ง ๆ ที่เป็นวิธีที่ไม่ยั่งยืน เพราะท้ายที่สุดก็ต้องกลับมาใช้ยาราคาแพงอยู่ดี

 

"รายงานดังกล่าวได้ยื่นให้แก่บริษัทยาทั้ง 12 แห่ง เพื่อนำไปศึกษาและดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆให้ถูกต้อง พร้อมทั้งจะนำเสนอ สธ.เพื่อเป็นข้อมูลต่อไป" นางเยาวลักษณ์กล่าว

 

เอ็นจีโอล่าชื่อค้าน พ.ร.บ.น้ำ ชี้ประชาชนเสียประโยชน์

คมชัดลึก - น.ส.สดใส สร่างโศก เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน กล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณามีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 2 ธันวาคม กฎหมายนี้จะทำให้สถานะของน้ำถูกเปลี่ยนเป็นของรัฐในทันที ตามที่กำหนดในมาตรา 6 (1) และ (2)

 

นอกจากนั้น ยังเปิดโอกาสให้รัฐจัดการน้ำใน 3 รูปแบบ คือ รูปแบบการพัฒนาแหล่งน้ำ การผันน้ำ การทำลายสิ่งกีดขวางทางน้ำในยามน้ำท่วม อีกทั้งภาระทางการเงินของผู้ใช้น้ำจะปรากฏในเรื่องค่าใบคำขอ ค่าธรรมเนียมอนุญาตใช้น้ำ ค่าใช้น้ำ ค่าปรับ ค่าโอนต่างๆ และรัฐใช้อำนาจผ่านกลไกที่เรียกว่า คณะกรรมการนโยบายน้ำแห่งชาติ (กนช.) และคณะกรรมการลุ่มน้ำ และในระหว่างที่ยังไม่มี กนช.และกรรมการลุ่มน้ำ บทเฉพาะกาลกำหนดให้ กนช.และกรรมการลุ่มน้ำที่แต่งตั้งตามระเบียบสำนักนายกฯ ดำเนินการไปพลางก่อนภายใน 2 ปี ซึ่งแม้มีคณะกรรมการเข้าไปแต่สัดส่วนของคณะกรรมการจากชาวบ้านจริงๆ มีเพียง 2 คนเท่านั้นจาก 19 คนที่กำหนดไว้

 

น.ส.สดใส กล่าวว่า หาก พ.ร.บ.นี้ผ่านออกมา ประชาชนเดือดร้อนแน่ จึงได้ล่าชื่อชาวบ้านคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ 2,000 ชื่อแล้ว วันที่ 3 ธันวาคมจะนำไปยื่นต่อ สมาชิก สนช.เพื่อขอให้ฟังเสียงประชาชนบ้าง

 

กรมอุทยานฯ ออกประกาศจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว

คมชัดลึก - นายปรีชา จันทร์ศิริตานนท์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเลเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากทุกปี กิจกรรมนันทนาการต่างๆ ได้แก่ การดำน้ำตื้น การดำน้ำลึก การล่องเรือเข้าไปจอดในแนวปะการัง ส่งผลกระทบต่อการถูกทำลายทรัพยากรธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติทางทะเลทุกแห่ง จึงจำเป็นต้องออกมาตรการเพื่อการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การบริการและการรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสม

 

ทั้งนี้การท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเล นอกจากนักท่องเที่ยวเองแล้วยังมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีบทบาทในการพานักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวและประกอบกิจกรรมนันทนาการต่างๆ จึงจำเป็นต้องให้ความรู้กับผู้ประกอบการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และซักซ้อมเกี่ยวกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่ถูกต้องกับนักท่องเที่ยว และขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้คำแนะนำ และให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยว เพื่อลดผลกระทบต่อความเสียหายและการใช้ทรัพยากรเป็นไปในเชิงอนุรักษ์และยั่งยืนสอดคล้องกับแนวทางการจัดการอุทยานแห่งชาติให้เป็นไปตามกฎระเบียบของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

 

นายปรีชา กล่าวด้วยว่า ในฤดูกาลท่องเที่ยวปีนี้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เน้นมาตรฐานด้านการบริหารจัดการอุทยานทางทะเลอย่างเป็นระบบ มีการออกระเบียบจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในเขตอุทยานเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติ และเพื่อให้ธรรมชาติมีการฟื้นตัว นอกจากนี้ยังกำหนดจุดดำน้ำและควบคุมปริมาณการใช้จุดดำน้ำเพื่อไม่ให้เกินขีดความสามารถในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยว เนื่องจากที่ผ่านมาแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำหลายแห่งในฝั่งอันดามัน อาทิ หมู่เกะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลัน ได้รับความเสียหายจากการดำน้ำ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการอุทยานแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลให้เกิดความยั่งยืน

 

ศธ.รุกแก้ความรุนแรงใน ร.ร.จับมือ "มสช."พัฒนาจิตเด็ก

มติชน - เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นายวรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความร่วมมือกับมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) ในโครงการพัฒนา "โรงเรียนปลอดความรุนแรง" เพื่อทำให้โรงเรียนเป็นแหล่งความรู้และสร้างเสริมพัฒนาทางด้านสติปัญญาและจิตใจได้อย่างปลอดภัย ตามนโยบายของ ศธ.ในการป้องกันความรุนแรงในโรงเรียนว่า เป็นความร่วมมือกันที่จะลดความรุนแรงในเด็กและสตรี โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ทาง ศธ.ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาความรุนแรงในโรงเรียน และได้ดำเนินการนำร่องกับ 5 โรงเรียนไปแล้ว

 

"ปัจจุบันความรุนแรงไม่ได้มีแค่นักเรียนกับนักเรียน หรือครูกับนักเรียนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีกรณีเด็กที่ทำร้ายครูด้วย โดยความรุนแรงมีอยู่ 2 มิติ คือ 1.การทุบตี การใช้กำลัง การชกต่อยกัน และ 2.การข่มขู่ พูดจาเสียดสี ดุด่า ประชดประชัน รวมไปถึงกรณีปัญหานักเรียนไม่ยอมเรียนหนังสือก็ถือเป็นความรุนแรงต่อครูด้วยเช่นกัน จนทำให้ครูเกิดความรุนแรงตอบ ทั้งนี้ ปัญหาความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นมักเกิดจากการเลียนแบบสื่อทางโทรทัศน์และสิ่งแวดล้อม อาทิ เพื่อน สังคม ครอบครัว โรงเรียน เป็นต้น" นายวรากรณ์กล่าว และว่า จริงๆ แล้วเด็กทุกคนมีพฤติกรรมด้านไม่ดีอยู่ในตัวเอง แต่ความเป็นตัวตนของเด็กกับพฤติกรรมสามารถแยกออกจากกันได้

 

อย่างไรก็ตาม จากผลงานวิจัยทางจิตวิทยาพบว่า ครอบครัวที่มีปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้น มีแนวโน้มสูงมากที่เด็กจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่งการจะแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวได้นั้น จะต้องมีสังคมที่ดี มีวิถีของประชาธิปไตยทั้งในครอบครัวและโรงเรียนด้วย

 

 

ต่างประเทศ

 

สหรัฐฯ เพิ่มเงื่อนไขถอดเกาหลีเหนือจากชาติสนับสนุนก่อการร้าย

คมชัดลึก -  หนังสือพิมพ์ยูมิอูริ ชิมบุนของญี่ปุ่นรายงานวันนี้อ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการประชุม 6 ฝ่ายเพื่อแก้วิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือที่ไม่เปิดเผยนามระบุว่า สหรัฐได้ตัดสินใจเพิ่มเงื่อนไขใหม่ 3 ข้อต่อเกาหลีเหนือ เพื่อแลกกับการที่สหรัฐจะถอดเกาหลีเหนือออกจากรายชื่อประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย โดยสหรัฐเรียกร้องให้เกาหลีเหนือ เปิดเผยปริมาณพลูโตเนียมที่สกัดได้และรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม รวมถึงเทคโนโลยีและวัตถุดิบนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือได้ถ่ายทอดให้ประเทศอื่น เช่น ซีเรีย

