ประชาไท -22 พ.ย. 50 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ออกแถลงการณ์เรื่อง "กฎหมายป่าชุมชนที่ทำลายสิทธิชุมชน" เนื้อความว่า ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติให้ความเห็นชอบพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ.... เมื่อวันที่ 21 พ.ย.50 กป.อพช.) เห็นว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ไม่เพียงแต่ไม่รับรองสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรแต่ยังเป็นการลิดรอนและเพิกถอนสิทธิชุมชนอีกด้วย
ประการแรก ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ยอมรับให้ชุมชนที่ใช้สิทธิจัดการป่าชุมชนอยู่แต่เดิม สามารถใช้สิทธิได้อีกต่อไป เนื่องจากได้มีบทบัญญัติตามมาตรา 25 กำหนดเงื่อนไขในการขอใช้สิทธิป่าชุมชนในเขตป่าอนุรักษ์ ได้เฉพาะชุมชนที่ตั้งอยู่ก่อนการประกาศเขตอนุรักษ์นั้น ทั้งที่แท้จริงแล้ว ชุมชนส่วนใหญ่ที่จัดการป่าชุมชนเป็นชุมชนที่อยู่ชายขอบเขตอนุรักษ์ แต่มีป่าชุมชนอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ดังนั้นการออกกฎหมายเช่นนี้ ย่อมเป็นการตัดสิทธิชุมชนที่จัดการป่าชุมชนอยู่แล้วโดยทันที ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในชุมชนที่ต้องอาศัยปัจจัยในการยังชีพจากป่าชุมชน และก่อให้เกิดความขัดแย้งเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับชุมชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
ประการต่อมา ร่างกฎหมายฉบับนี้กีดกันสิทธิชุมชนที่จัดการป่าชุมชนอยู่ในมขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 66 ที่รับรองสิทธิ์ให้ชุมชน ชุมชนท้องถิ่น หรือชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม มีส่วนร่วมในการจัดการ การดูแลรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน สภานิติบัญญัติแห่งชาติจึงออกกฎหมายที่เป็นการละเมินต่อรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสำคัญของชาติ
ประการสุดท้าย ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ขยายอำนาจให้หน่วยงานของรัฐเข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการป่าชุมชนในสัดส่วนที่เพิ่มมากกว่าตัวแทนขององค์กรป่าชุมชน
ทั้งนี้ กป.อพช. ได้เรียกร้องให้สมาชิก สนช. ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายได้แสดงบทบาทในการคัดค้านด้วยวิธีการตามครรลองที่เหมาะสม และในเวลาทำหน้าที่เพียง 60 วันเท่านั้น เรียกร้องให้ สนช. ยุติการพิจารณากฎหมายทั้งหมดโดยทันที เพราะ สนช. พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่ากำลังทำหน้าที่ออกกฎหมาย เพื่อเพิ่มอำนาจให้เจ้าที่รัฐ แต่เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และละเมิดรัฐธรรมนูญ อันเป็นการทำร้ายสังคมไทยในระยะยาว