วันนี้ (6 พ.ย.) ในรายการทีไอทีวีฮ็อตนิวส์ ได้เชิญหัวหน้าพรรคการเมือง 3 พรรคมาแสดงวิสัยทัศน์ ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และนายประชัย เหลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัฌชิมาธิปไตย

นายอภิสิทธ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวระหว่างการนำเสนอนโยบายว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยึดวาระประชาชน ยึดนโยบายประชาชนต้องมาก่อน ถ้าพรรคใดจะร่วมกับประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล หรือเป็นรัฐมนตรีต้องทำตามวาระประชาชนของพรรค และยืนยันว่าจะไม่ร่วมกับพรรคพลังประชาชนแน่นอน เพราะแนวทางที่พรรคพลังประชาชนจะเดินต่อไปข้างหน้าเป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการนิรโทษกรรม คตส. ซึ่งจะทำให้เกิดความขัดแย้ง นี่ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชนที่เราจะยึด เราจะยึดประชาชนก่อน และยินดีที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เพราะคิดว่าถ้าทั้งสองฝ่ายใช้อำนาจหน้าที่บนความชอบธรรมก็จะเป็นความงดงามของประชาธิปไตย แต่นโยบายที่ตั้งรัฐบาลผสมบนพื้นฐานการต่อรองทางการเมืองจะทำให้การเมืองถอยหลัง

พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนากล่าวว่า ถ้าเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีเขาจะเป็นนายกรัฐมนตรี 24 ชั่วโมง แต่เขาจะทำงานให้น้อยสุด แต่จะสรรหาคนที่เหมาะสมมาทำงานให้ประเทศไทยแทน เพราะประเทศไทยมีคนกว่า 64 ล้านคน ทุกสาขามีคนเก่งๆ ทรัพยากรบุคคลจึงป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้านายกรัฐมนตรีทำงานน้อยจะได้ผลงานมาก ถ้านายกรัฐมนตรีทำงานคร่ำเคร่งผลงานจะน้อยลง ประเทศไทยมีคนเก่งๆ อยากมาทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทนมากมาย ทำไมเราไม่คิดนำออกมาใช้ คนเป็นนายกรัฐมนตรีก็เพียงคิดนโยบายและปรึกษาหารือ นี่เป็นการผ่อนแรงเพื่อเปิดสมองโล่ง นายกรัฐมนตรีจะได้เดินหน้าอย่างเดียว ไม่มีการถอยหลัง เดินหน้า สั่ง เดินหน้าสั่ง สั่งแล้วทิ้ง สั่งแล้วทิ้ง แล้วคนเก่งและคนดีจะทำงานแทนนายกรัฐมนตรีเอง

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัฌชิมาธิปไตย กล่าวว่า พรรคมัฌชิมาธิปไตยมีแผน 42 ข้อ 12 ด้าน สำหรับนโยบายของพรรคมัฌชิมาธิปไตยต้องทำแบบครบวงจรเหมือนระบบไฟฟ้า ถ้าทำอันหนึ่งก็ต้องทำอันหนึ่ง ประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรือง ทำให้ชาติเป็นรัฐสวัสดิการ ครอบคลุมตั้งแต่ก่อนคลอด จนถึงตาย และจะรักษาฟรี เรียนฟรีตั้งแต่อนุบาลถึงมหาวิทยาลัย นี่คือรัฐสวัสดิการ มีหนี้สินเราจะพักหนี้ให้ บ้านก็จะจัดสรรให้ ให้กู้ระยะยาวราคาถูก เมกะโปรเจคเราก็จะทำ ทั้งโครงการน้ำให้เกษตรกร ทั้งขุดคอคอดกระ และประกันราคาพืชผล

เราจะทำรัฐสวัสดิการให้ได้ เพราะผมเคยมีประสบการณ์จากการไปเรียนในประเทศที่มีรัฐสวัสดิการ ส่วนเรื่องที่ทำเร่งด่วนตอนนี้ คือการค้าซบเซา เพราะถูกการค้าจากเมืองนอกตีตลาด เราต้องส่งเสริมการส่งออก และทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเสรี อุตสาหกรรมสิ่งทอ การ์เมนท์ และเกษตรกรรม เราจะมีมาตรการชดเชยให้ เราจะคุมเงินเฟ้อให้ได้ เราจะทำให้คนมีงานทำ มีความสุข

