Skip to main content
sharethis





การเมือง


กม.ลูกเชือดพรรคนอมินีห้ามครอบงำกิจการพรรค-ส่งท่อน้ำเลี้ยง


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - ในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานอนุฯ เป็นประธานการประชุม โดยได้พิจารณาทบทวนร่างฯที่มีการแก้ไข


 


มีประเด็นสำคัญ ได้แก่ มาตรา 82 ว่าด้วยเรื่องการห้ามกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบเนื่องจากเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไปตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือไปเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่หรือดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรคภายในกำหนด 5 ปีนับตั้งแต่วันที่พรรคนั้นต้องยุบไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมมีการอภิปรายกว้างขวางเนื่องจากมีข้อเสนอจากอนุกมธ.ว่า ควรห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไปด้วยเพราะถือว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ล้มละลายทางการเมือง อย่างไรก็ดียังเกรงว่า หากกำหนดเช่นนั้นอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญเรื่องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน


 


ดังนั้นนายบวรศักดิ์ จึงเสนอให้ใช้ถ้อยคำในมาตราดังกล่าวว่า ในกรณีที่พรรคต้องยุบเพราะเหตุตามมาตรา 74 เรื่องการรายงานค่าใช้จ่ายเงินสนับสนุนไม่เป็นความจริง หรือต้องยุบตามมาตรา 79 เรื่องการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ต้องยุบไปจะขอจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือมีส่วนร่วมในการขอจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองไม่ได้ ทั้งนี้ภายในกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่พรรคนั้นถูกยุบ


 


นอกจากนี้ อนุกมธ.ที่อยู่ในสายพันธมิตรฯเช่นนายประพันธ์ คูณมี ได้เสนอให้บัญญัติเพิ่มในวรรคสองด้วยว่า "ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคที่ต้องยุบไปกระทำการต้องห้ามตามวรรคหนึ่ง ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้ (1)ผู้นั้นสั่งหรือใช้ให้มีการขอจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ (2)ผู้นั้นให้การสนับสนุนทางการเงิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันคำนวณเป็นเงินได้ เป็นส่วนสำคัญในการขอจัดตั้งพรรคการเมือง หรือในการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ และ (3)ผู้นั้นมีส่วนสำคัญในการครอบงำการบริหารกิจการของพรรคการเมือง โดยที่ประชุมเห็นด้วยกับข้อความดังกล่าว


 


อย่างไรก็ตาม นายบวรศักดิ์ ได้กล่าวกับอนุกมธ.ตอนหนึ่งว่าถ้าอยากให้การเมืองสงบก็อย่าเขียนกฎหมายให้แรงเกินไป ทำให้เขารู้สึกว่า ถูกรังแก เมื่อไหร่ที่เขาคิดว่าถูกรังแก ทันทีที่กฎหมายนี้จะประกาศใช้จะถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าพ.ร.บ.นี้ขัดรัฐธรรมนูญแน่นอน 100 เปอร์เซนต์ โดยเฉพาะม.82 วรรคสอง ถ้าเป็นไปตามที่นายประพันธ์เสนอมา เชื่อว่าจะมีผู้ที่รู้สึกว่าถูกกลั่นแกล้งฟ้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแน่นอน


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการประชุมนายบวรศักดิ์ ได้เสนอให้บัญญัติเพิ่มขึ้นใหม่ 1 มาตราโดยระบุว่าพรรคการเมืองใดมีเจตนากลั่นแกล้งรู้เห็นเป็นใจ สนับสนุนหรือสมคบ กันเพื่อกลั่นแกล้ง พรรคการเมืองอื่นให้ต้องรับโทษหรือรู้เห็น พรรคการเมืองนั้นจะต้องถูกลงโทษ 2 เท่าของโทษที่บัญญัติไว้และให้ยุบพรรคการเมืองนั้นด้วย


 


เก้าอี้ ผบ.ทบ.ยังไม่ลงตัวเหล่าทัพเลื่อนส่งโผ


คมชัดลึก - พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2550 ของแต่ละเหล่าทัพ ว่า ขณะนี้การพิจารณาบัญชีรายชื่อในขั้นตอนของเหล่าทัพยังไม่แล้วเสร็จ และอาจจะต้องเลื่อนส่งบัญชีออกไปอีก 2-3 วัน จากเดิมที่มีการนัดหมายในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.)


