กป.อพช. และ นิธิ สู้ๆ

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ชูวัส  ฤกษ์ศิริสุข


 

 

ขอแสดงความชื่นชมต่อมติของคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ที่ฝ่าความยากที่ต้องต่อสู้กับ "ความกลัว" ไม่ว่าจะในรูปใดรูปหนึ่ง แล้วมองสังคมการเมืองไทยไปข้างหน้า นี่คือมติที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งผมไม่อาจจะวิเคราะห์และชี้ไปว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองที่มีต่อการรณรงค์ประชามติรับ/ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่อย่างน้อยเชื่อได้ว่า นี่คือกำลังใจสำคัญสำหรับเครือข่ายการรณรงค์ต้านการรัฐประหารทั้งหลาย

 

ทั้งหมดนี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับ 18 องค์กร สมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมือง (สปป.)  หรือเกือบทั้งหมดของอดีตพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่มีมติรับร่างรัฐธรรมนูญอย่างมีเงื่อนไข (โดยสปป.จะรณรงค์ผลักดันให้มีการแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 อย่างเร่งด่วน เช่น มาตรา 111 ที่มาของ ส.ว. มาตรา 93 ระบบเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 229 242 246 และ 252 ที่เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการสรรหาองค์กรอิสระ มาตรา 309 การนิรโทษกรรม คมช.) ด้วยเหตุผลที่สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ระบุว่า "ถ้าไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็เท่ากับการยอมรับระบอบทักษิณ"

 

ผมเสนอว่า ให้ สปป. ใช้ถ้อยคำนี้เพื่อรณรงค์ให้รับร่างรัฐธรรมนูญนี้อย่างกว้างขวาง และระบุลงไปให้ชัดๆ เลยว่า "ถ้าไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ คมช. ฟื้นระบอบอำมาตยาฯ ก็เท่ากับการยอมรับระบอบทักษิณ" แล้วให้ประชาชนโหวต หรือถ้ากลัว คมช. จะใช้คำเดิมก็ย่อมได้ ขอให้ใช้เถอะครับ จะได้รู้กันสักทีว่าชาวบ้านเขาอยากได้อะไรแบบไหน ถ้าเขาต้องเลือก

 

ไม่ว่าอย่างไรในภาพรวมแล้ว มติของ 18 องค์กร ยังคงทำเสมือนกับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงเป็นนายกฯอยู่ ราวกับว่า การปั่นกระแสความกลัวทักษิณ ยังคงขายได้ แปะยี่ห้อได้ และการอ้างอิงไว้ยังทำให้ได้ราคา

 

และเช่นเดียวกับกรณีอื่นๆ ไม่ว่าอย่างไร สื่อในมือที่หนุนหลัง ก็ยังคงทำหน้าที่แบบเดิมอย่างซื่อสัตย์ คือ "ฉวยโอกาสตีความ" และร้ายหนักเข้าไปอีกเมื่อใช้วิธีนี้บิดข้อเท็จจริงกับ ศ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ แห่งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กรณีให้สัมภาษณ์ตอบปัญหาในเชิงหลักการเกี่ยวกับ "การรับเงินทักษิณ" 

 

"เมื่อถูกนักข่าวถาม - ก็จำต้องตอบ

"ถึงแม้จะพยายามเลี่ยงแล้ว..คำตอบสุดท้ายก็ยังยอมรับโดยปริยายว่า เงินในการออกแคมเปญมาจากอำนาจเก่า

"การเคลื่อนไหวนี้ จึงถูกสังคมผูกโยงกับ กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง ทันที"

            (ข่าวปนคน-คนปนข่าว  เซี่ยงเส้าหลง ผู้จัดการออนไลน์ 15 ก.ค. 2519)

 

ขณะที่รายงานการสัมภาษณ์นักข่าวปรากฏในแบบคำต่อคำในเว็บไซต์ "ประชาไท" ว่า

 

