Skip to main content
sharethis

ประวิตร โรจนพฤกษ์


ร่างรัฐธรรมนูญที่ทหารผลักดันเข้าสู่กระบวนการประชามติในวันอาทิตย์นี้ถือได้ว่าเป็นร่างที่หมกเม็ดและอัปยศ และหากประชาชนรับร่างนี้ไป ทหารและข้าราชการจะปกครองประชาชนอย่างแทบมิสามารถตรวจสอบได้ แต่ที่สำคัญกว่าคือความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องส่งสัญญาณว่า ไม่เอา เพื่อที่ว่าบรรดานายพลจะได้เข้าใจว่าประชาชนจะไม่ยอมให้ทหารปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยครึ่งผีครึ่งคน โดยที่ประชาชนในฐานะพลเมืองแทบไม่มีบทบาทและเพื่อที่ว่า จะเป็นการป้องกันมิให้มีการก่อรัฐประหารอีกในอนาคต


            หลังจากทหารก่อรัฐประหารได้ไม่นาน พวกเขาก็ได้วางแผนร่างรัฐธรรมนูญโดยที่ตัวนายพลเหล่านี้เข้าไปยุ่งย่ามในเกือบทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งสมาชิก ส.ส.ร. และกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยที่เพื่อนฝูงนายพลจำนวนหนึ่งก็ได้รับการแต่งตั้งอยู่ในสองกลุ่มนั้นด้วย รวมถึงการออกมาเชียร์ให้คนไปโหวตรับร่างนี้ในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันหากมองเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนก็จะเห็นได้ว่า กรรมการการเลือกตั้ง 2 คน ได้รับแต่งตั้งจากทหารให้เป็นสมาชิกกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ในขณะที่พวกเขาทั้งสองก็จะมาจัดการดูแลการลงประชามติในวันอาทิตย์นี้


            บรรดานายพลซึ่งฉีกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 2540 กลับมาบอกประชาชนว่า พวกเราควรรับร่างรัฐธรรมนูญที่ทหารสนับสนุนอยู่ ณ ปัจจุบัน ตัวพลเอกสนธิ บุญยรัตกลินเอง ก็เคยอ้างว่าได้ก่อรัฐประหารเพื่อนำประชาธิปไตยกลับมาอีกครั้ง หากทว่าเกือบ 1 ปีผ่านไป ประชาชนและสื่อก็ต้องมานั่งคาดเดากันทุกวันว่า ตกลงนายพลคนนี้จะลงเล่นการเมืองหรือไม่


            หลายครั้งที่กรรมาธิการฯ ประชุมกัน สื่อที่ติดตามการประชุมก็มักได้ยินคำพูดจากกรรมาธิการ บางคน ว่า ประชาชนไร้การศึกษาและไม่สามารถตัดสินใจกำหนดอนาคตด้วยตนเองได้ จึงไม่น่าแปลกที่ว่าในที่สุด พวกเขาก็ผลิตร่างรัฐธรรมนูญที่ ส.ว. เกือบครึ่งจะมาจากการแต่งตั้ง และก็ยังมีเรื่องแบล็กเมลอีก หรืออาจเรียกว่าขู่กรรโชกก็ได้ เพราะสาธารณะไม่รู้ว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับทหารไม่ผ่าน คมช. และรัฐบาลจะนำเอารัฐธรรมนูญเก่าฉบับใดมาปรับใช้และปรับอย่างไร นี่ก็เหมือนกับการข่มขู่บอกประชาชนว่า - เธอรับร่างนี้ซะ - มิเช่นนั้น ...


            ในขณะเดียวกันร่างนี้ยังได้นิรโทษกรรมทหารเผื่อสำหรับการกระทำชั่วๆ ผิดกฎหมายในอนาคตต่อไป


            มาดูเรื่องบัตรลงประชามติก็จะพบว่าไม่มีช่องที่สาม สำหรับโนโหวตเพื่อผู้ที่ต้องการปฏิเสธกระบวนการที่ไร้ความชอบธรรมนี้ กกต.ได้เพียงพูดอิดเอื้อนว่า มาบอกทีหลังทำไมแก้บัตรลงคะแนนไม่ทันแล้ว ส่วนบรรดาพวกที่ออกรณรงค์ต้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับทหารก็ถูกข่มขู่คุกคาม สติ๊กเกอร์ไม่เอาร่าง ซึ่งพบตามแท็กซี่ก็ถูกทำให้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย รัฐบาล (ซึ่งทหารแต่งตั้ง) แทนที่จะเป็นกลางกลับออกมาเชียร์ให้ประชาชนรับร่างเสียเอง ในขณะที่กว่า 30 จังหวัด ยังคงตกอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกในวันอาทิตย์นี้ รัฐบาลลดแลกแจกแถมถึงขนาดประกาศว่าราคารถไฟชั้นสองชั้นสามและรถ บขส. วิ่งต่างจังหวัดลดครึ่งราคา แถมวันอาทิตย์นี้ นั่งรถเมล์และรถไฟใต้ดินฟรีอีกต่างหาก


            พวกเขาไม่ละอายในการกระทำเหล่านี้เลยหรือ


            ในแง่เนื้อหาแล้ว ร่างฉบับทหารนี้นอกจากจะไม่ไว้วางใจประชาชนโดยมีการแต่งตั้ง ส.ว. จำนวนหนึ่งแล้วร่างนี้ยังจะดึงเอาบรรดาผู้พิพากษาเข้ามาคลุกเคล้าการเมืองโดยให้อำนาจพวกเขาแต่งตั้งคณะกรรมการในองค์กรอิสระ และ ส.ว. สิทธิและเสรีภาพที่บรรดาผู้ร่างคุยหนักหนาก็จะถูกยกเลิกได้หากกฎหมายความมั่นคงผ่าน การเขียนเผื่อให้มีการยกเว้นเพื่อสอดคล้องกับกม ความมั่นคงนี้เป็นการหมกเม็ดอย่างชัดเจน


            ในขณะเดียวกัน งบทหารจะต้องถูกเพิ่มเพราะมีการเขียนไว้ชัดในร่างฉบับทหารว่าเป็นหน้าที่ของรัฐ แต่ในขณะเดียวกันไม่มีการเพิ่มเติมกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุล อิทธิพลทหารหรือป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารอีกในอนาคต


            ใช่ ผู้เขียนยอมรับว่ามีบางมิติของร่างฉบับทหารที่ถือได้ว่าดีและก้าวหน้า และ กรรมาธิการบางคนก็น่าจะมุ่งหวังให้เกิดสิ่งดีๆ แต่เมื่อเรามองภาพใหญ่และบริบทเราต้องถามว่าร่างฉบับทหารนี้มีความหมายนัยยะอันใด และก็จะได้คำตอบว่าเราต้องปฏิเสธไม่รับร่างฉบับนี้เพราะหากรับก็เท่ากับเป็นการให้ความชอบธรรมแก่คณะรัฐประหาร และเอื้อให้เกิดรัฐประหารอีกในอนาคต


            อาจมีคนจำนวนหนึ่งพยายามทำให้คุณเชื่อว่าคุณต้องเลือกระหว่างสิ่งที่เลวร้ายน้อยกว่า - ระหว่างทักษิณ ชินวัตร กับ ทหารบ้าปฏิวัติ - แต่ในความจริงแล้ว เราสามารถเลือกทางที่สามได้ ทางเลือกที่สามจะวางรากฐานเพื่อให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้ และเสริมสร้างประชาธิปไตยแบบไม่ต้องพึ่งพาผู้อุปถัมภ์ทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจที่กระโดดลงเลือกตั้ง หรือทหารและผู้อุปถัมภ์ของนายพลเหล่านั้น ที่ต้องการเพียงแค่ "ปกครอง" อยู่เหนือประชาชน และหาผลประโยชน์เข้าตน


            กรุณาถามตนเองว่า ทำไมกว่า 7 ทศวรรษหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประเทศนี้จึงได้เกิดรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่ารัฐธรรมนูญถูกฉีกแล้วฉีกอีก จนคนส่วนใหญ่จำไม่ได้เสียแล้วว่าปฏิวัติกันมากี่ครั้ง มีรัฐธรรมนูญกันมากี่ฉบับแล้ว


            พลเมืองทั้งหลาย อย่าหลงเชื่อว่าเส้นทางสู่ประชาธิปไตยนั้นมีทางลัด โดยที่ไม่ต้องออกหยาดเหงื่อหรือเสียเลือดเนื้อ เส้นทางนั้นคดเคี้ยว เต็มไปด้วยหลุมบ่อ แต่พลเมืองจะต้องเลือกสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรม เราไม่สามารถทำสิ่งที่ถูกต้อง โดยวิธีการอันมิชอบธรรมได้ และมันรังแต่จะสร้างปัญหามากขึ้นในอนาคต พวกเราควรออกมาช่วยกันยุติวงจรอุบาทว์ของการรัฐประหารและทำลายรัฐธรรมนูญ


            การยุติวงจรอุบาทว์นี้จะต้องเริ่มขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง และข้าพเจ้าเห็นว่าเราควรเริ่มกันวันอาทิตย์นี้เลย โดยออกไปบอกบรรดานายพลเหล่านี้ว่า พวกเราจะไม่ยอมให้เขาลากเมืองไทยกลับสู่ยุคมืด ยุคที่ประชาชนถูกปกครองกดขี่ดั่งไพร่ และวัฎจักรก่อรัฐประหารดำรงอยู่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถึงแม้ทางออกอาจมองไม่เห็นชัดหลังวันลงประชามติ แต่พวกเราสามารถส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปให้บรรดาทหารให้ทราบว่า พอเสียที พวกคุณหมดเวลาแล้ว การโหวต NO ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อพวกเราแต่เพื่อประวัติศาสตร์และเพื่ออนาคตของลูกหลานเรา - เพื่อที่ว่าสักวันหนึ่ง เมืองไทยจะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงและประชาชนพลเมืองจะมีสิทธิและเสรีภาพตามที่พึงมี


 


หมายเหตุ -- อ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษได้ที่ Why the draft charter should be rejected


อีกด้านหนึ่ง Why my conscience tells me to vote 'yes'

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net