ข่าวมอนิเตอร์ ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2550

 

การเมือง

 

 

สนช.สายพันธมิตรวางหมากเข้ม เตรียมเชือด "บิ้กแอ้ด" และคณะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สนช.ที่จะร่วมอภิปรายรัฐบาลในวันที่ 10 ต.ค. นี้ กลุ่มผู้ยื่นญัตติได้จัดวางรายชื่อผู้ที่จะขึ้นอภิปรายคือ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พล.อ.ปานเทพ ภูวานาถนุรักษ์ ท่านผู้หญิงปรียา เกษมสันต์ นายกีรติ บุญเจือ นายเสถียรพงษ์ วรรณปก พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ นายณรงค์ โชควัฒนา นายประพันธ์ คูณมี นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสำราญ รอดเพชร นายไพศาล พืชมงคล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ พล.ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน นายตวง อันทะไชย เป็นต้น

 

นอกจากคณะผู้ขอแปรญัตติจะจัดวางตัวบุคคลในการอภิปรายแล้ว ยังแบ่งการอภิปรายให้แต่ละบุคคลด้วยโดย น.ต.ประสงค์ จะพูดในภาพรวมเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และรวมถึงประเด็นที่ดินเขายายเที่ยง

 

ท่านผู้หญิงปรียา เกษมสันต์ ณ อยุธยา นายณรงค์ โชควัฒนา จะพูดประเด็นเรื่องกรอบคุณธรรม และจริยธรรมของรัฐบาล นายกีรติ บุญเจือ จะพูดเรื่องการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ จะพูดประเด็นการบริหารงานของคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

นายคำนูณ สิทธิสมาน จะพูดเรื่องความเป็นธรรมในการโยกย้ายข้าราชการ โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงกลาโหม ด้านพล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน จะพูดเรื่องปัญหาการทำงานและการทุจริตภายในกระทรวงคมนาคม ส่วนนายประพันธ์ คูณมี จะพูดถึงการทำงานที่ผ่านมาของรัฐบาล ที่ไม่สามารถทำตามเหตุผล 4 ข้อ ในการยึดอำนาจได้

 

นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า บรรยากาศการอภิปรายญัตติซักถามปัญหาคุณธรรมจริยธรรมการบริหารงานของรัฐบาล น่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและคงไม่ดุเดือดมากนัก เพราะเป็นการอภิปรายในเรื่องเชิงหลักการที่ต้องการให้รัฐบาลตอบว่า ที่ผ่านมาได้ทำถูกต้องตามหลักจริยธรรมหรือไม่ รัฐบาลต้องตอบให้ชัดเจน ซึ่งรัฐบาลจะตอบได้หรือไม่ได้ก็ต้องให้ประชาชนตัดสิน เพราะการอภิปรายครั้งนี้ไม่ได้ลงมติ

 

และสำหรับประเด็นที่จะมีการซักถามรัฐบาลมี 3 ข้อ คือ 1. การปฏิบัติงานของรัฐบาลที่ผ่านมามีการปฏิบัติโดยขัดต่อหลักกฎหมายบ้างหรือไม่ 2. การใช้อำนาจของรัฐบาลที่ผ่านมามีเรื่องไร้จริยธรรมหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ 3. เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายของนายกรัฐมนตรี ว่าที่ผ่านมาได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยไร้จริยธรรม และปฏิบัติต่อผู้ร่วมงานโดยไม่ถูกต้องหรือไม่

 

นายประพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีคาดว่าจะมีผู้อภิปรายประมาณ 15 คน โดย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ผู้เสนอญัตติจะอภิปรายเป็นคนแรก ทั้งนี้การอภิปรายครั้งนี้ไม่ได้จำกัดเวลาเพราะเป็นการญัตติทั่วไป

 

 

เตรียมตั้งกมธ.หวยบนดินไว้รอ หากที่ประชุมรับหลักการ

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ กรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) กล่าวว่า ในการประชุมสนช.วันที่ 10 ต.ค.จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.สำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาล (หวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว) ที่นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน และคณะสนช. เป็นผู้เสนอ

 

