ข่าวมอนิเตอร์ ประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2550

 

การเมือง

 

 

ประธาน คมช.อาจเรียกแม่ทัพภาค 2 แจงเหตุอีสานคว่ำ รธน.

ไอ.เอ็น.เอ็น.- พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบกกล่าวว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อาจมีการเรียกแม่ทัพภาคที่ 2 เข้าชี้แจงถึงสาเหตุที่ประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานส่วนใหญ่ ไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2550  ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่ามีการใช้เงินคว่ำร่างรัฐธรรมนูญแต่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับความนิยมในตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

 

ขณะเดียวกันก็มองว่าน่าจะเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากปีนี้มีปัญหาติดขัดเรื่องงบประมาณ ลงไปถึงประชาชนล่าช้า ส่วนจะมีการปรับย้ายข้าราชการในพื้นที่ ที่ประชาชนลงมติไม่เห็นชอบหรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องสอบถาม พล.อ.สนธิ สำหรับกรณีที่ พล.อ.สนธิ ระบุว่า มีเหตุจำเป็นยิ่งใหญ่นั้น เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องปฏิวัติอย่างแน่นอนเพราะหากทำไปประชาชนก็ไม่ยอมรับ เพราะไม่มีเหตุผลเหมือนกับการทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน

 

 

สนธิยัน ไม่มีคำสั่งคาดโทษแม่ทัพภาค 2 -3 และผู้ว่าฯ ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน

กรมประชาสัมพันธ์ - พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. กล่าวว่า กรณีผลคะแนนเสียงในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือออกมาว่าส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 นั้น ไม่ถือเป็นความผิดของข้าราชการในพื้นที่ ทั้งแม่ทัพภาคและผู้ว่าราชการจังหวัด ในขณะเดียวกัน ถือว่าทุกคนต่างทำงานอย่างเต็มที่แล้ว จึงไม่ได้มีการคาดโทษไว้แต่อย่างใด เพราะจะเป็นการทำลายขวัญกำลังในการปฏิบัติงาน สำหรับในส่วนของกองทัพ แม่ทัพภาคที่ 2 และ 3 คงจะได้สรุปข้อมูลที่เป็นสาเหตุดังกล่าวมารายงานให้ทราบต่อไป

 

พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องไม่ให้นำประเด็นผลคะแนนการลงประชามติของประชาชนมาเชื่อมโยงในลักษณะแบ่งฝ่ายเห็นชอบระหว่าง คมช.กับกลุ่มอำนาจเก่า เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของชาติบ้านเมือง ย้ำจะไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น เพราะหากทหารคนใดทำก็ถือว่าไม่มีปัญญา ขณะนี้บ้านเมืองต้องเดินไปสู่การเลือกตั้งซึ่งมั่นใจจะมีขึ้นภายในปลายปีนี้อย่างแน่นอน

 

ยอมถอนร่าง พ.ร.บ.ชุมนุมฯ หลังถูก สนช.วิจารณ์หนัก

เว็บไซต์สยามธุรกิจ - ที่ประชุมสภานิติบัญญัติ (สนช.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา สนช. และคณะเป็นผู้เสนอ โดยมีหลักการและเหตุผลว่า ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญได้รับรองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในชีวิตและร่างกาย เคหสถาน การเดินทาง การสื่อสารถึงกัน ตลอดจนการชุมนุมแสดง ความคิดเห็นในสถานที่สาธารณะที่เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ดังนั้น เพื่อให้ การชุมนุมในที่สาธารณะเป็นไปตามสิทธิขั้นพื้น ฐานดังกล่าว และเพื่อเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้มีผลกระทบกับสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือสาธารณชน จึงจำเป็นต้องตราร่าง พ.ร.บ.นี้

 

จากนั้น ได้มีสมาชิกร่วมอภิปรายจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย และคัดค้านที่จะให้ สนช.รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดย ดร.โคทม อารียา อภิปรายว่า ดูเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.นี้แล้วเห็นว่า เป็นการจำกัดสิทธิและเสรี ภาพในการชุมนุมของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ กลุ่มผู้เสนอไปตีความว่า การกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อคุ้มครองประชาชนนั้นต้องมีระดับที่พอเหมาะ แต่ร่าง พ.ร.บ.นี้มุ่งจำกัดสิทธิการชุมนุม ของประชาชน และมุ่งเอาผิดผู้ชุมนุม ต้องเซ็นเซอร์ ต้องขออนุญาตก่อน เหมือนเป็นการคุมกำเนิด ซึ่งดูแล้วไม่เป็นไปตามธรรมชาติที่จะอนุญาตให้การชุมนุมเป็นไปโดยสงบ เมื่อมุ่งจะจำกัดสิทธิการแสดงออกทั้งทางการเมืองและปากท้องของประชาชนอย่างนี้ ร่าง พ.ร.บ.นี้ไม่ น่าผ่านในชั้นรับหลักการ

 

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สนช. กล่าวว่า ขอพูดในฐานะที่เคยเป็นรัฐมนตรีหลายสมัย หลายกระทรวง และเป็นแกนนำการชุมนุมมาตลอดเห็นว่า กฎหมายเดิมที่เรามีอยู่ มีความเพียบพร้อมอยู่แล้วที่จะควบคุมการชุมนุมได้ ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายใหม่อะไรขึ้นมาอีก แต่อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็ม ที่มากกว่า แม้กฎหมายนี้ออกมาจะไม่เกิดผลอะไร แต่จะยิ่งก่อความวุ่นวายในอนาคต เพราะถ้าประชาชนมีความเดือดร้อนเรื่องปากท้อง หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องออกมาชุมนุม เมื่อออกมาเดินขบวนกันเป็นแสนคน ก็ไม่มีทาง หยุดยั้งการชุมนุมได้ และจะทำให้เกิดการจลาจล ดังนั้น การชุมนุมด้วยอุดมการณ์อย่างแท้จริง ไม่ใช่เรื่องน่ารื่นรมย์ ต้องไปนอนกลางถนนหรือ ริมฟุตบาท ถ้าไม่เดือดร้อนไม่มีใครไปทำหรอก และไม่มีการชุมนุมใดที่จะได้รับความสำเร็จโดย ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบ ดังนั้น ถ้าวันนี้เรารับหลักการกฎหมายฉบับนี้ คงเป็นกฎหมายที่แปลกที่สุดในโลก ขออย่าได้มีมาตรการมาหยุดยั้งการเรียก ร้องของประชาชนเลย ไม่เช่นนั้นจะเกิดการจลาจลใหญ่ในอนาคตแน่นอน

 

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. อภิปรายว่า ร่างกฎหมายนี้เป็นการเขียนที่ฉลาดมาก เพราะหลักการไม่ผิด แต่เหตุผลและเจตนารมณ์ ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ลงประชามตินั้นผิด และขัดต่อหลักประชาธิปไตย จึงไม่ควรรับหลัก การร่างกฎหมายนี้ ทั้งนี้ เรื่องการควบคุมการชุมนุมของประชาชน มีกฎหมายหลายฉบับที่บังคับใช้อยู่แล้ว อาทิ กฎหมายจราจร กฎหมายทางหลวง หากทำผิดสามารถดำเนินคดีได้ตามกฎหมายอยู่แล้ว

 

"มาตรา 19 ของร่างกฎหมายนี้ระบุว่า แม้จะชุมนุมโดยสงบก็ทำไม่ได้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ ถือเป็นกฎหมายฉบับเดียวในโลกที่เขียนแบบนี้ว่า ถึงแม้ชุมนุมด้วยความเรียบร้อยก็ต้องติดคุก ถือว่าเป็นกฎหมายอันตรายยิ่งกว่ากฎหมายการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงอยากให้ถอนออก ไป" นายวัลลภ กล่าว

 

ภายหลังการอภิปรายคัดค้านของสมาชิก พล.ต.อ.อิสระพันธ์ ที่เป็นผู้เสนอร่างกฎหมายนี้ ได้ชี้แจงว่า แม้จะมีกฎหมายที่เทียบเคียงกับร่างกฎหมายนี้บังคับใช้อยู่ แต่ยังไม่มีมาตรการ ใดๆ ในการรับรองการรักษาระเบียบวินัยในการใช้พื้นที่สาธารณะเป็นการเฉพาะ ในอดีตที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ชุมนุมที่บานปลายออกไป ทำให้เป็นปัญหา ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต จะได้ใช้เป็นแนวทางดำเนินการ ได้ อย่างไรก็ดี การมีกฎหมายนี้ไม่ใช่ว่าประชาชนจะชุมนุมไม่ได้เลย แต่ในเรื่องของการใช้พื้นที่ การใช้ช่องทางเดินรถ และการใช้เครื่องขยายเสียงที่ไปรบกวนประชาชน ควรต้องมีการ ขออนุญาตก่อน

