กกต.กำหนดวันลงทะเบียน และวันเลือกตั้งล่วงหน้า

กรมประชาสัมพันธ์ - นายเรืองโรจน์ จอมสืบ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการให้สิทธิประชาชนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ว่า ประชาชนสามารถลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด และนอกราชอาณาจักร ได้ ในวันที่ 22 ตุลาคม - 22 พฤศจิกายน นี้  ในทุกอำเภอ และทุกเทศบาล โดยหลักฐานในการลงทะเบียนจะใช้เพียงบัตรประชาชน หรือหลักฐานที่แสดงหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักเท่านั้น ส่วนกำหนดการเลือกตั้งล่วงหน้าสำหรับผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดคือวันที่ 15 - 16 ธันวาคม  ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 แห่งสำหรับกรุงเทพมหานคร  และในต่างจังหวัด กกต. จะกำหนดให้มีหน่วยเลือกตั้งกลางไว้ 1 แห่ง ส่วนจังหวัดที่เป็นเมืองอุตสาหกรรม เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี  ระยอง จะเปิดให้มีหน่วยเลือกตั้งกลางไว้ให้มากกว่า 1 แห่ง

ส่วนผู้ที่เคยขอให้สิทธิออกเสียงประชามตินอกเขตจังหวัด เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา จำเป็นจะต้องไปลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ นายเรืองโรจน์ กล่าวว่า จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับ

รัสเซียเชิญนักสังเกตการณ์การเลือกตั้งจากต่างประเทศเป็นจำนวน  300-400 คน

กรมประชาสัมพันธ์ - นายอีกอร์  โบริซอฟ  สมาชิกคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งอย่างเสรีและยุติธรรมของรัสเซียแถลงวันนี้ว่า  รัสเซียได้ออกคำเชิญคณะผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศจำนวน  300 -  400   คน  เพื่อเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภารัสเซีย  ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้  โดยจะมีคณะเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์จากสถาบันเพื่อการปกครองแบบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนของยุโรป  70  คนเข้าร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้    เจ้าหน้าที่เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งขององค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรปหรือโอเอสซีอี. ที่จะเป็นผู้ประเมินว่าการเลือกตั้งของรัสเซียจะเป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรมหรือไม่

รฟท.เริ่มเปิดให้เดินรถตามปกติ

กรมประชาสัมพันธ์ - เมื่อเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา วันนี้ (1 พ.ย.) การเจรจาระหว่างผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทยกับตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้หยุดการเจรจาหลังจากกระทรวงคมนาคม ยอมผ่อนปรนข้อเรียกร้องตามที่สหภาพแรงงานฯ เสนอ โดยขณะเดียวกันพนักงานได้ยอมปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ และล่าสุดเมื่อเวลา 04.20 น. รถไฟขบวนแรก ซึ่งเป็นขบวนที่ 303 กรุงเทพมหานครปลายทางลพบุรี ได้เปิดให้เดินรถตามปกติ หลังจากการรถไฟฯ หยุดให้การเดินรถกระทันหันตั้งแต่วานนี้ ส่วนขบวนอื่นๆ เริ่มเดินรถได้ตามปกติแล้ว

สำหรับสาเหตุที่ทางสหภาพแรงงานฯ ยอมสลายการชุมนุม เนื่องจากกระทรวงคมนาคม ยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ยอมถอนร่างแก้ไขกฎหมายออกจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อนำมาหารือกันโดยเฉพาะเรื่องการเปิดให้เอกชนเข้ามาบริการ และพนักงานขับรถต้องเป็นของรถไฟ รวมถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนการเอาผิดทางวินัยกับผู้ทำสัญญา จนทำให้เกิดความเสียหายในโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ และการเร่งรัดดำเนินการเอาผิดกับกรณีที่ดินของการรถไฟฯ ในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลเข้ายึดครอง พร้อมทั้งเร่งสอบสวนกรณีสัญญาเช่าที่ดินกับห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว เพื่อที่นำพื้นที่ดังกล่าวมาประมูลตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน พ.ศ.2535 ต่อไป ซึ่งก็สร้างความพอใจให้กับพนักงานได้เป็นอย่างมาก