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมวิปสนช.ซึ่งมีการพิจารณาวาระร่างพ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่ง โดยได้สอบถามกับคณะกรรมการประสานงานระหว่างสภานิติบัญญัติ และรัฐบาล หรือวิปรัฐบาลว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีมติว่ารัฐบาลจะขอนำร่างดังกล่าวไปพิจารณาตามข้อบังคับ 30 วัน ก่อนที่จะส่งให้สนช.พิจารณารับหลักการ แต่ปรากฏว่า วิปรัฐบาลปฏิเสธว่าไม่ได้มีมติดังกล่าว ดังนั้น ในการประชุมสนช.เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ทางสนช.จึงมั่นใจว่าคงจะไม่มีปัญหา และรับหลักการ จึงได้เตรียมตั้งคณะกรรมาธิการไว้รอเรียบร้อยแล้ว

 

 

กอ.รมน.งัดมวลชนทั่วประเทศทำความเข้าใจ "ประชาธิปไตย-การเลือกตั้ง"

เว็บไซต์แนวหน้า - พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรอบการทำงานของ กอ.รมน. เพื่อช่วยเหลือการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปลายปี 2550 ว่า กอ.รมน.วางกรอบเป็นกลาง และหากมีการร้องขอจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กอ.รมน.พร้อมสนับสนุน ซึ่ง กอ.รมน. คงใช้มวลชนที่มีอยู่สร้างความเข้าใจในกรอบพื้นฐานสิทธิหน้าที่ของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพยายามเน้นสิ่งเหล่านี้ไปสร้างความรู้ให้กับประชาชน โดยเชิญวิทยากรที่มีความรู้ระบอบประชาธิปไตยมาอบรมให้ความรู้ประชาชน

 

พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า เราดำเนินการตามตามกรอบของ กอ.รมน. ในแผนงบประมาณตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นไป โดยมีรูปแบบ เช่น ในกรุงเทพฯ มีมวลชน กอ.รมน.ทั้ง 50 เขต ประมาณ 20,000 คน และมวลชน กอ.รมน. ในภูมิภาคไปกระจายความรู้แก่ประชาชน เบื้องต้นอาจใช้มวลชนในหน่วยทหารกระจายรอบหน่วยบ้านพัก และกระจายไปในแต่ละจังหวัด เพราะเรามี กอ.รมน.จังหวัด รวมไปถึง กอ.รมน.อำเภอ ที่จะให้ความรู้เรื่องนี้ เพื่อจะสร้างจิตสำนึกกับประชาชนในเรื่องการเลือกตั้ง เรื่องระบอบประชาธิปไตย

 

 "ซึ่งการรับร่างรัฐธรรมนูญเป็นก้าวหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย เพราะเราไม่เคยมีเช่นนี้มาก่อน แต่ก็สร้างให้เห็นภาพว่า จากนี้เรื่องการเลือกตั้งทุกคนต้องคำนึงจิตสำนึกของประชาธิปไตย เรื่องคุณค่าความถูกต้อง โดยทำเป็นภาพรวมทั้งประเทศไม่แบ่งกรอบภูมิภาค ทั้งนี้ไม่ใช่การไปล็อบบี้หรือชี้นำ เพราะเป็นการทำให้เกิดภาพลบ แต่เป็นการไปทำความเข้าใจสิทธิพื้นฐานของประชาชนคืออะไร เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง และเมื่อมีการประกาศใช้กฎหมายลูก 3 ฉบับแล้ว กกต.จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่เพิ่มเติม เราก็พร้อมสนับสนุนให้" โฆษก กอ.รมน.กล่าว

 

 

พิษ 5 รมต.ไขก๊อก "ครม."อนุมัติรมต.ข้ามห้วยรักษาราชการวุ่น

กระแสหุ้นออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุดว่า หลังจากวันที่ 1 ต.ค.มีรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งพร้อมกัน 5 คน ซึ่งวันนี้ครม.ก็ได้อนุมัติให้รัฐมนตรีที่เหลืออยู่ทำงานแทนกัน

 

