ประชาไท - 14 ก.ย.50 เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า มีการประชุมในเรื่องนโยบายความมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่งมีข้อสรุปในเรื่องของการทำรายละเอียดแผนงานโครงการกำหนดความเร่งด่วนของพื้นที่ที่จำเป็น เพื่อที่จะหารือกันอีกครั้ง ซึ่งตนมีข้อห่วงใย เรื่องการทำงานแบบบูรณาการ จึงมอบหมายให้การทำงานเน้นการบูรณาการแผนโครงการ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่จริงจังต่อไปในอนาคต เน้นในเรื่องการจัดระเบียบชายแดน มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ โดยเฉพาะทางด้านการสื่อสาร และเทคโนโลยีที่จำเป็นต้องเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การประชุมในวันนี้ ไม่ได้มีการหารือในเรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึก

ด้าน นายประกิจ ประจนปัจจนึก เลขา สมช.กล่าวถึงเรื่องกฎอัยการศึกว่า ไม่ได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ในที่ประชุม อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดอยู่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถประกาศใช้ได้ก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ เลขา สมช.กล่าวว่า คงจะไม่นานเกินไปที่จะได้ข้อสรุป แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้

"บุญสร้าง" ตั้งคณะที่ปรึกษากองทัพไทย เชิญ "ทหารแก่" นั่งเป็นกรรมการ

ที่กองบัญชาการทหารสูงสุด  พล.อ.บุญสร้าง  เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ได้เชิญสมาชิกชมรม "จตุรมิตรมงคล" ที่มี พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์   อดีต ผบ.สส. เป็นประธานชมรม  และผู้ที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง ของ บก.สส. ตั้งแต่ ผบ.สส. รอง ผบ.สส. เสนาธิการทหาร  รวมทั้งในเหล่าทัพที่ดำรงชั้นยศในอัตราจอมพล จำนวนประมาณ  20 คน เช่น พล.อ.สำเภา ชูศรี อดีต ผบ.สส.  พล.ร.อ.ณรงค์ ยุทธวงศ์ อดีต ผบ.สส. พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีต ผบ.สส. พล.ร.อ.วิจิตร ชำนาญกาญจน์ อดีต ผบ.ทร. พล.อ.โชคชัย หงส์ทอง อดีตเสนาธิการทหาร  พล.อ.สมหมาย วิชาวรณ์    อดีตเสนาธิการทหาร เป็นต้น

ล.อ.บุญสร้าง เปิดเผยว่า ตนคิดว่าเป็นประโยชน์มาก  จึงอยากทำให้ดีขึ้นจากเดิมที่มีการพบปะกันปีละครั้ง   เป็นเชิญให้ทุกท่านเป็นประธานที่ปรึกษาของกองทัพไทย ซึ่งยังไม่ได้รับปาก อาจจะคิดว่าหลอกมาใช้  ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น  แต่อยากให้มาด้วยความสมัครใจช่วยบ้านเมือง ช่วยกองทัพ ให้ข้อคิดต่างๆ

"เมื่อได้ดีกันขึ้นมาแล้ว ก็ไม่นึกถึงคนเก่าๆ  ปล่อยให้คนแก่ที่มีศักยภาพเฉาตายไป  สังคมเจริญแล้วเขาจะไปรับประสบการณ์ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์  จากผู้ที่ผ่านประสบการณ์มาแล้ว ไม่อย่างนั้นก็จะทำความผิดซ้ำ ๆซากๆ  อันนี้เป็นวัฒนธรรมที่ดีในการดูแลผู้อาวุโสที่ยังเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองได้ ถ้าไม่ทำเช่นนั้นก็น่าเสียดาย  หรือแม้กระทั่งผู้อาวุโสที่ไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้ใครได้  เราก็ต้องดูแล  ของเรานี่สร้างมาได้  แต่ปล่อยละทิ้ง  ทั้งที่คนที่เกษียณราชการไปแล้วโดยมากมีความบริสุทธิ์ใจ   เพราะไม่หวังประโยชน์อะไรแล้ว  และก็มีประสบการณ์สูง  ที่สำคัญมีเวลาคิด"

โผทหารคาดทูลเกล้าได้สัปดาห์หน้า นายกฯใช้สิทธิขอดูก่อน

ความคืบหน้าของบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2550 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโผทหารที่ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม จะส่งมาให้พิจารณาว่า ขณะนี้รายชื่อยังไม่ได้ส่งมา ถ้าส่งมาแล้วก็ต้องขอดูก่อน เมื่อถามว่าจะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายได้เมื่อไหร่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ส่งมา ต้องให้ส่งมาแล้วขอดูก่อน

ด้าน พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวว่า กองบัญชาการทหารสูงสุดได้ส่งให้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยกระทรวงกลาโหมจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน คือวันที่ 12-13 ก.ย. ในการตรวจสอบความถูกต้อง และพิมพ์ รายชื่อใหม่แล้วค่อยเสนอขึ้นไป คิดว่าวันที่ 14 ก.ย.นี้ จะถึงมือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ยืนยันว่าในส่วนของกระทรวงกลาโหม จะไม่มีการเปลี่ยน แปลงบัญชีรายชื่อที่ส่งมา และคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าคงจะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายได้ โดยทุกอย่างจะชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า  ทุกคนเห็นตรงกันหมดจึงไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าดูจากบัญชีรายชื่อที่ส่งขึ้นมา คิดว่า จะมีผลกระทบกองทัพในการสานต่องานด้านความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า ก็ดูแล้ว ทุกอย่างลงตัวหมด ไม่มีอะไรน่าห่วง เท่าที่บอกได้วันนี้บอกได้จำนวนรายชื่อ ทั้งหมด 461 คน รายชื่อที่สื่อลงมีถูกบ้างผิดบ้าง รวมถึง 5 เสือ ทบ.ด้วย นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพเห็นตรงกันหมด ไม่มี ปัญหาอะไร ขึ้นมาก็วันเวย์เลย ไม่มีหลายเวย์ เหมือนที่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพูดไว้ว่าไม่เหมือนปีก่อนๆ ที่ส่งไปส่งมา ปีนี้คงส่งวันเวย์ เพราะทุกอย่างได้พูดจากันไว้ บ้างแล้ว เมื่อถามว่าแสดงว่าเมื่อถึงมือนายกฯ คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า ต้องถามท่านนายกฯ เห็นรายชื่อทั้ง 461 คนแล้ว แต่ไม่รู้จักทั้งหมด รู้จักเฉพาะทหารบก ส่วนทหารเรือและทหารอากาศ ไม่รู้จัก

เมื่อถามว่าในตำแหน่ง ผบ.ทบ.ถูกจับตามองเป็นพิเศษ  หากใครได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาสามารถอธิบายได้ ใช่หรือไม่ พล.อ.บุญรอดกล่าวอย่างหนักแน่นว่า ได้ ไปอ่านที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ เป็นไปตามที่ให้สัมภาษณ์ไว้แล้วทั้งสิ้น เชื่อว่าบุคคลทั่วไปจะเข้าใจ 100% ที่พูดนี่หมายถึง บุคคลทั่วไป แต่อย่างว่าทั้ง 3 คน จะมีกลุ่มสนับสนุน กลุ่ม เชียร์ ดังนั้น จึงมีคนที่ผิดหวัง แต่เจ้าตัวคิดว่าไม่มีอะไร เมื่อโปรดเกล้าฯลงมาทุกอย่างก็จบกัน 

เมื่อถามว่าจะให้นโยบายเพิ่มเติมกับ ผบ.ทบ.คนใหม่ อย่างไรช่วงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ พล.อ.บุญรอดตอบว่า คงยังไว้ทีละขั้น และคงต้องพูดในที่ประชุมสภากลาโหมก่อน  ในวันที่ 24 ก.ย.นี้  โดยต้องพูดกับคนเก่าก่อน ส่วนคนใหม่คงต้องรอเดือนตุลาคมนี้ เมื่อถามว่าเมื่อดูรายชื่อ ผบ.ทบ.คนใหม่ คาดหวังว่าจะสร้างกองทัพให้ เป็นกองทัพอาชีพได้หรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า ทุกคนก็เป็นทหารอาชีพ ทุกคนที่จบโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯมา ก็หวังเป็นทหารอาชีพด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่มาสบายใจตอนนี้ แต่สบายใจตั้งแต่โยกย้ายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ลองถาม ผบ.เหล่าทัพดูได้ ทุกคนก็บอกว่าเป็นปีที่ง่ายที่สุด ไม่มีปัญหา ทุกคนก็มีความสุข และก็อยากให้ เป็นอย่างนี้ตลอดไป ทั้งนี้ ทุกคนก็ทำตามนโยบายในการลดกำลังพลชั้นนายพล ในปีนี้ก็สามารถลดได้ 130 กว่าคน

ทหารแต่งเพลงสรรเสริญ "สนธิ"

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการกองทัพบกว่า ส.ท.พนม สร้อยระย้า นายทหารจากกรมส่งกำลัง บำรุงทหารบก ได้นำซีดีเพลงชื่นชม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. พร้อมเนื้อร้อง และซีดีเพลงปลุกใจทหาร เช่น เพลงทหารกล้า คุณแผ่นดิน หยุดฆ่ากัน : ฉันรักเธอ นำมาแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชนเพื่อนำไปประชาสัมพันธ์ โดยเนื้อร้องเพลง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน นั้น ได้แสดงความชื่นชมในความดี และความสามารถของ พล.อ.สนธิว่า ท่านเกิดเป็นชายชาติทหาร เป็นที่พึ่งประชาชน ท่านมีความพากเพียร ต่อสู้ไม่มีถอย ไม่มีประวัติด่างพร้อย ซื่อสัตย์ ยุติธรรม เป็นผู้มีอุดมการณ์ มีความคิดอันแรงกล้า กล้าทำและกล้าคิด เสียสละด้วยชีวิต อุทิศตนเพื่อมวลประชา ปฏิรูปการปกครอง คืนอำนาจปวงประชา สันติภาพกลับคืนมาสู่ประชาธิปไตย เป็นผู้ยึดมั่นในศีลธรรม เป็นผู้นำของสังคม