ราคาน้ำมันดิบแตะระดับสถิติใหม่

ไอ.เอ็น.เอ็น. - ราคาน้ำมันดิบแตะระดับสถิติใหม่ โดยที่ตลาดนิวยอร์คในช่วงซื้อขายระหว่างวันทะยานขึ้นถึงระดับ 94.74 ดอลลาร์ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 4.50 เปอร์เซ็นต์นอกจากนี้ยังมีปัจจัยปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่ลดลง ซึ่งอยู่เหนือจากการคาดการณ์ของนักลงทุน โดยกระทรวง-พลังงานสหรัฐระบุว่า ปริมาณน้ำมันดิบสำรองลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล  มาอยู่ที่ระดับ 312.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมาโดยในช่วงปิดตลาด ราคาน้ำมันดิบนิวยอร์ค รอบส่งมอบเดือนธันวาคม ทะยานขึ้น 4.15 ดอลลาร์มาปิดที่ระดับ สถิติใหม่ที่ 94.53 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ที่ตลาดลอนดอนของอังกฤษ รอบส่งมอบเดือน-ธันวาคม พุ่งขึ้นอีก 3.19 ดอลลาร์ มาปิดที่ระดับ 90.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งในช่วงซื้อขายระหว่างวันก็ดีดขึ้นถึง 90.94 ดอลลาร์

3 กระทรวงเร่งจัดทำแผนใช้เงินกองทุนน้ำมันสร้างระบบราง

ผู้จัดการออนไลน์ - นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดกรอบรายละเอียดเรื่องการนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนระบบราง ว่า ได้เห็นชอบร่วมกันว่าวงเงินที่จะนำไปใช้นี้จะต้องเป็นเฉพาะเงินลงทุนเท่านั้น จะไม่สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น การศึกษาจัดทำโครงการ เป็นต้น ซึ่งโครงการที่จะใช้เงินจะต้องผ่านการเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อน

อย่างไรก็ตาม ตามระเบียบของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นไม่สามารถใช้ในเรื่องการส่งเสริมการประหยัดพลังงานหรือการสร้างรถไฟฟ้าได้ ดังนั้น แนวทาง คือ จะเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บเป็นการจัดเก็บด้วยเงินกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน โดยคาดว่าจะใช้วงเงินรวมประมาณ 70,000 ล้านบาท ระหว่างปี 2551-2554 โดยในปี 2551 จะใช้ในอัตรา 50 สตางค์/ลิตร วงเงินประมาณ 8,700 ล้านบาท ส่วนปี 2552-2554 ใช้อัตรา 70 สตางค์/ลิตร วงเงินปีละประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยวงเงินร้อยละ 60 จะใช้เพื่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และอีกร้อยละ 40 จะใช้ในการพัฒนาระบบรางรถไฟรางคู่ในต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้ช่วยเพิ่มการขนส่งประชาชนและสินค้า ลดต้นทุนให้แก่ประเทศ

ทั้งนี้ ในส่วนเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น หลังจากที่มีการใช้หนี้กองทุนหมดในกลางเดือนธันวาคม 2550 กองทุนฯ จะลดการจัดเก็บทันที 50 สตางค์/ลิตร มีการโยกเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปให้กองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 50 สตางค์ (สร้างระบบราง) ส่วนที่เหลือ กองทุนน้ำมันจะเก็บไว้ในยามฉุกเฉิน หรือการนำไปเป็นกลไกส่งเสริมไบโอดีเซล แก๊สโซฮอล์ ซึ่งการคงเก็บไว้เช่นนี้จะทำให้เม็ดเงินกองทุนน้ำมัน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2551 จะมีวงเงิน 13,000 ล้านบาท

ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำสุด น้ำมันพุ่ง4%กระทบจีดีพี0.16%

กรุงเทพธุรกิจ - นางอมรา ศรีพยัฆย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในเดือนกันยายน และไตรมาส 3 ของปี 2550 ปรับตัวในทิศทางดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีสัญญาณการฟื้นตัวจากอุปสงค์ในประเทศ และผลผลิตทางภาคอุตสาหกรรมที่เร่งตัวอย่างชัดเจน โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไตรมาส 3 ขยายตัว 9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ 5.6%

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้ ยังเป็นปัจจัยที่ ธปท.ต้องติดตาม แต่ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เพราะราคาน้ำมันดิบดูไบตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นประมาณ 4% จาก 62.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็น 64.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล กระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพียง 0.16% เท่านั้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทุก 1% จะมีผลกระทบอัตราการขยายตัวให้ลดลง 0.04% แต่เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ราคาขายปลีดลดลง โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุก 1 บาท ช่วยให้ราคาน้ำมันขายปลีกน้ำมันในประเทศลดลง 0.50-0.60 บาทต่อลิตร แม้ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นทุก 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น 0.30 บาท

สังคม อนุมัติให้ผู้ประกันตนในจ.สุรินทร์   ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ในเดือน กันยายนแล้ว  2 ราย

กรมประชาสัมพันธ์ - นางสำราญ บุตรสมาน ประกันสังคมจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในเดือน กันยายน 2550  สำนักงานประกันสังคมได้อนุมัติให้ผู้ประกันตนในเขตจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จำนวน 2 ราย ซึ่งผู้ประกันตนที่ได้รับอนุมัติจะต้องฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง โดยสำนักงานประกันสังคมจะรับผิดชอบค่าฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ครั้งละ 1,500 บาท สัปดาห์ละ 3,000 บาท  ซึ่งทางโรงพยาบาลจะเรียกเก็บค่าฟอกเลือดไปที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสุรินทร์ โดยตรง  และในปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังเป็นจำนวนมาก

สธ.เตรียมพร้อมรับบัตรทองล้างไต

โพสต์ทูเดย์ - นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการให้ผู้ป่วยที่ถือบัตรทองในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถรับบริการทดแทนไตได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2551 เป็นต้นไป ใช้งบประมาณกว่า 800 ล้านบาทนั้น สธ.จะเร่งรณรงค์ให้ประชาชนหันมาล้างไตทางหน้าท้องและบริจาคไตเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้เป็นโรคไตคือ ดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วน เพื่อลดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ถือบัตรทองจะได้รับคือ การผ่าตัดปลูกไต และการล้างไตผ่านทางช่องท้องโดยไม่ต้องร่วมจ่าย ส่วนการล้างไตด้วยการฟอกเลือดซึ่งต้องไปรับบริการที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยรายการเก่าต้องร่วมจ่าย 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่าย และผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้ารับการฟอกเลือดเพื่อล้างไตตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 เป็นต้นไป ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด หากมีข้อสงสัยสอบถามที่สายด่วนโทร.1330 ของ สปสช.ตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องล้างไตในไทยมีปีละ 15,000 คน ส่วนใหญ่ใช้การฟอกเลือด มีเพียง 1,000 คนที่ล้างไตทางช่องหน้าท้อง

2ล้านหลังในกทม.สุ่มเสี่ยงทรุดเหตุออกแบบไม่ต้านแผ่นดินไหว

ผู้จัดการรายวัน - กรมโยธาฯสร้างเกาะป้องกันอาคารทรุดและถล่มในไทย หลังได้รับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวจากประเทศเพื่อนบ้านถี่ขึ้น เร่งผลักดันกฎกระทรวงควบคุมอาคารแก้ไขฉบับที่ 49 บังคับใช้ให้ทันรัฐบาลชุดนี้ ด้านรมช.มหาดไทยยอมรับ บ้าน-อาคารสูงในกรุงเทพฯเกือบ 2 ล้านหลังเสี่ยง เหตุไม่ได้ออกแบบไว้ต้านแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว นักวิชาการชี้แผ่นดินไหวในไทยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว แถมตึกสูงจำนวนไม่น้อยใช้เวลาออกแบบในเวลาสั้นมาก