ในส่วนของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ว่างลงเนื่องจากนางอรนุช โอสถานนท์ ที่ลาอออกไป ครม.ก็ได้เห็นชอบให้เสนอครม.มอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตามความในมาตรา 42 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการฯ ไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมีการมอบหมายให้ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์  รมว.พลังงาน และนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช. คมนาคม รักษาราชการแทน

 

ขณะเดียวกัน ครม.เห็นชอบให้นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยในส่วนของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 49 ครม.อนุมัติให้นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รมว.ทรัพยากรฯ เป็นผู้รักษาราชการแทนรมว.วิทยาศาสตร์ฯ แต่เนื่องจากนายเกษมได้ลาออกจากตำแหน่งรมว.ทรัพยากรฯ ครม.จึงได้มอบหมายให้นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ รมว.พลังงาน เป็นรักษาราชการแทนรมว.วิทยาศาสตร์

 

ในส่วนของตำแหน่งรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ว่างลง ครม.ก็ได้มีการเห็นชอบย้าย นายพินิจ กอศรีพร ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดฯที่ว่างอยู่

 

 

สุทธิพล เผย กกต.ส่งหนังสือประสานรอยร้าวพีเน็ตแล้ว

กระแสหุ้นออนไลน์ - นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กับมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายประชาชนตรวจสอบการเลือกตั้ง (พีเน็ต) ว่า ทราบว่ามีการประสานงานกัน โดยกกต.ที่รับผิดชอบด้านกิจการการมีส่วนร่วมคือ นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ได้ประสานงานไปยังพีเน็ต และเลขาฯ พีเน็ตก็มีหนังสือไปยังประธานกกต. และประธานได้มอบหมายให้ตนตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายและยกร่างหนังสือตอบกลับไปแล้ว

 

เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกันหรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า ต้องรอหนังสือที่กกต.ส่งไปถึงพีเน็ตก่อนเพราะในหนังสือได้มีการอธิบายให้พีเน็ตได้เข้าใจถึงเรื่องการประสานงานกัน รวมทั้งจะเชิญชวนพีเน็ตเข้ามาตรวจสอบการเลือกตั้ง โดยระบุในหนังสือว่าถ้าพีเน็ตเข้ามาร่วมกับกกต.ในการตรวจสอบการเลือกตั้งเช่นเดียวกับองค์กรเอกชนอื่นๆ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตยุติธรรม เพราะคิดว่าครม.จะประกาศการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นวาระแห่งชาติด้วย

 

 

ครป.หนุนยกเลิกกฎอัยการศึกทุกพื้นที่ ยกเว้น 3 จชต.

ผู้จัดการออนไลน์ - นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า เห็นด้วยที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะหารือร่วมกับรัฐบาล เพื่อเตรียมการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกก่อนวันเลือกตั้ง และให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีบรรยากาศเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด เพราะขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปมาก ทุกพรรคการเมืองเริ่มให้ความสำคัญกับการเตรียมการเลือกตั้ง ข้อกังวลเรื่องคลื่นใต้น้ำก็โผล่มาอยู่เหนือน้ำหมดแล้ว แม้แต่ในจังหวัดที่มีการประกาศกฎอัยการศึกก็ตาม ที่ผ่านมา คมช.ยืดหยุ่นหรือผ่อนปรนให้มีการทำกิจกรรมทางการเมืองได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ การคงกฎอัยการศึกไว้ไม่เป็นประโยชน์ต่อ คมช. รัฐบาล และสังคมไทย โดยเฉพาะภาพลักษณ์ต่อประชาคมโลก คมช.ควรยกเลิกทุกจังหวัด ยกเว้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังมีความจำเป็นและมีเหตุผลที่พอรับฟังได้

 

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า แม้แต่ จ.เชียงใหม่ และบุรีรัมย์ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะถ้ามีการเคลื่อนไหวที่เป็นภัยต่อความมั่นคงก็ยังมีกฎหมายอื่นๆ อีกหลายฉบับไว้รับมือ แต่หาก คมช.ยกข้ออ้างเรื่องเชียงใหม่กับบุรีรัมย์เป็นจังหวัดชายแดน จำเป็นต้องคงกฎอัยการศึกไว้ ถือเป็นเรื่องตลก ขาดเหตุผล และยังอาจเป็นจุดอ่อนให้พรรคพลังประชาชนนำไปเป็นข้ออ้างว่ามุ่งกลั่นแกล้งพรรคหรือทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง จนอาจส่งผลให้ผู้ที่แพ้เลือกตั้งยกไปเป็นข้ออ้างร้องเรียนกับองค์กรระหว่างประเทศว่าการเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมและมีการต่อต้านผลการเลือกตั้งครั้งใหญ่ได้

 

อย่างไรก็ตาม นายสุริยะใส กล่าวว่า หากพื้นที่ใดที่ คมช.เห็นว่ายังต้องคงกฎอัยการศึกไว้ คมช.ต้องมีคำอธิบายกับสังคมว่ามีความจำเป็นประการใด เพราะอะไร หรือมีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่เป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างไรหรือไม่

 

 

 

เศรษฐกิจ

 

 

ปชช.อ่วม มติคค.ขึ้นค่ารถเมล์ลม50 สต.  รถเมล์แอร์ 1 บาท

ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง เปิดเผยว่า มติที่ประชุมได้พิจารณาปรับขึ้นราคาค่าโดยสารโดยรถโดยสารธรรมดาขึ้น 50 สตางค์ โดยรถเมล์ 8 บาท เป็น 8.5 บาท รถมินิบัส 6.5 บาท เป็น 7 บาทรถสองแถวจาก 6 บาทเป็น 6.5 บาท ส่วนรถโดยสารปรับอากาศขึ้นระยะละ 1 บาท ซึ่งจากระยะเริ่มต้น 11 บาท เป็น 12 บาท รถร่วม บขส.ขึ้น 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร โดยจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 15 ต.ต.นี้

 

การขึ้นราคาค่าโดยสารดังกล่าวเป็นการปรับขึ้นที่เป็นอัตราสูงสุด  หากบริษัทใด หรือหน่วยงานใดจะไม่ขึ้นก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารในครั้งนี้มีผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจากครั้งสุดท้ายที่เคยปรับถึง 3 บาทต่อลิตร ซึ่งส่งผลให้ต้องมีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร่จากต้นทุนที่สูงขึ้นนายสุรชัย กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การช่วยเหลือประชาชนในตอนนี้คือการให้ประชาชนหันไปใช้ตั๋วเดือนมากขึ้น เพราะจะเป็นการลดราคาค่าโดยสารจากเดิมมากกว่า 10%

 

 

คลังแบกภาระดอกเบี้ยพันธบัตรใช้หนี้กองทุนอาน

ไอ.เอ็น.เอ็น. - รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า  ภาระหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูสถาบันการเงิน จำนวน 1.4 ล้านล้านบาทซึ่งเกิดจากการเข้าไปแทรกแซงสถาบันการเงินในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ พ.ศ.2540 ได้กลายเป็นภาระหนักหน่วงของกระทรวงการคลังในขณะนี้ เพราะแม้จะกำหนดให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้ชำระเงินต้น แต่ภาระดอกเบี้ยจากการออกพันธบัตรเพื่อชดเชยภาระหนี้ ตกเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง

 

โดยในปีงบประมาณ 2550 ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังชำระภาระดอกเบี้ยจากการออกพันธบัตรเพื่อชดเชยหนี้ดังกล่าวเป็นจำนวน 6 หมื่นล้านบาท และสำหรับปี งบประมาณ 2551 ได้ตั้งวงเงินชำระดอกเบี้ยอีก 6 หมื่นล้านบาทหากนับตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน กระทรวงการคลัง ได้ชำระดอกเบี้ยไปแล้วถึง 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งล้วนเป็นเงินจากภาษีของประชาชนทั้งสิ้น

 