 

หนังสือพิมพ์ชื่อดังของญี่ปุ่นรายงานเพิ่มเติมว่า คาดว่าเกาหลีเหนือจะไม่ยอมรับเงื่อนไขเพิ่มเติมนี้และจะไม่ได้รับการถอดชื่อ ออกจากกลุ่มประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายในเร็วๆ นี้ โดยเงื่อนไขเหล่านี้ เพิ่มเติมจากเงื่อนไข ก่อนหน้านี้ของสหรัฐ ที่ระบุให้เกาหลีเหนือปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์

 

ด้านหัวหน้าการเจรจาปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือของสหรัฐ คริสโตเฟอร์ ฮิลล์บอกเมื่อวันศุกร์ที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ว่า เขาหวังว่าเกาหลีเหนือจะเป็นประเทศที่ปราศจากนิวเคลียร์ ภายในปีหน้า แต่ย้ำว่า เกาหลีเหนือต้องยอมละทิ้งวัตถุดิบเพื่อผลิตอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด

 

บิน ลาเดนโผล่อีก

มติชน - เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน สถานีโทรทัศน์อัล จาซีรา ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เผยแพร่ภาพบันทึกของนายโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้าเครือข่ายก่อการร้ายอัลเคด้า โดยบิน ลาเดน เรียกร้องให้กลุ่มประเทศในยุโรปยุติการสนับสนุนสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามในอัฟกานิสถาน เนื่องจากการโจมตีอัฟกานิสถานเพื่อล่าตัวตนเพียงคนเดียวภายหลังเหตุการณ์ 11 กันยายน ปี 2544 นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมเลย เพราะตนเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์โจมตีนิวยอร์กและกรุงวอชิงตัน (เอพี)

 

พม่าปิดม่านงานประมูลอัญมณีแล้วเหตุไม่สงบใน ปท.ทำเงินวูบแค่ครึ่ง

พิมพ์ไทย -   รัฐบาลทหารพม่าเดินหน้าจัดการประมูลอัญมณีต่ออีกครั้งในปีนี้ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ในช่วง 13 วันที่ผ่านมา การประมูลดังกล่าวทำเงินไปแล้ว 150 ล้านดอลลาร์ ดึงดูดพ่อค้าชาวต่างชาติได้มากกว่า 2,000 คน หลังมีเหตุการณ์ทหารปราบกลุ่มผู้เดินขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อเดือนกันยายน และถูกประชาคมโลกคว่ำบาตรกับการใช้ความรุนแรง 

 

อย่างไรก็ดี ผลกระทบดังกล่าวค่อนข้างส่งผลต่อเป้าหมายที่รัฐบาลทหารพม่าคาดว่า จะโกยเงินจากช่วงประมูลอัญมณีครั้งนี้ไว้ 300 ล้านดอลลาร์เท่าปีที่แล้ว ซึ่งปรากฏว่าทำได้แค่เพียงครึ่งเดียว แต่เจ้าหน้าที่ทหารพม่ากล่าวว่าประสบความสำเร็จแล้ว สำหรับการประมูลจัดขึ้นที่กรุงย่างกุ้งเป็นเวลา 13 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-26 พฤศจิกายน โดยปิดฉากลงไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีพ่อค้าอัญมณีเข้าร่วมงานกว่า 3,600 คน ในจำนวนนี้มีพ่อค้าต่างชาติ 2,285 คน และมียอดประมูลอัญมณีกว่า 3,500 เม็ด

 

ทั้งนี้ พม่าเป็นผู้ผลิตหยก และอัญมณีรายใหญ่ที่สุดชาติหนึ่งของโลก ทั้งยังเป็นแหล่งทับทิมร้อยละ 90 พม่าเริ่มจัดการประมูลอัญมณีมาตั้งแต่ปี 2508 กลุ่มฮิวแมนไรต์วอตช์รายงานว่า พม่าทำเงินจากงานประมูลอัญมณีปี 2549-2550 ได้เกือบ 300 ล้านเหรียญ โดยพ่อค้าส่วนใหญ่มาจากจีน และฮ่องกง