Skip to main content
sharethis


 


เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 เมื่อเวลา 10.30 กลุ่มพลเมืองภิวัตน์ และกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยประมาณ 20 คน รวมตัวกันที่หน้ากองทัพบก นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข หนึ่งในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการหรือ นปช. เดินทางมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึก โดยมีการอ่านแถลงการณ์ผ่านเครื่องขยายเสียง และให้อาสาสมัครหญิง 2 คน ใช้สก๊อตเทปปิดปาก เข้าไปอยู่ในกรงลวดหนาม และห้อยป้ายแขวนคอมีข้อความว่า "กฎอัยการศึกทำลายสิทธิเสรีภาพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และประชาธิปไตย"


 


ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความสงบเรียบร้อยประมาณ 30 นาย นำโดย พ.ต.อ.ฉันทวิทย์ รามสูตร รอง ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ศรัญญู ชำนาญราช ผกก.สน.นางเลิ้ง


 


พ.ต.อ.ฉันทวิทย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความเรียบร้อยของกลุ่มที่จะมาทำกิจกรรมยื่นหนังสือถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งก็เป็นเสรีภาพตามวิจารณญาณของประชาชน เพราะหลังจากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่แล้ว ก็ย่อมมีการเคลื่อนไหว หรือแม้แต่การรณรงค์สนับสนุนพรรคการเมืองใดๆ ตามมาก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมิได้ห้ามการมายื่นหนังสือ แต่หากมีกิจกรรมอื่นใดที่เป็นการก่อความไม่สงบก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย  


               


ในขณะที่นายสมยศ แกนนำผู้ชุมนุมกล่าวว่า ทางกลุ่มทำกรงลวดหนามมาแสดงกิจกรรมเพื่อเปรียบว่าเหมือนกฎอัยการศึกที่ทำให้ประชาชนอึดอัด มีการประกาศใช้ทั้งที่ไม่มีภาวะสงครามหรือความไม่สงบเรียบร้อยและไม่เป็นผลดีต่อการมีเสรีภาพของประชาชน จึงต้องการให้ยกเลิกกฎอัยการศึกทั้ง 35 จังหวัดโดยเร็วที่สุด ก่อนมีการเลือกตั้งเพราะหากมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้กฎอัยการศึกจะไม่เป็นที่ยอมรับและถูกบอยคอตต่อต้านเนื่องจากมีรากเหง้ามาจากเผด็จการ


 


นายสมยศ กล่าวอีกว่า เมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ที่โฆษณาว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุดแล้ว หากยังมีกฎอัยการศึกที่ให้อำนาจทหารห้ามประชาชนชุมนุมและคุกคามจำกัดเสรีภาพประชาชน ก็ถือว่าคมช.และรัฐบาลเป็นพวกปากว่าตาขยิบมือถือสากปากถือศีล พูดอีกอย่างทำอีกอย่าง


               


นอกจากนั้น นายสมยศยังกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ขอแสดงความเสียใจกับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ที่มีโอกาสหลุดโผดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. เพราะ พล.อ.สพรั่ง มีท่าทีที่แข็งกร้าวและวาจาที่สามหาวต่อประชาชนที่ออกมาขับไล่คมช.


 


"ผมเชื่อว่าพล.อ.สพรั่ง ไม่ได้เป็น ผบ.ทบ.แน่ๆ เพราะ ถ้าได้เป็นก็จะทำให้กองทัพบกตกต่ำ บ้านเมืองไม่มีความหวังที่จะเดินไปสู่การคลี่คลายปัญหา ซึ่งผมขอแสดงความเสียใจกับ พล.อ.สพรั่งที่ต้องผิดหวัง พร้อมกันนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับประชาชนที่เกลียด พล.อ.สพรั่งด้วย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน คงเลือกคนอื่นขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. คนใหม่ เพราะหากให้ พล.อ.สพรั่ง ดำรงตำแหน่ง กองทัพก็จะมีผู้บัญชาการที่มักออกอาการไม่อยู่กับร่องกับรอยไม่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย" นายสมยศกล่าว


               


จากนั้น ตัวแทนกลุ่ม 24มิถุนาประชาธิปไตยและกลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ ได้ยื่นหนังสือถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และผู้บัญชาการทหารบก ผ่าน พ.อ.กมล เพิ่มกำลังพล ฝ่ายเสนาธิการ คมช. ตัวแทนรับหนังสือผ่านประตูของกองบัญชาการกองทัพบกที่ปิดอยู่ โดยไม่มีการเปิดประตูให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปบริเวณกองบัญชาการฯ หลังจากนั้นก็ได้สลายการชุมนุม และประกาศว่าจะมาติดตามคำตอบอีกครั้งในอาทิตย์หน้า


 


ส่วนเนื้อความในหนังสือคือให้ถอดถอน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก สืบเนื่องจาก คมช. ได้ยึดอำนาจการบริหารจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และส่งผลให้รัฐธรรมนูญของไทยฉบับปี พ.ศ. 2540 สิ้นสุดลง


 


นอกจากนี้ ยังขอเรียกร้องให้ประธาน คมช. และผู้บัญชาการทหารบกดำเนินการยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ 35 จังหวัด โดยเร็วที่สุด เพื่อคืนสิทธิและเสรีภาพให้กับประชาชนให้การดำเนินกิจกรรมและกิจการต่างๆของพรรคการเมืองเป็นไปอย่างเสรี อีกทั้งยังส่งผลทำให้นานาประเทศเกิดความเชื่อมั่นต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นว่า ความโปร่งใส เป็นสุข และมีความยุติธรรม


 


ประการต่อมาคือ หลังจากวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่ คปค. ได้ยึดอำนาจ ปรากฏว่ามีบุคลากรจากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศจำนวนมาก ได้รับตำแหน่งทั้งภาคการเมืองและเศรษฐกิจ ทั้งที่ไม่ได้เป็นภารกิจของกองทัพ และหน้าที่เหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นภารกิจของกองทัพ ทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกองทัพลดน้อยลง จึงอยากให้บุคลากรจากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ลาออกจากตำแหน่งต่างๆ และเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ของกรมกอง ส่วนข้อเรียกร้องประการสุดท้ายคือให้ทหารเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมือง


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net