Skip to main content
sharethis




เนื่องจากการลงคะแนนประชามติ ในวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคมนี้ จะมีรูปแบบการนับคะแนนต่างจากการเลือกตั้งในทุกครั้งที่ผ่านมา ที่เมื่อถึงเวลาปิดหีบบัตรแล้ว หีบทั้งหมดจะถูกยกไปเพื่อนับคะแนนรวมกันที่สำนักงานเขต แต่สำหรับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ การนับคะแนน จะยังคงอยู่ที่หน่วยออกเสียงประชามติ ซึ่งเป็นหน่วยย่อยกว่า นั่นแปลว่า มีจำนวนมากขึ้น นำมาสู่ความต้องการการร่วมกันตรวจสอบที่เพิ่มมากขึ้นด้วย


 


iReport เชิญชวนประชาชนทุกท่านเป็นนักข่าวพเนจรในวันลงคะแนนประชามติครั้งแรกของประเทศไทย ผ่านการมีส่วนร่วมในการจับตากระบวนการทั้งหมด ด้วยการสังเกต เก็บบรรยากาศหลักฐาน แล้วส่งข้อเขียน รูปภาพ และภาพเคลื่อนไหว มายังพื้นที่ของ "นักข่าวพเนจร ประชาไท ireport" http://www.prachatai.com/ireport/


 


สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เพื่อให้การประชามติโปร่งใส บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม ประชาชนสามารถช่วยกันจับตาประชามติครั้งนี้ได้ โดยสังเกตตั้งแต่ก่อนวันลงประชามติ ว่ามีการใช้เงิน ใช้อิทธิพลอำนาจ เกณฑ์คน หรือแจกสิ่งของเพื่อให้ไปลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่


 


ส่วนในวันลงประชามตินั้น สามารถเฝ้าดูบริเวณหน่วยลงคะแนนได้ โดยการสังเกตว่า เมื่อถึงเวลา 8.00น. ซึ่งเป็นเวลาเปิดหีบ หีบบัตรว่างเปล่าหรือไม่ กรรมการประจำหน่วยมาครบหรือไม่ หากไม่ครบ มีการตั้งใครมาเป็นกรรมการแทนอย่างมีเลศนัยหรือไม่ เนื่องจากอาจมีการบอกให้กรรมการไม่ต้องมาทำหน้าที่ เพื่อแต่งตั้งคนของตนเองเข้าไปคุมการลงคะแนนแทน


 


นอกจากนี้ ในเวลาที่ตัวเองไปใช้สิทธิ์ลงประชามติ ก็สามารถสังเกตขั้นตอนต่างๆ ว่าถูกต้องหรือไม่ เช่น มีการตรวจบัตรประชาชนหรือไม่ มีการขานชื่อหรือไม่ รายชื่อผู้ไปขอใช้สิทธิ์ตรงกับรายชื่อผู้มีสิทธิ์ไหม


 


ต่อมา เมื่อถึงเวลาปิดหีบในเวลา 16.00น. มีการปิดหีบตรงเวลาหรือไม่ เมื่อมีการขนหีบบัตรไปยังอำเภอ ควรช่วยกันติดตามว่าหีบบัตรดังกล่าวไปถึงจุดนับคะแนนในเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ เช่น หากระยะทางไม่ไกลนัก แต่ใช้เวลานาน ก็น่าสงสัย และเมื่อมีการนับคะแนน ก็ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการนับคะแนน เนื่องจากกรรมการประจำหน่วยอาจนับหรือขานคะแนนผิดพลาดได้


 

นอกจากนี้ ในวันดังกล่าว จะมีเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (The Asian Network for Free Elections - ANFREL) ร่วมจับตาในบางพื้นที่ สมศรี หาญอนันทสุข ผู้อำนวยการ ANFREL กล่าวว่า ในวันลงประชามติ ทางเครือข่ายจะร่วมสังเกตการณ์ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และกรุงเทพฯ


 


สิ่งที่จะสังเกตได้ เช่น การสังเกตว่า มีการขนคนมาลงคะแนนเป็นกลุ่มใหญ่หรือไม่ มีการแจกเงินหน้าหน่วยลงคะแนนหรือไม่ มีทหารมารณรงค์ให้รับหรือไม่ โปสเตอร์รณรงค์ต่างๆ ยังมีติดอยู่ตามคูหาลงคะแนนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยลงคะแนนได้แสดงตนเช่น ใส่สีเสื้อหรือสัญลักษณ์ ซึ่งมีความหมายใดเป็นพิเศษหรือไม่


 


ด้านชูวัส ฤกษ์ศิริสุข บรรณาธิการเว็บไซต์ประชาไทกล่าวถึงความสำคัญของการที่ประชาชนทั่วไป บุคคลธรรมดา ร่วมกันจับตาการลงประชามติว่า "การจับตานั้น ในทางหลักการแล้ว มันแสดงความเป็นเจ้าของประเทศที่ไม่ยอมปล่อยให้ใครมากำหนดชะตากรรมของเรา และเป็นพยานร่วมกันในหน้าประวัติศาสตร์ เพื่อจะวัดว่า การประชามติที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของเรา หรือมีความชอบธรรมหรือไม่ ไม่ใช่ใครจะมัดมือชกเรา


 


"การทำประชามติครั้งนี้เป็นการแข่งกับรัฐ ไม่เหมือนการเลือกตั้งทั่วไป เพราะการเลือกตั้งทั่วไป คู่แข่งตรวจสอบกันเองด้วย แต่คราวนี้เป็นการเลือกที่ผู้จัดมีประโยชน์ทับซ้อน แม้จะเป็นกรรมการกลางอย่างกกต.ก็ตาม"


 


เขากล่าวว่า ประชาชนจะมีบทบาทด้วยการพิจารณาว่า การแข่งขันนี้เป็นธรรมหรือไม่ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ในช่วงรณรงค์ และความหมายนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าเราตรวจสอบรัฐ แปลว่าเรามิใช่ไพร่ แต่เป็นเจ้าของประเทศ การมองรัฐว่าเป็นอีกส่วนที่เราต้องตรวจสอบ คือบอกว่าเราไม่ใช่ข้าของรัฐ แต่เป็นเจ้าของ


 


ทั้งนี้ หากพบข้อสังเกต ประชาชนทั่วไป ก็สามารถส่งต่อข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ ด้วยวิธีการสื่อสารอย่างง่ายๆ ช่วยกันส่งข้อมูล ผ่านการเป็นนักข่าวพเนจร โดยส่งข้อมูลไปทาง ireport - http://www.prachatai.com/ireport/

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net