 

แม้ พล.ต.อ.อิสระพันธ์ จะชี้แจงย้ำถึงหลักการและเหตุผลของการเสนอร่างกฎหมาย นี้ แต่ถูกสมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายคัดค้าน มีเพียงนายวิทย์ รายนานนท์ อภิปรายสนับสนุน ในที่สุดหลังการอภิปรายนาน 1 ชั่วโมงครึ่ง พล.ต.อ.อิสระพันธ์ ได้ยอมถอนร่างกฎหมายนี้ออกไป โดยกล่าวว่า แม้พวกตนเห็นว่าประเทศ ควรมีกติกาเหมือนกับประเทศอื่นใช้ แต่ขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อ จึงอาจไม่เหมาะสม ในฐานะผู้เสนอ ตนขอถอนร่างกฎหมายฉบับนี้

 

 

ประธาน กกต.เผย อาจจัดเลือกตั้งได้ในวันที่ 23 ธ.ค. หรือ ต้นม.ค.51

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า การจัดการเลือกตั้งทั่วไป อาจเป็นวันที่ 23 ธ.ค.นี้ หรือต้นเดือนม.ค.51 เนื่องจาก กกต.ต้องใช้เวลาศึกษาข้อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งมีรายละเอียดมาก

 

เขากล่าวว่า กกต.จะเร่งหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพรรคการเมือง เพื่อหารือว่ามีความพร้อมมากเพียงใด เนื่องจากเห็นว่า ยังมีปัญหาเรื่องระยะเวลา

 

"ที่ผมเคยระบุว่า สามารถจัดการเลือกตั้งวันที่ 16 ธันวาคม คงต้องเลื่อนออกไป อาจเป็นวันที่ 23 ธันวาคมหรือต้นเดือนมกราคม ปี 51 เป็นเวลาที่เหมาะสมกว่า เพราะขณะนี้กฎหมายลูกยังไม่ออกมา พรรคการเมืองอาจมีปัญหาติดขัดเรื่องระยะเวลา" นายอภิชาต กล่าว

ประธาน กกต. กล่าวว่า จะหารือกับนายกรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งให้เหมาะสม ในการจัดทำปฏิทินการเลือกตั้งให้เหมาะสมที่สุด

 

 

 

ปชป.เตรียมลุยอีสาน หลังคะแนนไม่รับ รธน.มากกว่ารับ

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกสำนักเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม ได้หยิบยกผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญมาพิจารณาถึงเขตที่มีคะแนนไม่รับสูงกว่ารับ เพื่อนำมาปรับยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งที่ประชุมได้เสนอยุทธศาสตร์ "ประชาธิปัตย์อีสาน โดยคนอีสาน เพื่อคนอีสาน" โดยจะไม่มี ส.ส.จากภาคอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องในการทำกิจกรรมทางการเมืองโดยเด็ดขาด แต่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกอีสานโดยแท้เป็นผู้กำหนดยุทธศตร์และวางแผนหาเสียง ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มอดีต ส.ว.และเอ็นจีโอ ประมาณ 10 คน มาร่วมอุดมการณ์พรรคด้วย โดยในวันที่ 28 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมผู้รับผิดชอบภาคอีสานชุดใหม่ ที่ที่ทำการพรรค

 

นายเทพไท กล่าวว่า นอกจากนี้ ในวันที่ 22 ส.ค. เวลา 14.00 น. จะมีการประชุมอดีตส.ส.ภาคใต้ทั้งหมด เพื่อกำหนดตัวผู้สมัครในพื้นที่ที่ยังไม่มีส.ส.ของพรรค และในจังหวัดที่มีจำนวนส.ส.เพิ่มขึ้น คือ จ.กระบี่และนราธิวาส รวมถึงพื้นที่ ที่ส.ส.เดิมไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง 2 คน คือ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช และนายสุวิทย์ เสงี่ยมกุล อดีตส.ส.ภูเก็ต รวมถึงอดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่ประกาศตัวล้างมือทางการเมือง นอกจากนี้จะสอบถามอดีตส.ส.ว่าคนไหนจะลงสมัครในระบบเขต บัญชีรายชื่อและยุติบทบาททางการเมือง เพื่อที่จะสามารถเตรียมคนรุ่นใหม่มาสานต่ออุดมการณ์

 

 

ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ต่อต้านการทุจริต เพิ่มอำนาจ ป.ป.ช.

กรมประชาสัมพันธ์ - คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. เสริมตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต เพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สิน-ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน

 

นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบผลการพิจารณาและศึกษาพันธกรณีต่างๆ ของไทยตามอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ.2003 และอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535  รวม 2 ฉบับ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เพื่อให้เป็นไปตามอนุสัญญาสหประชาชาติ  ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต

 

โดย พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ มีสาระสำคัญกำหนดให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจดำเนินการตามคำร้องความช่วยเหลือจากต่างประเทศ และกรณีมีคำพิพากษาของรัฐต่างประเทศว่า จำเลยกระทำความผิดอาญา และรัฐต่างประเทศนั้นสูญเสียทรัพย์สิน เนื่องจากการกระทำความผิดนั้น หากทรัพย์สินที่พึงริบอยู่ในเขตอำนาจศาลไทย ให้รัฐต่างประเทศอาจดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา เพื่อติดตามทรัพย์สินคืน และหากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยปราศจากมูล อันจะอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และคำร้องของผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของทรัพย์สินฟังไม่ขึ้น ให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน

 

สนธิระบุ"มัชฌิมา-รวมใจไทย"ไม่ใช่นอมินีของทหาร ย้ำขณะนี้ยังไม่คิดเล่นการเมือง

กรมประชาสัมพันธ์ - ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ปฏิเสธแกนนำพรรครักชาติทาบทามลงเล่นการเมือง ส่วนกรณีกลุ่มมัชฌิมา และกลุ่มรวมใจไทย ประกาศรวมกลุ่มตั้งพรรคการเมืองใหม่ ก็ไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นนอมินีของทหาร

 

พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. กล่าวภายหลังออกรอบตีกอล์ฟร่วม กับ คณะผู้บัญชาการเหล่าทัพในการแข่งขันกอล์ฟประเพณีกองทัพไทย ครั้งที่ 23 ที่สนามกรีน วัลเล่ย์คันทรี่คลับ ย่านบางนา-ตราด โดยยืนยัน ยังไม่คิดตัดสินใจลงเล่นการเมืองในช่วงนี้ พร้อมปฏิเสธแกนนำพรรครักชาติทาบทามลงเล่นการเมือง ส่วนกลุ่มมัชฌิมา และกลุ่มรวมใจไทยประกาศรวมกลุ่มตั้งพรรคการเมืองใหม่ยืนยันไม่ได้เป็นพรรคตัวแทนหรือนอมินีของทหาร เช่น พรรคสามัคคีธรรมในอดีต ซึ่งหากศึกษาลักษณะของกลุ่มมัชฌิมา และกลุ่มรวมใจไทยจะเข้าใจว่าทั้ง 2 กลุ่มมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะไม่เกิดมาเป็นพรรคเฉพาะกิจเพื่อให้ทหารเข้าไปสังกัดเพื่อลงเล่นการเมือง

 

ครม.อนุมัติกล้องซีซีทีวี

ไอ.เอ็น.เอ็น.- ครม.อนุมัติงบประมาณ 969 ล้านบาทติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ตามการเสนอของมหาดไทย

 

นายโชติชัย สุวรรณภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ969 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ ซีซีทีวีในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเป็นงบประมาณของปี 2550  147 ล้านบาท และงบประมาณปี 2551 822 ล้านบาท จากการเสนอของกระทรวงมหาดไทยทั้งนี้เพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้

 

ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้ถอนเรื่องการขอรับสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อรถดับเพลิงเพื่อใช้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปโดยจะมีการนำเสนอใหม่อีกครั้งในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า

 

 

 

เศรษฐกิจ

 

 

ครม.อนุมัติคลังถอนร่าง กม.สรรพากร 15 ฉบับ

ผู้จัดการออนไลน์ - คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงการคลังถอนร่างกฎหมายของกรมสรรพากร 15 ฉบับ จากการพิจารณาของกฤษฎีกา พร้อมอ้างนโยบายยังไม่ชัดเจน และสถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงหลายด้าน จึงขอหารือกับหลายฝ่าย จากนั้นจึงกลับมาเสนออีกครั้ง