 



ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพบก เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้บัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายในส่วนของกองทัพบกยังไม่ลงตัวจริง โดยเฉพาะตำแหน่ง ผบ.ทบ.ยังไม่ชัดเจนว่าเป็น พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วย ผบ.ทบ.(2) ทำให้วันนี้ พล.อ.สนธิ ได้เดินทางไปที่กระทรวงกลาโหม เพื่อหารือกับ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที



 


เสียใจกับข้อมูลที่ผิดพลาด  ยันปรับ MoU ให้สอดคล้องกม.ไทย หากไม่เซ็นก็ไม่กระทบสัมพันธ์


แนวหน้า - ที่อาคารศรีจุลทรัพย์  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายสุทธิพล ทวีชัยการเลขาฯ กกต.ได้มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการเป็นครั้งแรกกับทางคณะทูตจากทางอียูที่ประกอบไปด้วย นายอันเดอนีโอ เดอ ฟาเรีย อี มายา (Mr.Antonio  de  Faria e Maya)เอกอัครราชทูตโปรตุเกส ประจำประเทศไทย  เกี่ยวกับ


 


การสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในปลายปี 50 นี้ และนายเฟรดดริด อัมบัวร์เกอร์(MR.Friedrich Hamburger) ทูตอียู พร้อมคณะรวม 6 คน โดยใช้เวลาในการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง



นายอันเดอนีโอ เดอ ฟาเรีย อี มายา  (Mr.Antonio  de  Faria e Maya) เอกอัครราชทูตโปรตุเกส ประจำประเทศไทย  ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพบปะกับนายสุทธิพล เกี่ยวกับการเข้ามาสังเกตุการณ์การเลือกตั้งของสหภาพยุโรปว่า ในการเลือกตั้งของประเทศไทยภายหลังจากมีเหตุการณ์รัฐประหาร ซึ่งพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่  23 ธ.ค.นี้ ในการหารือร่วมกับผู้แทนของ กกต. ถือว่า เป็นการเปิดใจเจรจากัน  ซึ่งตนก็ได้อธิบาย ชี้แจงข้อเท็จจริงข้อกังขา รวมทั้งประเด็นที่มีการเข้าใจผิดกัน  นอกจากนี้ตน ยังแสดงความเสียใจที่ก่อนหน้านี้มีข้อมูลที่ผิดพลาดถูกนำเสนอออกไปทางสื่อมวลชน ทั้งนี้ ได้ชี้แจงถึงการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง โดยให้เป็นอำนาจของรัฐบาลไทยในการตัดสินใจได้อย่างเต็มที่  อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สหภาพยุโรปได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในแต่ละประเทศตั้งแต่ปี  2543



 


นายอันเดอนีโอ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้เป็นการเจรจา เพื่อหาข้อตกลง แต่เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อตอบข้อซักถาม ซึ่งสหภาพยุโรปก็รับฟังข้อเสนอของไทยที่ต้องดูในข้อกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญว่าหากมีการเจรจาและเซ็นเอ็มโอยูจะขัดกับกฎหมายของไทยหรือไม่  โดยกกต.ต้องการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง และสหภาพยุโรปเข้าใจดีในเรื่องนี้ จึงต้องรอการตัดสินใจของกกต.ก่อน  สำหรับการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสังเกตการณ์เป็นไปตามกฎระเบียบมาตรฐานขององค์กรระหว่างประเทศ ทั้งยูเอ็น  ยูเอสซีอี  หรือองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ  ซึ่งต้องทำตามระเบียบให้ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาสังเกตุการณ์จะมีสิทธิ  อำนาจหน้าที่อย่างไรบ้าง ตามกรอบที่วางไว้เบื้องต้น  ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย  รวมทั้งความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย



 


สมัครอ้างในหลวงไม่ควรเลื่อนเลือกตั้ง


ผู้จัดการรายวัน - นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวตอนหนึ่งในการเป็น วิทยากรบรรยายพิเศษเรื่อง "เรื่องเล่าจากปูชนียบุคคล" ที่มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิตว่า ประเทศไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงห่วงใยบ้านเมือง ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงช่วยแก้ปัญหาเหตุการณ์ต่างๆ ทั้ง 14 ตุลาคม 2516 และพฤษภาทมิฬ 2535 ที่เกือบจะเกิดสงครามการเมืองขึ้น แต่ปัญหาก็ยุติได้เพราะพระบารมี สถาบันพระมหากษัตริย์จะอยู่คู่บ้านคู่เมืองและจะต้องอยู่ต่อไป ไม่มีเหตุผลที่ใครจะทำให้สถาบันเสื่อมเสีย แต่ก็ยังมีคนนำมากล่าวหากัน อยากให้คนไทยรู้ซึ้งถึงน้ำพระทัยเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ทุกอย่างคงจะเรียบร้อย


         


นายสมัคร กล่าวว่าการเลือกตั้งนั้นต้องเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ "ไม่เคยสังเกตุกันเลยหรือว่าคุณมีชัย(ฤชุพันธุ์ ) บอกว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าในวันที่ 27 ส.ค. แต่พระองค์โปรดเกล้าฯให้เข้าเฝ้าวันที่ 24 ส.ค. เพื่อลงพระปรมาภิไธยแล้วประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเลย แปลว่า ท่านต้องการเห็นการเลือกตั้ง ไม่ต้องการให้ยืดเยื้อ ดังนั้นใครที่ทำอะไรโฉ่งฉ่าง ให้คิดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบ้าง จะมาอ้างวันเฉลิมพระชนมพรรษาหรือการจัดงานซีเกมส์แล้วจะเลื่อนเวลาเลือกตั้งมันไม่ได้"


 


"สมัคร"อ้างออกนิรโทษกรรมช่วยคนดีที่ถูกฆ่าทางการเมือง


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์หลังจากเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษหัวข้อ "เรื่องเล่าจากปูชนียบุคคล" ถึงกรณีที่ระบุว่า หากชนะเลือกตั้งจะขอนิรโทษกรรมให้กับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนว่า ต้องการบอกว่าให้นึกถึงบุคลากรการเมืองที่ต้องเสียไปเพราะถูกรังแก ก็น่าจะขอนิรโทษกรรมได้ เพราะขนาดคนที่ก่อการกบฏยังขอนิรโทษกรรมได้ สิ่งที่ตนพูดไม่ได้เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลับมาเล่นการเมืองอีกแล้ว การขอนิรโทษกรมเป็นผลดีกับทุกฝ่าย


 


"สนธิ" ชี้ ปชช. เป็นผู้ตัดสินนิรโทษกรรม 111 อดีตทรท.


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ระบุหากได้เป็นรัฐบาลจะยุบ คตส. และยกเลิกมติ ครม. ว่า เป็นกุศโลบายทางการเมืองปกติ ไม่ต้องตกใจ และตนก็ไม่ตกใจ เป็นเพียงกุศโลบายทางการเมือง เรื่องการทหารเรื่องความมั่นคง เราคงไม่เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องเหล่านี้ เพราะงานคนละเรื่องกัน


         


เมื่อถามว่า หากกลุ่มนายสมัคร เป็นรัฐบาลอาจมีการนิรโทษกรรม 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อยู่ที่สภาฯประชาชนเป็นคนเลือก ส.ส. หากยกเลิกก็ต้องยกเลิก ถือเป็นมติของประชาชน เมื่อถามว่า ดูแล้วน่ากลัวหรือไม่ที่นายสมัครประกาศกลับมาเป็นตัวแทนแก้แค้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า นั่นคือนโยบายทางการเมือง เมื่อถามว่า เขาจะดำเนินการอย่างไร คมช. ไม่กังวล พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่สนใจ พูดไปเดี๋ยวไปลงข่าวไม่เพราะอีก


 


"สุริยะใส"เตือน"สมัคร"คิดสร้างความแตกแยกระวังธรณีสูบ


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ระบุว่าหากได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะนิรโทษกรรมให้ 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และโอนคดี คตส.มาให้ ป.ป.ช. ว่า เป็นอาการของพวกวัวสันหลังหวะ เพราะนายสมัคร กำลังถูกสอบสวนเรื่องการทุจริตในโครงการจัดซื้อรถดับเพลิงและโครงการกำจัดขยะมูลฝอย กทม. ซึ่งมีนายสมัคร เข้าไปเกี่ยวข้องกับความไม่ชอบมาพากลในโครงการนี้ด้วย


         


จึงไม่แปลกใจอะไรที่นายสมัคร ตั้งเป้ายุบ คตส. เพื้อฟอกผิดให้ตนเอง และเชื่อว่าในช่วงใกล้วันเลือกตั้งพรรคพลังประชาชนหรือนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจะประกาศเดิมพันทางการเมืองว่าเลือกพรรคพลังประชาชนเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งลึกๆ แล้วพรรคพลังประชาชนต้องการใช้เวทีเลือกตั้งเผชิญหน้ากับ คมช.และรัฐบาล ไม่ได้มุ่งหมายเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งแต่อย่างใด เพราะพลังประชาชนรู้ดีว่าแม้ชนะเลือกตั้งหรือเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ไม่สามารถปกครองหรือทวงคืนอำนาจให้พ.ต.ท.ทักษิณได้ เนื่องจากแรงต้านจากสังคมยังสูงอยู่ ฉะนั้นการชูยุทธศาสตร์คืนอำนาจให้พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้เกิดการเผชิญหน้าในสังคมแบบเรื้อรังจนรัฐบาลหน้าบริหารประเทศไม่ได้ และสุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะใช้การเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศเข้ามากดดันรัฐบาลไทยที่อ่อนแออยู่แล้ว เนื่องจากเป็นรัฐบาลผสมและจะกลับเข้ามาประเทศไทยอย่างผู้ชนะอีกครั้ง


 


นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า แต่หากนายสมัครหรือพรรคพลังประชาชนต้องการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและนิรโทษกรรมให้ 111 อดีตส.ส.ไทยรักไทย ยุบ คตส. และขัดขวางกระบวนการตรวจสอบความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่าย ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ไม่มีทางเลือก เราก็จำเป็นต้องออกมาต่อต้านอย่างถึงที่สุดเช่นกัน


 


"วันนี้เห็นชัดเจนแล้วว่าพรรคพลังประชาชน เป็นเพียงเครื่องมือรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของระบอบทักษิณเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาประเทศอย่างแท้จริง อยากฝากไปยังนายสมัครว่าคนคิดให้บ้านเมืองแตกแยกหรือขัดแย้งวุ่นวายไม่รู้จบระวังธรณีจะสูบเอา" นายสุริยะใส กล่าว


 






เศรษฐกิจ


เอเปกหวั่นการเจรจาการค้าโลก แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - บรรดารัฐมนตรีการค้าจากกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การฟื้นการเจรจาการค้าโลก น่าจะเป็นความหวังเดียวที่ดีที่สุด ในการจะนำพาให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวอย่างยั่งยืนต่อไป  โดยที่ประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ได้เผยแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกช่วยกันสนับสนุนการเจรจาการค้าโลกรอบโดฮาว่าด้วยการเปิดเสรีการค้า ให้การเจรจาดังกล่าวได้ข้อสรุปเสียที หลังจากหยุดชะงักมาแล้วหลายครั้ง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะชาติร่ำรวยกับชาติยากจน ยังตกลงกันไม่ได้ว่า ควรจะลดกำแพงการค้าในภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรลงมากน้อยเท่าไร ส่วนการเจรจาการค้าโลกที่เริ่มใหม่อีกครั้งในสัปดาห์นี้ ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็ประสบความล้มเหลวตามเคย


         


นอกจากนั้น บรรดารัฐมนตรีการค้าเอเปกก็ยังเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องผลักดันการเจรจาการค้าโลก ให้บรรลุข้อสรุปร่วมกันให้ได้ เพราะมองว่าจะทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวอย่างยั่งยืนต่อไป ส่วนที่ประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก ซึ่งจะเริ่มประชุมกันในช่วงสุดสัปดาห์ ที่ออสเตรเลีย ก็ตกลงจะสนับสนุนเรื่องการเจรจาการค้าโลกด้วยเช่นกัน


 






ต่างประเทศ


เจ้าหน้าที่พม่าที่ถูกพระจับเป็นตัวประกันได้รับการปล่อยตัวแล้ว


กรมประชาสัมพันธ์ - พระในพุทธศาสนาที่ทำการประท้วงเรื่องการขึ้นราคาน้ำมันของรัฐบาลพม่าได้ปล่อยตัวประกันทั้งหมด 20 คนที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่วัดมหาวิธูทายามะ ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองโพคอกคูที่อยู่ทางตอนเหนือของนครย่างกุ้ง เมืองหลวงทางด้านการค้าของพม่าเมื่อเวลา 16.00  น. ตามเวลาท้องถิ่น  หรือเวลา 16.30 น.ตามเวลาในประเทศไทย หลังจากที่เจ้าหน้าที่กลุ่มแรกได้ถูกควบคุมตัวไว้ภายในวัดเป็นเวลาราว 5 ชั่วโมง ซึ่งส่งผลให้การเผชิญหน้าอย่างรุนแรงของพระกับรัฐบาลทหารพม่าได้สิ้นสุดลง   ส่วนเจ้าหน้าที่คนอื่นๆอีก 15 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับการปล่อยตัวในอีก 45 นาทีต่อมา



 


อดีตนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศจะถูกพิพากษาคดีฉ้อราษฏร์บังหลวง


กรมประชาสัมพันธ์ - ในวันนี้ศาลบังกลาเทศได้ตัดสินว่า เชคฮาซินา วาเจด อดีตนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศจะต้องถูกพิพากษาคดีในข้อหารับสินบนมูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐจากการซื้อเครื่องบินรบแบบ มิก-29จากรัสเซียเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา เชคฮาซินาหัวหน้าพรรคสันนิบาตอวามิถูกล่าวหาพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อื่นอีก 6 คนที่มีผู้บัญชาการกองทัพอากาศรวมอยู่ด้วย



 


ลูกสาวชีรักถูกสอบคดีคอรัปชั่น


สำนักข่าวเนชั่น - โคลด ชีรัก บุตรสาววัย 44 ปี ของอดีตประธานาธิบดีฌ้าคส์ ชีรัก ของฝรั่งเศสกำลังถูกสอบสวนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาคอรัปชั่นในระหว่างที่บิดาของเธอดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงปารีส เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน


 


เหตุเกิดขึ้นในขณะที่เธอดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ ให้กับบิดาของเธอที่ศาลาว่าการกรุงปารีส นอกจากนี้ยังมีอีก 20 คน ที่ถูกสอบสวนในคดีนี้ที่มีสมาชิกพรรค RPR ของนายชีรัก หลายคนต้องสงสัยว่าได้รับเงินเดือนจากเทศบาลกรุงปารีส และบริษัทเอกชนหลายแห่ง ระหว่างที่นายชีรักดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงปารีส ระหว่างปี 2520-2538


 


นิตยสารรายสัปดาห์ เลอ ปวง ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่า เหตุใดนางโคลด จึงได้รับเงินเดือนจากเทศบาลกรุงปารีสในระหว่างที่เธอทำงานกับบิดาในปี 2532-2536 ทั้งที่ไม่ได้มีการทำสัญญาว่าจ้างและไม่มีชื่อเธออยู่ในรายชื่อเจ้าหน้าที่ และนายชีรักวัย 74 ปี จะต้องถูกสอบสวนในคดีนี้ด้วย นอกจากนี้เขายังถูกดึงเข้าไปพัวพันกับการสอบสวนในคดีคอรัปชั่นอีกสองคดีที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เขาเป็นนายกเทศมนตรี


 


นอร์เวย์ขึ้นแท่นประเทศอยู่แล้วสุขมากสุดในโลก


ผู้จัดการออนไลน์ - นอร์เวย์คว้าแชมป์ประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีมากที่สุดในโลกไปครองตามความคาดหมาย ตามด้วยไอซ์แลนด์และออสเตรเลีย ขณะที่ทวีปแอฟริกายังคงรั้งตำแหน่งประเทศที่ความสุขหายากมากที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของหนังสือพ็อกเกต เวิลด์ อิน ฟิกเกอร์ส ปี 2008 โดยนิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ของอังกฤษ


         


การจัดอันดับดังกล่าว พบว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่มากที่สุดของโลก เป็นประเทศที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตอยู่ในอันดับที่ 7 และ 8 ตามลำดับ ขณะที่อังกฤษซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ติดอยู่ที่อันดับ 17


 


ส่วนประเทศที่รั้งตำแหน่งประเทศที่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์ต่ำมากที่สุดในโลกยังคงเป็นประเทศจากทวีปแอฟริกา โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ ไนเจอร์ เซียร์ร่าลีโอน และมาลี


 


การจัดอันดับที่สุดของโลกซึ่งรวบรวมไว้ในหนังสือเล่มดังกล่าวยังรวมถึงชาวออสเตรเลียซึ่งเป็นชนชาติที่ดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุดในโลก ชาวกรีซที่สูบบุหรี่มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก และชาวญี่ปุ่นที่อ่านหนังสือพิมพ์มากที่สุดในโลก


 


สำหรับการจัดอันดับด้านสิ่งแวดล้อม สหรัฐฯ ยังครองตำแหน่งประเทศที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์มากที่สุดในโลก โดยก๊าซที่ปล่อยออกมามีจำนวนสูงถึง 4,800 ล้านตัน ตามมาด้วยจีน 4,140 ล้านตัน และรัสเซียมาเป็นอันดับ 3 ที่ 1,500 ล้านตัน


 


ทั้งนี้การจัดอันดับดังกล่าวยังได้รวมเอาดัชนี "บิ๊กแมค" ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนกำลังซื้อของผู้คนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยใช้ราคาแฮมเบอร์เกอร์ "บิ๊กแมค" ของร้านแมคโดนัลด์มาเป็นตัววัด โดยประเทศที่บิ๊กแมคมีราคาถูกมากที่สุดในโลก ได้แก่ จีน อยู่ที่ 1.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ (48 บาท) ตามติดมาด้วยฮ่องกง 1.54 ดอลลาร์สหรัฐฯ (52 บาท) และมาเลเซีย 1.57 ดอลลาร์สหรัฐฯ (54 บาท) ขณะที่ประเทศที่บิ๊กแมคมีราคาแพงมากที่สุดอันดับหนึ่งของโลก ได้แก่ ไอซ์แลนด์ ซึ่งมีราคาสูงถึงเกือบ 7.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ (258 บาท)         

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net