"นักข่าวถาม : มีกระแสข่าวว่าโฆษณาคว่ำรัฐธรรมนูญเชื่อมโยงกับคุณทักษิณ

            "นิธิ : ตอบไม่ได้ตรงๆ แต่มีการสงสัยกันว่า มีคนที่อาจจะเชื่อมโยงกับคุณทักษิณจริงหรือไม่ สมมติว่าจริงแล้วทำไม คือถ้าทักษิณเอาเงินหรืออะไรก็แล้วแต่มาช่วยคนน้ำท่วม แล้วจะไม่ให้ช่วยหรืออย่างไร ไม่เข้าใจ"

            ("นิธิ" เคลียร์นักข่าว "ทำไมไม่รับรัฐธรรมนูญที่วางตรงหน้าเว็บไซต์ประชาไท 12 ก.ค.50)

 

 

อย่าลืมว่า รายการหนึ่งในเครือสื่อฉบับเดียวกันนี้ กลับเคร่งครัดและเรียกร้องความรับผิดชอบกรณีหนังสือพิมพ์ไทยรัฐลบภาพพระบรมฉายาลักษณ์อันเนื่องมาจากความเหมาะสม แต่ผ่อนปรนในการตีความถ้อยคำของแหล่งข่าวเพียงเพื่อให้ตอบสนองเป้าหมายและอคติของตัวเอง ทั้งๆ ที่โดยปกติการตีความนั้นจะอย่างไรก็คือการตีความ ดังเช่นทัศนะที่มีต่อการลบภาพของไทยรัฐ ที่ได้รับคำชี้แจงจากไทยรัฐในลักษณะ "ภักดีกว่า" และ "หนักแน่นกว่า"

 

พูดง่ายๆ อย่าคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นและได้ยินจะเป็นอย่างที่ตัวเองอยากคิดและอยากเชื่อเสมอไป เหมือนที่จนบัดนี้คนจำนวนมากก็ยังคงเชื่อว่าแม้แต่ทักษิณภักดีกว่า (อย่างน้อยก็ไม่เคยใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ)

 

ไม่ต้องสงสัย การตอบคำถามของ ศ.นิธิ เป็นการตอบปัญหาในเชิงหลักการของนักวิชาการ ที่จะอย่างไรย่อมไม่ใช่ "นักยุทธวิธี" ที่เคร่งครัดต่อคนอื่นแล้วผ่อนปรนให้ตนเองเหมือนสื่อและนักเคลื่อนไหวบางคนที่ตราหน้าการรับเงินบริจาคของคนอื่นว่า รับใช้อำนาจเก่า (และหากไม่อยากถูกตราหน้าก็จงยอมจำนน และเชื่อฟังเท่านั้น) ขณะที่เรียกการรับเงินของตนเองว่าเพื่อประชาธิปไตย โดยลืมไปด้วยซ้ำในครั้งที่เพื่อนพ้องของตนเคยจับอาวุธขึ้นสู้อยู่ในป่าเขา และต่างก็เคยถูกตราหน้าว่าเอาเงินเอาอาวุธต่างชาติ ถึงขั้นถูกตราว่าขายชาติขายแผ่นดิน...เหล่านี้ก็เคยมาแล้วทั้งนั้น

 

ไม่ต้องสงสัย หากไม่ห่างหายจากแวดวงวิชาการก้าวหน้ากลุ่มนี้เกินไป การออกโรงมาเคลื่อนไหวของนักวิชาการเหล่านี้ ล้วนแต่ผ่านการถามไถ่ ตรวจสอบกันเอง จนมั่นใจ และ "คลีน" พอ 

 

ที่สำคัญไม่มากก็น้อย นักวิชาการเหล่านี้ล้วนแต่จำต้องออกโรงมาในยามที่วงวิชาการถูกทำให้เงียบกริบ ผู้คนถูกแปะป้าย สื่อปั่นกระแส และปีศาจครองเมือง

 

จะเป็นนักยุทธวิธี ที่ไม่เลือกวิธีใช้ไปอีกถึงเมื่อไร

 

เลิกกลัวเถอะครับ มาไล่เผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตยด้วยกัน มาทำให้ประชาชนได้ชิงชัย ไม่ใช่กลุ่ม "อำนาจ(เก่าที่กลับมา)ใหม่" ได้เสวยอำนาจบนนักสร้างฉากแห่งความกลัว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท