สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปากีสถานกว่า 200 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ปฏิบัติการบุกเข้าไปจับกุมนางเบนาซีร์ บุตโต อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศ และหัวหน้าพรรคประชาชนชาวปากีสถานหรือพีพีพี เมื่อวันที่ 9 พ.ย. พร้อมกันนี้ กองกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่ง ได้ทำการสกัดกั้นขบวนของกลุ่มประชาชนผู้สนับสนุนนางบุตโตที่อยู่บริเวณด้านนอกเอาไว้ด้วย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลปากีสถานรายหนึ่ง เปิดเผยว่า นางบุตโตถูกควบคุมตัวไว้ภายในบ้านพักของเธอ ในกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงของประเทศขณะที่ ทางด้านบรรดาสมาชิกพรรคพีพีพี ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อปฏิบัติการครั้งนี้ของทางการปากีสถาน
นายอันวาร์ บาอิก วุฒิสมาชิก สังกัดพรรคพีพีพี กล่าวว่า รัฐบาลปากีสถานภายใต้การนำของประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ กระทำเกินขอบเขต ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายที่ดำเนินการจับกุมผู้นำระบอบประชาธิปไตย
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ทางการปากีสถาน ปฏิบัติการจับกุมนางบุตโตในครั้งนี้เพื่อเป็นการสกัดกั้นไม่ให้เกิดการชุมนุมครั้งใหญ่ ภายหลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศ ได้ออกมาปลุกระดมให้ประชาชนร่วมประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศ ตั้งแต่เมืองลาฮอร์ไปจนถึงกรุงอิสลามาบัด ในวันอังคารที่ 13 พ.ย.ที่จะถึงนี้ เพื่อตอบโต้ที่ประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ ประกาศภาวะฉุกเฉิน และเพื่อกดดันรัฐบาลปากีสถานให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว รวมทั้งเรียกร้องให้ประธานาธิบดีมูชาร์ราฟลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพ ในวันที่ 15 พ.ย. ด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์พรรคพีพีพีไลกัต บากห์ เปิดเผยว่า ทางพีพีพียังยืนยันที่จะจัดการชุมนุมทั่วประเทศครั้งใหญ่ต่อไป เพื่อต่อต้านคำสั่งประกาศภาวะฉุกเฉินของ ประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ
ขณะเดียวกันหลังปากีสถานประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน กลุ่มอดีตผู้นำโลกรวมทั้ง อดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา แห่งแอฟริกาใต้และอดีตประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ แห่งสหรัฐได้ประณามประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ ผู้นำปากีสถานที่ประกาศภาวะฉุกเฉินและระงับรัฐธรรมนูญ
ประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ ยึดอำนาจการปกครองด้วยการก่อรัฐประหารเมื่อปี 2542 ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันเสาร์ที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า คณะผู้พิพากษาทำตัวเป็นศัตรูกับรัฐบาลและกลุ่มหัวรุนแรงก่อการร้ายมากขึ้น ทั้งนี้อดีตผู้นำโลกที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มผู้อาวุโส" ได้ออกแถลงการณ์ว่า การกระทำที่ผิดกฎหมายของผู้นำปากีสถานเป็นผลให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนและมีการคุมขังผู้พิพากษา ทนายความ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน นักข่าว และฝ่ายต่อต้านอื่นๆที่วางตัวเป็นกลางและเรียก
ร้องประชาธิปไตยจำนวนมาก
กลุ่มผู้อาวุโสก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปีนี้ เพื่อพยายามใช้อิทธิพลของอดีตผู้นำโลกและผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพมากกว่า 12 คน ในการลดความขัดแย้งและแก้ไขปัญหาทั่วโลก
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)