Skip to main content
sharethis

    


ประชาไท - 3 ส.ค.50  เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นางพัชรินทร์ จิตต์จันทร์กลับ ภรรยาของ นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ หนึ่งในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ผู้ถูกคุมขังที่ 9 ในคดีหมายเลขดำที่ พ.1562/2550 ตามคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาพร้อมกับทนายความเพื่อยื่นคำร้องขอประกันตัว โดยนางพัชรินทร์ ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท
       


ต่อมาเวลา 11.00 น. นางธิดา โตจิราการ ภรรยา นพ.เหวง โตจิราการ อีกหนึ่งในแกนนำ นปก.ผู้ถูกคุมขังที่ 6 ในคดีเดียวกัน เดินทางมาพร้อมกับทนายความ เพื่อยื่นคำร้องขอประกันตัวเช่นกัน โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ ในคำร้องของประกันตัวของนายมานิตย์ และ นพ.เหวง ไม่ได้ระบุเหตุผลในการขอประกันตัวแต่อย่างใด
       
ภายหลัง นางพัชรินทร์ กล่าวว่า การตัดสินใจยื่นขอประกันตัวในวันนี้เกิดจากความต้องการของนายมานิตย์ ซึ่งตนเห็นว่าการใช้ชีวิตอยู่ภายในเรือนจำอาจสร้างปัญหาต่อสุขภาพร่างกายของนายมานิตย์
       


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นประกันตัวนายมานิตย์อาจนำไปสู่ความขัดแย้งภายในกลุ่มแกนนำ นปก.ที่ไม่ได้ยื่นประกันตัวหรือไม่ นางพัชรินทร์ กล่าวว่า แกนนำทุกคนคงเข้าใจถึงอาการป่วยของนายมานิตย์ รวมไปถึง นพ.เหวง ด้วยเช่นกัน คิดว่าคงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้แต่อย่างใด
       


ขณะที่ทนายความ นางธิดา ภรรยา นพ.เหวง กล่าวเช่นเดียวกันว่า การประกันของทั้งนายมานิตย์ และ นพ.เหวง เป็นมติร่วมกันของแกนนำ นปก.ทั้งหมดที่ถูกคุมขังในเรือนจำว่าต้องการให้ทั้งสองออกมาจากเรือนจำก่อนเนื่องจากปัญหาสุขภาพ
       
ด้าน นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ นายจักรภพ เพ็ญแข หนึ่งในแกนนำ นปก.ผู้ถูกคุมขังที่ 3 กล่าวว่า ในการยื่นประกันตัวของนายจักรภพ ขณะนี้แกนนำ นปก.จะไม่มีมติออกมา ซึ่งการประกันตัวจะต้องเป็นมติของ แกนนำ นปก.แจ้งมาเอง โดยที่ส่วนตัวของนายจักรภพขณะนี้ก็ยังไม่ได้แจ้งว่าประสงค์จะให้ยื่นคำร้องขอประกันตัวแต่อย่างใด
       
ต่อมาศาลได้พิจารณาอนุญาตตามคำร้องขอปล่อยตัว นพ.เหวง โตจิราการ ผู้ต้องหาที่ 6 และนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ผู้ต้องหาที่ 9 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกกระทำการดังกล่าวแล้วไม่เลิก และร่วมกันต่อสู่หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป โดยตีหลักทรัพย์การประกันตัวเป็นเงินสดคนละ 200,000 บาท
       
ทั้งนี้ ศาลยังได้มีคำสั่งกำหนดเงื่อนไขห้าม ผู้ต้องหาทั้งสองคน ประพฤติตนตามลักษณะในคำร้องขอฝากขังอันนำไปสู่การกระทำความผิด ในทำนองเดียวกันอีก และห้ามให้ข่าวในลักษณะ ยั่วยุ ให้ประชาชนเข้าใจผิด เกิดความแตกแยกมิฉะนั้นจะถอนประกัน


 


ขณะที่ นางธิดา และนางพัชรินทร์ ภรรยาของ นพ.เหวง และ นายมานิตย์ ต่างยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เมื่อสามีได้รับอิสรภาพเป็นการชั่วคราว นั่งจับกลุ่มหารือกันโดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศาลอนุญาตให้ประกันแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำหมายปล่อยตัว ไปส่งที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ คาดว่าจะถูกปล่อยออกจากเรือนจำภายในเย็นวันนี้
       


ฝากขังครั้งที่2 ค้านประกันตัว แกนพิราบขาวบุกบ้าน'ป๋าเปรม'


ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.จุตติ ธรรมโนวานิช รอง ผบช.น.ในฐานะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังครั้งที่ 2 นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อายุ 37 ปี แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 , นายบรรธง สมคำ อายุ 32 ปี , ม.ล.วีระยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อายุ 44 ปี , นายศราวุฒิ หลงเส็ง อายุ 25 ปี , นายวีระศักดิ์ เหมะธุริน อายุ 57 ปี และนายวันชัย นาพุทธา อายุ 39 ปี ผู้ชุมนุมในกลุ่ม นปก.


         


ผู้ต้องหาที่ 1-6 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกกระทำการดังกล่าวแล้วไม่เลิก และร่วมกันต่อสู่ หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป กรณีร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าสลายการชุมนุมที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.


        


โดยระบุในคำร้องสรุปว่า ตามคำร้องฝากขังครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้เป็นเวลา 12 วัน จนถึงวันที่ 4 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบปากคำพยานอีก 150 ปาก รวมทั้งมีการแจ้งข้อกล่าวหา 9 แกนนำกลุ่ม นปก.อีก 9 คน ในคดีเดียวกัน รวมทั้งรอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษ รอผลการตรวจชันสูตรบาดแผลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และอื่นๆ


         


ดังนั้น จึงขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไว้อีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-16 ส.ค.นี้ ซึ่งท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังขอคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนีหรือไปก่อเหตุอันตรายอื่นๆ หรือทำลายพยานหลักฐาน ข่มขู่พยาน ซึ่งผู้ต้องหาเหล่านี้อยู่ในกลุ่มแกนนำ นปก.ที่อาจไปร่วมชุมนุม ปลุกระดมประชาชนทำให้เกิดความวุ่นวายได้


         


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการฝากขังครั้งนี้ทางศาลไม่ได้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมาศาล แต่ใช้วิธีฝากขังโดยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จากศาลอาญาไปที่เรือนจำ ส่วนการฝากขังครั้งที่ 2 แกนนำ นปก.ทั้ง 9 คนซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 6 ส.ค.นี้นั้น ก็จะใช้วิธีฝากขังโดยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เช่นเดียวกัน


 


 


 


-----------------------------


เรียบเรียงจาก ผู้จัดการออนไลน์และสำนักข่าวเนชั่น


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net