 

นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กระทรวงการคลังถอนร่างกฎหมายของกรมสรรพากร ตามแผนพัฒนากฎหมายประจำปี 2548 และปี 2549 เพราะรัฐบาลมองว่า ยังไม่จำเป็นเร่งด่วน เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไป มีหลายปัจจัยได้เปลี่ยนแปลง และนโยบายยังไม่ชัดเจน ดังนั้น จึงต้องการหารือกับนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำกฎหมายดังกล่าวกลับไปแก้ไข และนำกลับมาเสนอ ครม.อีกครั้ง เช่น มาตรา 48 การปรับจำนวนเงินได้พึงประเมินขั้นต่ำ กรณีผู้มีเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 0.5 ของยอดเงินได้พึงประเมิน โดยแก้ไขจาก 60,000 บาท เป็น 200,000 บาท, มาตรา 42 ตรี ได้ปรับปรุงการหักค่าใช้จ่ายสำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (1) และ (2) จากปัจจุบันให้หักค่าใช้จ่ายเหมารวมกันได้ไม่เกินร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 60,000 บาท ได้แก้ไขเพิ่มเป็นร้อยละ 60 แต่รวมกันไม่เกิน 100,000 บาท

 

สำหรับมาตรา 66/8 วรรคสอง ได้ปรับปรุงกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย ไม่ต้องออกใบกำกับภาษีให้สูงขึ้น จากยอด 1,000 บาท เพิ่มเป็น 5,000 บาท และในมาตรา 105 (1) แก้ไขให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องออกใบกำกับภาษีในทันทีทุกคราวที่รับเงินหรือรับการชำระราคาให้สูงขึ้น การแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 39 ให้กองทุนรวมนำผลประโยชน์จากการโอนหน่วยลงทุนมาเป็นรายได้พึงประเมิน ซึ่งจะทำให้ผู้โอนหน่วยลงทุนในกองทุนรวมมีภาระภาษีเท่าเทียมกัน และการแก้ไขให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวม โดยไม่รวมถึงเงินที่ได้รับจากการขายหน่วยลงทุนให้แก่กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ตลอดจนการลดอัตราหักค่าใช้จ่าย ในการเก็บค่าต๋ง ค่าเกมจากการพนัน และรางวัลที่เจ้าของม้าได้จากการส่งม้าแข่งขัน จากปัจจุบันร้อยละ 65 และ 80 แก้ไขเป็นร้อยละ 50 ซึ่งการแก้ไขกฎหมายฉบับต่าง ต้องหารือกับนักวิชาการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะเสนอที่ประชุม ครม.อีกครั้งหนึ่ง

 

 

 

ต่างประเทศ

 

 

อิสราเอลกันข่าวรั่ว! สั่งห้าม รมต.ถือฮัลโหลเข้าห้องประชุม

ผู้จัดการออนไลน์ - สถานีวิทยุของกองทัพอิสราเอล รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเอฮุด โอลเมิร์ตของอิสราเอล ได้มีคำสั่งห้ามรัฐมนตรีนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องประชุม โดยมีผลเมื่อวันอังคาร (21) ที่ผ่านมา กฎดังกล่าวระบุให้รัฐมนตรีทุกคนต้องฝากโทรศัพท์มือถือไว้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนเข้าห้องประชุม และสามารถรับโทรศัพท์มือถือคืนหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลง

 

ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่แล้ว นายกฯ โอลเมิร์ตได้ตำหนิรัฐมนตรีคนหนึ่งซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่ออย่างรุนแรง ฐานคุยโทรศัพท์มือถือในห้องประชุมขณะที่หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลกำลังสรุปประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคงต่อที่ประชุม

 

ปัญหาความลับรั่วไหลจากฝีมือของเจ้าหน้าที่อิสราเอลเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในแวดวงการเมืองอิสราเอล ไม่ยกเว้นแม้แต่ข้อมูลลับสุดยอดซึ่งมักถูกนำไปเปิดเผยบนหน้าหนังสือพิมพ์ โดยเป็นที่รู้กันว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลมักจะโทรศัพท์ไปหานักข่าวขณะอยู่ในห้องประชุม ก่อนที่จะปล่อยสายทิ้งไว้ เพื่อให้นักข่าวฟังเรื่องราวที่มีการพูดคุยกันในห้องประชุมดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท