Skip to main content
sharethis

วันที่ 2 ต.ค. 50 นางอังคณา นีละไพจิตร คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิมซึ่งหายตัวไป โดยคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้ และเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้หายไป ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีการหายตัวไปของนายสมชาย นานกว่า 2 ปี ว่า คดีไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร แม้ว่าจะมีการแยกส่งสำนวนคดีในส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาคดีปล้นปืน ซึ่งเป็นลูกความของทนายสมชายไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร


 


ที่สำคัญ ผู้ต้องหาซึ่งเคยถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายหลายรายได้เสียชีวิตไปแล้ว ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ภูธรภาค 7 ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติโดยไม่ได้ถูกพักงาน และยังคงหลีกเลี่ยงไม่เข้าให้การต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามหมายเรียก ขณะที่ผู้เสียหายและพยานกลับถูกคุกคาม ล่าสุด ได้ยินข่าวว่ามีการวิ่งเต้นให้ชะลอการดำเนินคดีเพื่อรอรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น จนให้มีช่องทางที่จะแทรกแซงคดีได้


      


นางอังคณา ยังกล่าวถึงการโยกย้ายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า น่าจะทำให้คดีที่เกี่ยวพันถึงผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งค้างการสอบสวนอยู่ในดีเอสไอมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และเท่าที่สอบถามกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนก็พอใจในบทบาทของดีเอสไอมากขึ้น


      


ทางด้าน พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ เจ้าอาวาสวัดป่าเมตตาธรรม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงคดีฆ่าพระสุพจน์ สุวโจ ว่า ภายหลังมีการเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวน คดีของพระสุพจน์มีความคืบหน้าไปบ้าง ล่าสุด จากพยานแวดล้อมที่พนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมมาได้สามารถระบุถึงกลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับคดีฆ่าพระสุพจน์ และเบื้องต้นมีความน่าเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ อ.ฝาง มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าพระสุพจน์ แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ เพราะยังขาดหลักฐานที่เชื่อมโยงอย่างมีน้ำหนัก


      


นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนดคีพิเศษ กล่าวถึงคดีการหายตัวไปของทนายสมชาย ว่า ได้ส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของดีเอสไอ ร่วมทำงานกับทีมสอบสวนของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ที่เป็นเจ้าของสำนวนคดีในขณะนี้ ดังนั้น การสอบสวนจึงขึ้นอยู่กับทีมสอบสวนของ พล.ต.อ.ธานี และมีการรายงานผลการดำเนินงานมายังตนเองเท่านั้น จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการสอบสวนคดีนี้ได้ เพราะอาจกระทบต่อรูปคดี ซึ่งความคืบหน้าคดีนี้ผู้ที่ตอบคำถามได้ดีที่สุด คือ พล.ต.อ.ธานี


      


อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การโยกย้ายข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ผ่านมาไม่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดีนี้อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าการโยกย้ายจะเป็นเช่นใดพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ได้รับมอบหมายให้ทำคดีนี้ก็ยังมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีนี้ต่อไป


 


 


 


 


ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net