Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 6 ส.ค.50 เนื่องในวันรพี ทางวิทยาลัยนิติรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด จัดกิจกรรมให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย การแข่งขันตอบปัญหาทางกฎหมาย การจัดนิทรรศการทางกฎหมายและการเมืองการปกครองของไทย และการเสวนาหัวข้อ "สื่อกับการพัฒนาประชาธิปไตย" เพื่อให้ความรู้บริการประชาชนในพื้นที่ และแสดงถึงความมีเสรีภาพทางวิชาการของสถาบัน


 


ประชาไทได้สัมภาษณ์นักศึกษานักกิจกรรมของมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด เกี่ยวกับประเด็นความรู้สึกนึกคิดและการทำกิจกรรมของนักศึกษาทางภาคอิสาน นายสมพร หมื่นแสน ชมรมพลังนักศึกษาเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย และนายสุวพงษ์ โพธิ์เบี้ยศรี ชมรมนิติศาสตร์สัมพันธ์ ไว้ดังนี้


 


ในประเด็นความเคลื่อนไหวและความรู้สึกนึกคิดของประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่เกิดรัฐประหารนั้น สมพรกล่าวว่า ตอนแรกรู้สึกงงว่า มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันเป็นแบบนี้ คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านเขาไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดหรือเคลื่อนไหวอะไร เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่มันอึมครึมทำให้เกิดความกลัว


 


ส่วนประเด็นคลื่นใต้น้ำทางภาคอีสานที่กล่าวหาว่า มีการจ้างการล้มรัฐธรรมนูญ สมพรจะขอพูดแทนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดและในชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่นั้นขอยืนยันได้เลยว่าไม่มี


 


"ที่เขากล่าวหาว่าเราเห็นแก่เงินไม่กี่ร้อยบาทนั้น อยากให้ลงมาดูเอง ว่ามันเป็นอย่างไร" สมพรกล่าว


 


ส่วนสุวพงษ์ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นรณรงค์ให้คนออกไปใช้สิทธิ์ลงรับหรือไม่รับร่างประชามตินั้น เป็นหน้าที่ที่นักศึกษาต้องทำ แต่ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า ข้อมูลต่างๆ ที่เขาเตรียมไว้ให้ หรือการไปสัมมนาหลายๆ ที่พบว่า มีแต่การนำเสนอข้อมูลด้านดีของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างเดียว ตนเองอยากให้นำเสนอข้อดีและข้อเสียประกบกันให้ชาวบ้านได้รับรู้ข้อมูลทั้ง 2 ด้าน จึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับการประกอบการตัดสินใจในการที่จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้


 


"ชาวบ้านสามารถชั่งตวงเหตุผลต่างๆ ได้ หากมีการนำเสนอที่เป็นกลางจริงๆ ในการลงประชามติ รับร่างหรือไม่รับร่าง" สุวพงษ์กล่าว


 


ในเรื่องการเคลื่อนไหวของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยในแถบภาคอิสานนั้น สมพรมั่นใจว่าต้องมีนักศึกษาส่วนหนึ่งสนใจเรื่องการเมืองแบบทุกที่ทั่วประเทศ แต่การที่นักศึกษาอิสานไม่ได้ออกมาเคลื่อนนั้นไหวเพราะคงมีความกลัวกันอยู่ เพราะในพื้นที่อิสานกับทุกคนเหมือนกับโดนป้ายสีว่าเป็นฐานเสียงของพรรคไทยรักไทยเก่า


 


สุวพงษ์ กล่าวว่า ในอดีตพลังนักศึกษาเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้แม้แต่นักศึกษาด้วยกันเองยังตั้งคำถามว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น นักศึกษาในส่วนกลางโดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยมีชื่อ 2 แห่งที่เคยเป็นแกนนำในการตรวจสอบความเป็นไปในสังคม ทำไมตอนนี้ถึงหลับไหลกันเป็นส่วนมาก


 


แต่ทั้งนี้ก็พอรู้ข่าวการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มเล็กๆ เท่านั้นผ่านสื่อกระแสหลัก แล้วคนอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยส่วนกลางทั้งหลายหายไปไหนหมด ถ้ามีมหาวิทยาลัยส่วนกลางเป็นแกนนำแบบมีพลังมีกลุ่มก้อน มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาคต่างๆ ก็จะตื่นตัวกันมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่


 


โดยสุวพงษ์กล่าวเสริมว่า อย่าดูถูกว่านักศึกษามหาวิทยาลัยบ้านนอกในแถบต่างๆ หรือมหาวิทยาลัยวิทยาลัยที่เกิดขึ้นทีหลัง อย่าคิดว่าพวกเราจะไม่มีจิตสำนึก ไม่มีความคิดทางด้านวิชาการ ไม่มีความรักเสรีภาพและประชาธิปไตย เพราะในบางครั้งเราสัมผัสกับคนจนหรือชุมชน ทำให้รับรู้ปัญหาของคนส่วนใหญ่ในประเทศที่เป็นคนจนมากกว่าด้วยซ้ำ


 


"อย่าดูถูกพวกเรา ศักดิ์ศรีทุกอย่างเรามันเท่าเทียมกัน" สุวพงษ์กล่าว


 


ประเด็นสำคัญที่สมพรและสุวพงษ์อยากเรียกร้อง ก็คือ ขอให้กลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยส่วนกลางออกมาเคลื่อนไหวและตื่นตัวกับประเด็นการเมือง ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบการเมืองหลังรัฐประหาร พวกคุณควรออกมาแสดงออก เพราะการเมืองคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของคนเรา ทุกคนต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองตั้งแต่เกิดจนตาย


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net