ประชาไท - 9 ส.ค. 50 ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีชนเผ่าพื้นเมืองจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย กว่า 17 ชนเผ่า อาทิ ปกาเกอะญอ ลาหู่ลีซู อาข่า ม้ง เมี่ยน ไทใหญ่ ปะหล่อง ลั๊วะ คะฉิ่น มอแกน มอแกลน อูรักลาโว้ย กลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ลาวอพยพ ฯลฯ กว่า 500 คน ร่วมกันเดินรณรงค์เนื่องใน "วันชนเผ่าพื้นเมืองโลกในประเทศไทย" ครั้งที่ 1 โดยได้เริ่มเดินขบวนออกจากบริเวณวัดสวนดอก ผ่านประตูท่าแพ เลียบเลาะมาทางคูเมืองด้านประตูช้างเผือก ก่อนมาสิ้นสุดบริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ก่อนจะมีการประกาศเจตนารมณ์ของการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากเอาวันที่ 9 ส.ค.ของทุกปีเป็นวันชนเผ่าโลก
นายเกิด พนากำเนิด ผู้นำชนเผ่าม้ง และรองประธานกรรมการจัดงานวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึงพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ผ่านนายชุมพร แสงมณี ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ โดยขอให้รัฐบาลไทยปฏิบัติและมีมาตรการคุ้มครองสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยตามกติการะหว่างประเทศและอนุสัญญาที่ประเทศไทยได้ลงนามในสัตยาบันไว้กับองค์การสหประชาชาติอันประกอบด้วยอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก,อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ,กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง,กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และอนุสัญญาการเลือกปฏิบัติต่อสตรี รวมทั้ง ให้เร่งดำเนินการศึกษาเพื่อลงนามในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ 169 ว่าด้วยปวงชนพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศเอกราช และอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ โดยประเทศไทยจะต้องยกเลิกข้อสงวนที่ลงนามในอนุสัญญาทุกฉบับโดยเฉพาะสิทธิเด็ก
นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการคุ้มครองสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยโดยขอให้ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเป็นกรณีเร่งด่วน คือ 1.รัฐต้องเร่งแก้ไขปัญหากรณีที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย และยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย โดยทันที 2.ให้รัฐต้องเร่งช่วยเหลือกรณีชาวมอแกน 19 คน จากเกาะเหลา เกาะช้าง จังหวัดระนอง ที่ถูกทางการอินเดียจับกุม คุมขังกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็ว 3.ในระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยตามข้อเรียกร้องข้างต้น เราขอให้รัฐบาลสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยุติการจับกุมดำเนินคดี อพยพ รื้อย้าย จนกว่าการไขปัญหาตามหลักการข้างต้นจักแล้วเสร็จ กรณีที่ได้จับกุมดำเนินคดีไปแล้วให้ดำเนินการถอนฟ้องอย่างเป็นธรรม
ในขณะที่ นายมนูญ ไทยนุรักษ์ ตัวแทนกรรมการจัดงานวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ได้ยื่นข้อเสนอต่อเลขาเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ดังต่อไปนี้คือ 1.ผลักดันให้ประเทศไทย สร้างมาตรการคุ้มครองสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ตามกติการะหว่างประเทศและอนุสัญญาที่ได้ลงนามในสัตยาบันไว้กับองค์การสหประชาชาติ อันประกอบด้วย อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก, อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ, กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง,กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และอนุสัญญาการเลือกปฏิบัติต่อสตรี รวมทั้ง ให้เร่งดำเนินการศึกษาเพื่อลงนามในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ 169 ว่าด้วยปวงชนพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศเอกราช และอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ โดยประเทศไทยจะต้องยกเลิกข้อสงวนที่ลงนามในอนุสัญญาทุกฉบับโดยเฉพาะสิทธิเด็ก
2.ให้องค์การสหประชาชาติ สร้างกลไกการตรวจสอบการละเมิดสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ทั้งการนโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการที่ดินที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน การอพยพโยกย้ายออกจากถิ่นฐานเดิม การจำกัดสิทธิการพัฒนาและการเข้าถึงบริการของรัฐ การกดขี่แรงงาน และกรณีอื่นอย่างเป็นรูปธรรม และ 3.เร่งผลักดันประเทศไทยเร่งลงนามใน "อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิชนเผ่าพื้นเมือง" โดยเร็ว
ในตอนท้าย นายจอนิ โอ่โดเชา ประธานกรรมการจัดงานวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย คำประกาศเจตนารมณ์ "วันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย"โดยความตอนหนึ่งระบุชัดเจนว่า เพื่อสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีดังกล่าวได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นจริง ขอประกาศจัดตั้งให้ "วันที่ 9 สิงหาคม" ของทุกปีเป็น "วันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย" และ ขอประกาศจัดตั้ง "เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย"เพื่อดำเนินการสร้างกิจกรรมในการรังสรรค์ สร้างความสมานฉันท์ในสังคมพี่น้องชนเผ่าโลก
ศูนย์ประสานงานกลางคณะกรรมการจัดงานวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย สำนักงานสมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขาใน ประเทศไทย ๒๕๒ ม.๒ ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ๕๐๒๑๐ ที่ พิเศษ ๐๑๙/๒๕๕๐ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๐ เรื่อง ขอเสนอข้อเรียกร้องเนื่องในวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย กราบเรียน ฯพณฯ พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี สิ่งที่ส่งมาด้วย รายละเอียดข้อเสนอของคณะกรรมการจัดงานวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ๑ ชุด สืบเนื่องมาจาก"คณะกรรมการจัดงานวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย" อันประกอบด้วยผู้แทนเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย คนไทยใหม่ ไทยพลัดถิ่น มอแกน มอแกลน อุรักละโว้ย องค์กรพัฒนาเอกชนที่เกี่ยวข้องได้จัดให้มีการสัมมนาขึ้น เนื่องใน "วันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย" เพื่อนำเสนอปัญหาและรณรงค์ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ในระหว่างวันที่ ๘ - ๙ สิงหาคม ๒๕๕๐ ณ ม.เชียงใหม่ และลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จ.เชียงใหม่นั้น คณะกรรมการจัดงานฯ จึงกราบเรียนมายัง ฯพณฯ เพื่อขอเสนอข้อเรียกร้องเนื่องในวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยดังต่อไปนี้ ๑.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติและมีมาตรการคุ้มครองสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยตามกติการะหว่างประเทศและอนุสัญญาที่ประเทศไทยได้ลงนามในสัตยาบันไว้กับองค์การสหประชาชาติ อันประกอบด้วย อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก, อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ, กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง,กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และอนุสัญญาการเลือกปฏิบัติต่อสตรี รวมทั้ง ให้เร่งดำเนินการศึกษาเพื่อลงนามในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ 169 ว่าด้วยปวงชนพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศเอกราช และอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ โดยประเทศไทยจะต้องยกเลิกข้อสงวนที่ลงนามในอนุสัญญาทุกฉบับโดยเฉพาะสิทธิเด็ก ๒.เราขอเรียกร้องรัฐบาลไทยมีกฎหมายและมาตรการมารับรองสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยอย่างชัดเจนตามข้อเสนอข้างต้นที่ชัด โดยให้รัฐบาลไทย รับรองให้วันที่ ๙ สิงหาคมของทุกปีเป็น "วันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย" และต้องสนับสนุนกิจกรรมและงบประมาณในการทำกิจกรรมรณรงค์ ทั้งนี้เป็นไปตามคำประกาศองค์การสหประชาชาติ ซึ่งประกาศให้ปี 2548 -2557 เป็นทศวรรษสากลที่สองของชนเผ่าพื้นเมืองโลก ๓.เราขอเรียกร้องให้ รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการคุ้มครองสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ดังนี้ ๓.๑ ให้เด็กทุกคนที่เกิดในแผ่นดินไทย ได้สัญชาติไทยโดยหลักดินแดน ๓.๒ ให้รัฐบาลไทยแก้ไข พ.ร.บ.สัญชาติฉบับที่ ๔ โดยมีรายละเอียดตามเอกสารแนบ ๓.๓ ให้ส่งเสริมบทบาทผู้หญิงชนเผ่าพื้นเมือง ทั้งทางการเมือง และการพัฒนา ๓.๔ รัฐต้องสนับสนุนส่งเสริม การศึกษาทางเลือกของชนเผ่าพื้นเมืองโดยไม่จำกัดเพศและวัย ๓.๕ รัฐต้องคืนสิทธิการจัดการทรัพยากรให้แก่ชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย เร่งออกกฎหมายป่าชุมชน รวมทั้งรัฐต้องยกเลิกโครงการและนโยบายที่มีผลกระทบและก่อความเสียหายแก่ชุมชนและท้องถิ่น ๓.๖ รัฐต้องมีมาตรการส่งเสริมสิทธิชุมชน ทั้งสิทธิและอำนาจในการจัดการทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม สร้างกลไกให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ รวมถึงรัฐต้องมีมาตรการทางนโยบายและกฎหมายรองรับในการบัญญัติระเบียบสิทธิชุมชนระดับชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง ๓.๗ รัฐต้องมีมาตรการให้ชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยทุกภาคส่วน สามารถเข้าถึงการบริการของรัฐ ทั้งทางด้านการศึกษา สาธารณสุข และการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ๓.๘ รัฐต้องให้การคุ้มครองสวัสดิการแรงงาน สร้างหลักประกันสังคม ตามกฎหมายแรงงานระหว่างประเทศให้แก่ชนเผ่าพื้นเมืองและแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย ตามหลักกฎหมายมนุษยชนสากล ๓.๙ รัฐต้องคุ้มครองพื้นที่ทางวัฒนธรรม "พื้นที่วัฒนธรรมพิเศษ" ในพื้นที่ที่มีชนเผ่าพื้นเมืองอาศัยอยู่ โดยให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชน ๔. ข้อเสนอกรณีเร่งด่วน ๔.๑ รัฐต้องเร่งแก้ไขปัญหากรณีที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย และยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย โดยทันที ๔.๒ ให้รัฐต้องเร่งช่วยเหลือกรณีชาวมอแกน ๑๙ คน จากเกาะเหลา เกาะช้าง จังหวัดระนอง ที่ถูกทางการอินเดียจับกุม คุมขังกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็ว ๔.๓ ในระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ตามข้อเรียกร้องข้างต้น เราขอให้รัฐบาลสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยุติการจับกุมดำเนินคดี อพยพ รื้อย้าย จนกว่าการไขปัญหาตามหลักการข้างต้นจักแล้วเสร็จ กรณีที่ได้จับกุมดำเนินคดีไปแล้วให้ดำเนินการถอนฟ้องอย่างเป็นธรรม เราขอประกาศ จัดตั้ง "เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย" เพื่อติดตามข้อเรียกร้องข้างต้นต่อรัฐบาลไทยให้มีการดำเนินการปฏิบัติโดยเร่งด่วนต่อไป จึงกราบเรียน เพื่อเสนอข้อเรียกร้องเนื่องใน "วันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย" ขอแสดงความเคารพอย่างสูง (นายจอนิ โอ่โดเชา) ประธานกรรมการจัดงานวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย |
คำประกาศเจตนารมณ์ "วันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย" นับจากพวกเราในนามคณะกรรมการจัดงานวันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย อันประกอบด้วย พี่น้องผู้แทนจากเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย พี่น้องคนไทยใหม่ พี่น้องคนไทยพลัดถิ่น พี่น้องมอแกน พี่น้องมอแกลน พี่น้องอุรักละโว้ย และพี่น้ององค์กรพัฒนาเอกชนทั้งหลายที่รวมกันจัดงาน "วันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย" เพื่อนำเสนอปัญหาและรณรงค์ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ซึ่งได้มารวมกันประกาศเจตนารมณ์ ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่ ในสถานที่แห่งนี้นั้น เรา ขอประกาศว่า ผืนดิน ธรรมชาติ แม่น้ำ ทะเลและขุนเขา คือ วิถีชีวิต จิตวิญญาณ ภาษาวัฒนธรรมและความหลากหลายทางเผ่าพันธุ์เป็นสิทธิเสรีภาพโดยชอบในการดำรงวิถีชีวิตของเรา รัฐชาติผู้ซึ่งมาทีหลังก่อนการดำรงอยู่บนผืนแผ่นดินของเราจักต้องเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทุกชนเผ่า และจะละเมิดมิได้ เรา ขอประกาศว่า พี่น้องชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยและทั่วโลก คือ พี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติ อันเป็นมหามิตรกับพี่น้องประชาชนทั่วโลกโดยทั่วไป เราไม่ใช่ศัตรู หรือ ผู้น่ารังเกียจหวาดกลัวต่ออาคันตุกะ ผู้มาเยือน ในทางกลับกัน เราคือผู้ถูกเอาเปรียบ ถูกรุกรานจากการพัฒนาในนามของรัฐและทุนนิยมกดขี่ เรา ขอประกาศว่า สิทธิเสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชนเผ่าพื้นเมืองทุกชาติพันธุ์ คือ เจตนารมณ์หลัก อันเป็นภารกิจของเราที่จะผลักดันให้ได้รับการคุ้มครองและปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม เรา ขอประกาศว่า เพื่อสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีดังกล่าวได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นจริง เรา ขอประกาศจัดตั้งให้ "วันที่ 9 สิงหาคม" ของทุกปีเป็น "วันชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย" เรา ขอประกาศจัดตั้ง "เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย" เพื่อดำเนินการสร้างกิจกรรมในการรังสรรค์ สร้างความสมานฉันท์ในสังคมพี่น้องชนเผ่าโลก และผลักดันให้ข้อเรียกร้องในสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ให้ปรากฏเป็นของเรา ชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยและทั่วโลกได้รับการสถาปนาอย่างเป็นธรรมโดยแท้จริงสืบไป ด้วยจิตคารวะและศรัทธาในวิถีชีวิต ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของเผ่าชนทุกเผ่าพันธุ์ ประกาศ ณ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ดินแดนแห่งล้านนาอิสระ เชียงใหม่ ประกาศ เมื่อ วันที่ 9 สิงหาคม 2550 ประกาศโดย เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)