แต่ทำแบบนี้ได้ เราจะต้องใช้คนมหาศาลคือข้าราชการ ซึ่งเราจะต้องปราบคอรัปชั่นควบคู่กันไป ด้วยการขึ้นเงินเดือนข้าราชการชั้นผู้น้อยอีกคนละ 5,000 บาท แบบประเทศสิงคโปร์ แล้วขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการระดับสูง ทุกวันนี้รัฐมนตรีได้เงินเดือนแสนบาท ซึ่งน้อยกว่าผู้บริหาร ปตท. มันจะไปคุม ปตท. ได้อย่างไร ต้องขึ้นเงินเดือนให้เท่ากันจึงจะปราบคอรัปชั่นได้ผล ต้องให้ข้าราชการเงินเดือนสูงเท่าเอกชน

ส่วนข้าราชการการเมืองต้องมีศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ถ้าประชาชนรู้ว่าเขาไม่มีศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมก็อย่าเลือกเขา แม้จะอยู่ในพรรคของผมก็อย่าเลือก ถ้าทำเช่นนี้ได้เราจะได้รัฐบาลที่ดีที่สุดในรอบ 75 ปีที่ผ่านมา

ผู้ดำเนินรายการได้ถามมว่านายประชัยมีวาระแฝงเร้นหรือไม่ นายประชัยตอบว่าตอนนี้ผมสบายแล้ว ขออุทิศชีวิตเพื่อรับใช้ประเทศชาติสักครั้ง เปลี่ยนมิติการลงทุน เปลี่ยนความเป็นอยู่ประชาชนให้ไปอยู่แนวหน้า ที่ผ่านมาในงบประมาณแผ่นดินรัฐบาลเอาเงินลงทุนไปรวมอยู่กับรายจ่ายประจำ แต่ผมจะแยกเงินลงทุนกับรายจ่ายประจำออกจากกัน ซึ่งจะทำให้เราไปอยู่รัฐสวัสดิการ ประชาชนร่ำรวย มีความสุข ได้รับความเป็นธรรม

ในช่วงท้ายของการแสดงวิสัยทัศน์ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่าขอให้ประชาชนใช้การเลือกตั้งครั้งนี้ ตัดสินใจให้เด็ดขาด ใช้วิจารณญาณให้ดี อย่ารับเงินรับทอง ถึงรับก็อย่าเลือก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า 23 ธ.ค. เป็นโอกาสทองขององประชาชนและประเทศไทย ที่ผ่านมาของแพง สังคมแตกแยก เพราะการเมืองไม่ได้ยึดมั่นผลประโยชน์ประชาชน วันที่ 23 ธ.ค. นี้ผลประโยชน์ประชาชนจะต้องมาก่อน ตัวเขาใช้เวลา 1 ปีในการจัดทำนโยบายวาระประชาชน ซึ่งทันทีที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้ เราจะเดินหน้าตามนโยบายของเรา ทั้งเรียนฟรี กระตุ้นเศรษฐกิจ นำสันติสุขกลับสู่ชายแดนใต้ สร้างความสมานฉันท์ในประเทศ

ด้านนายประชัย กล่าวว่า ขอความเมตตาจากประชาชน ทำบุญให้ประเทศครั้งใหญ่ นำพาประเทศพ้นจากบาปเคราะห์ที่นักการเมืองทำกับประเทศ 75 ปี ด้วยการเข้าคูหากากบาทให้พรรคเรายกทีม เช่นนี้แล้วจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยประชาชนต้องเลือก ส.ส. ที่มีศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม คนไหนไม่ดีอย่ากาให้ แล้วจะได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเราจะไล่ทันญี่ปุ่นภายใน 10-20 ปี ถ้าเลือกผู้นำที่มีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม นายประชัยกล่าวในที่สุด