ทั้งนี้การแก้ไข พ.ร.บ.เงินตรา จะทำให้การลงบัญชีของ ธปท. มีกำไร และสามารถมีรายได้มาชำระคืนเงินต้นจากหนี้ก้อนนี้ได้ โดยการแก้ไขนั้น จะเปลี่ยนวิธีการลงบัญชีจากเดิมที่เมื่อการตีราคาสินทรัพย์ของ ธปท.ว่าขาดทุนให้ลงที่บัญชีผลประโยชน์ แต่เมื่อมีกำไรให้ลงที่บัญชีสำรองพิเศษ ซึ่งทำให้บัญชีผลประโยชน์ที่เป็นบัญชี ที่ถูกกำหนดให้นำเงินมาชำระหนี้กองทุนฟื้นฟู ไม่สามารถมีกำไรได้ เพราะการ Mark to marketในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ ธปท.ขาดทุนนอกจากนี้การยอมให้ตัดข้อความที่เพิ่มเติมไปจากการปรับแก้ในมาตรา 16ออกจากร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ ยังจะทำให้การบริหารของธปท.ขาดความคล่องตัว

 

 

ถอนร่าง พ.ร.บ.เงินตรา พร้อมปรับปรุงให้รอบคอบ รัดกุมขึ้น

ผู้จัดการออนไลน์ - นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ระบุว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้ถอนร่างพระราชบัญญัติเงินตรา (ฉบับที่....) พ.ศ.... จากการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อนำมาปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้การนำเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นไปด้วยความรอบคอบ รัดกุม และเอื้อประโยชน์ต่อประเทศสูงสุด

 

 

 

ต่างประเทศ

 

 

ชาวอิหร่านลุกฮือต่อต้านประธานาธิบดีอะหมัดดิเนจัด

ผู้จัดการออนไลน์ - บีบีซี - การเดินขบวนสำแดงพลังแบบที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นเพื่อต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นกลางเมืองหลวงของอิหร่าน ในระหว่างที่ประธานาธิบดีมะห์มูด อะหมัดดิเนจัด กำลังกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยเตหะราน

 

นอกจากนี้ ก็เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมนับร้อยชีวิตทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านประธานาธิบดีรวมตัวกันอยู่ภายนอกมหาลัยเตหะราน

 

พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตำรวจใช้แก็ซน้ำตาควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม

 

ฝ่ายผู้นำนักศึกษาได้ท้าทายให้ประธานาธิบดีอะหมัดดิเนจัดออกมาเจอกับพวกตน หลังจากที่เขาเคยไปพูดที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ ถึงเสรีภาพที่นักศึกษาอิหร่านได้รับ

 

ผู้สื่อข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่สั่งปิดประตูทุกด้านของมหาลัยเตหะราน อีกทั้งยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวด้วย

 

 

รมว.คลังยูโรโซนกดดันจีนปรับหยวน

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร (ยูโรโซน) ประชุมที่กรุงลักเซมเบิร์ก ประเทศลักเซมเบิร์ก เพื่อหาจุดยืนร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ที่จะนำไปหารือในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี-7) ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐ ในสัปดาห์หน้า

 

ที่ประชุมยังคงยึดมั่นต่อการระบุว่า ความผันผวนมากเกินไปในตลาดปริวรรตเงินตราเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ และเรียกร้องให้จีนดำเนินการเพื่อปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน โดยแถลงการณ์ของที่ประชุมระบุว่า ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีการได้เปรียบดุลการค้ามหาศาลโดยเฉพาะจีน สมควรจัดการให้อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพ

 

นายฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) นายจัวควิน อัลมิวเนีย กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจแห่งสหภาพยุโรป (อียู) และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานกลุ่มรัฐมนตรีคลังยุโรป จะเดินทางเยือนจีนภายในสิ้นปีนี้ เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ทางการจีนและกระตุ้นให้จีนตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยน

 

นอกจากการเจาะจงถึงจีนเป็นพิเศษแล้ว รัฐมนตรีคลังอียูยังแถลงว่า อียูสังเกตเห็นความเอาใจใส่ของสหรัฐต่อการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และทางการสหรัฐยืนยันว่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าถือเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนเงินเยนน่าวิตกว่ามีค่าต่ำกว่าความเป็นจริง แต่นักลงทุนต้องตระหนักว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวอย่างยั่งยืน และตลาดควรระมัดระวังท่าที

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท