วันที่ 26 ก.ย. 50 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ร่วมกับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย รวมตัวกันบริเวณหน้ารัฐสภา ประมาณ 300 คน เพื่อยื่นหนังสือให้กับ นาย
กฎหมายทั้ง 11 ฉบับที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่ง กป.อพช. พิจารณาร่วมกันแล้วเห็นว่า มีเนื้อหาที่นอกจากจะไม่ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพแล้ว ยังเป็นภัยคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้แก่
1. ร่างกฎหมายการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร
2. ร่างกฎหมายป่าชุมชน
3. ร่างกฎหมายการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน
4. ร่างกฎหมายมหาวิทยาลัยบูรพา
5. ร่างกฎหมายมหาวิทยาลัยทักษิณ
6. ร่างกฎหมายจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
7. ร่างกฎหมายว่าด้วยเงื่อนไขและหลักเกณฑการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ
8. ร่างกฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
9. ร่างกฎหมายทรัพยากรน้ำ
10. ร่างกฎหมายสภาการเกษตรแห่งชาติ
11. ร่างกฎหมายวัตถุอันตราย
และในวันนี้มีการเพิ่มกฎหมายที่ละเมิดสิทธิของประชาชนเพิ่มอีก 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงานและก๊าซธรรมชาติและ ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย
นาย
นายจอน อึ๊งภากรณ์ ประธาน กป.อพช. ขึ้นเวทีแถลงจุดยืนต้านกฎหมายทั้ง 11 ฉบับ
เวลาประมาณ 12.00 น. นายจอน อึ๊งภากรณ์ ได้เป็นตัวแทนยื่นจดหมายคัดค้านกฎหมาย 11 ฉบับ
พร้อมทั้งกล่าวว่า "ขอเรียกร้องให้ สนช.ยุติการพิจารณากฎหมายที่ส่งผลต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั้ง 11 ฉบับทันทีเนื่องจาก สนช.ชุดนี้ไม่มีไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจึงไม่มีความชอบธรรมเพียงพอที่จะพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของประชาชน ควรจะให้เป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่มาจากประชาชนเป็นผู้พิจารณาต่อไป"
รองเลขาธิการ สนช. รับข้อเสนอจากตัวแทนภาคประชาชน
นายโคทม อารียา ประธานคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน สนช.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ด้านนาย
"ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องที่ว่าสนช.ไม่ควรพิจารณากฎหมายที่เข้าข่ายลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่นพ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน ควรให้สภาที่มาจากการเลือกตั้งพิจารณา และอยากให้องค์กรประชาชนเข้ามาประสานกับสนช.มากขึ้นเพื่อให้ได้กฎหมายตามที่ประชาชนต้องการจริงๆ" นายโคทม กล่าว
กระทั่งเวลา 14.00 น. เหตุการณ์โกลาหลก็เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามที่จะบุกเข้าไปภายในรัฐสภาเพื่อพบกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์โดยผู้ชุมนุมบางส่วนได้ใช้บันไดพาดกับประตูรั้วรัฐสภาที่ถูกปิดล็อกอยู่ แล้วปีนข้ามกำแพงเข้าไปยังภายในรัฐสภา ขณะที่ บางส่วนพร้อมใจกันเขย่าประตูเหล็กของรัฐสภาให้เปิดออก โดยผู้ชุมนุมใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็สามารถเปิดประตูออกได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพียงประมาณ 10 คนไม่สามารถต้านทานได้ทำให้ผู้ชุมนุมกว่า 200 คนทะลักเข้าไปอยู่ภายในรัฐสภาได้ในที่สุด
กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 200 คน พยายามปีนรั้วเข้าไปยังบริเวณภายในรัฐสภา หลังนายมีชัยไม่ยอมออกมารับหนังสือด้วยตัวเอง
ผู้ชุมนุมตั้งแถวยังลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ (ครูหยุย) สมาชิก สนช. ได้ออกมาพบปะ และเจรจากับผู้ชุมนุม
จากนั้นผู้ชุมนุมได้พร้อมใจกันเดินขึ้นไปยังลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 โดยได้ตั้งแถว โบกธงสีต่างๆไปมาด้วยความฮึกเหิม พร้อมกับตะโกนขับไล่นายมีชัยตลอดเวลา ขณะนั้นเองนาย
นายมีชัยออกมารับหนังสือด้วยตัวเองในที่สุด โดยรับปากว่าจะนำเรื่องนี้ไปรายงาน สนช.ต่อไป
เครือข่ายภาคประชาชนเดินกลับออกจากรัฐสภาพร้อมการร้องเพลงปลุกปลอบขวัญกำลังใจ
ภาพโดย : จามร ศรเพชรนรินทร์, คิม ไชยสุขประเสริฐ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)