มุทิตา เชื้อชั่ง
จู่ๆ ช่วงนี้ก็นึกถึงสมัยเรียนหนังสือ ตอนที่นั่งข้างถังขยะคอยฟังแลคเชอร์บ้าง หลับบ้าง
มีคำของอาจารย์สองคนเข้ามาวนเวียน (หลอกหลอน?) ในหัวไม่หยุดหย่อน
"โลกประเสริฐสุดที่เป็นไปได้ ก็คือ โลกที่ผู้คนพากันทู่ซี้แสวงหาโลกประเสริฐสุดที่เป็นไปได้ ไม่หยุดไม่เลิกนั่นเอง" อาจารย์คนหนึ่งว่าไว้
ถึงตอนนี้ ผู้คนพากันคิดถึงยูโทเปีย (หรือแค่พยายามดิ้นรนให้พ้นหล่มปลัก?) ไปคนละทิศคนละทาง บางคนโหยหา "ทางเก่า" บางคนยึดมั่น "ทางใหม่"
แล้วแต่จะนิยามความเก่า-ความใหม่อย่างไร แล้วแต่จะนิยามจุดบอด จุดจบ ประสบการณ์ของทางแต่ละสายแบบไหน แล้วแต่ว่าคนนิยามยืนอยู่ฝั่งฟากไหนของผลประโยชน์ แล้วแต่ว่าใครเชื่อในอุดมการณ์ทางเศรษฐกิจ-การเมืองแบบใด ฯลฯ
น่าเสียดายที่ความขัดแย้งทั้งหลาย เคลื่อนจากการปะทะกันอย่างสมเหตุสมผลไปสู่พล็อตของนิยายน้ำเน่าโบราณ
ส่วนหนึ่งถูกสถาปนาให้กลายเป็น "ความจริง" "ความดีงาม" แบบเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ขณะที่อีกส่วนกลายเป็น "ปีศาจ" "ความเลวร้าย" ที่ฝังอยู่ในทุกอณูเนื้อตน
เมื่อแว่นของสังคมเป็นเช่นนั้น เส้นทางของ นปก. จึงน่าเป็นห่วง ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับเขาหรือไม่
ผลจากเหตุการณ์ของคืนวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้นิ้วชี้แทบทุกนิ้วมุ่งตรงไปยัง นปก.--- "ม็อบถ่อย ม็อบเถื่อน"
กลิ่นเหม็นสาบของกลุ่มก้อนนี้ที่ส่วนใหญ่ทั้ง "จน" และ "โง่" กับ ความไม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะน่าเชื่อว่ามีนักการเมืองปีศาจหนุนหลัง ผสมปนเปกันในสัดส่วนพอเหมาะ จนทำให้กลุ่มก้อนนี้แทบจะหาศักดิ์ศรีไม่ได้ในการรับรู้ของสังคม...หรือกระทั่งของสื่อมวลชนที่จัดวางตัวเองว่าเป็นตะเกียงส่องนำผู้อื่น
สิทธิทั้งหลายทั้งปวงก็ดูเหมือนจะออกโทนสีหม่นๆ กระดำกระด่างเหมือนสินค้ามือสอง
เส้นแบ่งบางเบาของการจัดการความรุนแรงอันอาจเกิดจากการชุมนุม กับ การจำกัดสิทธิในการแสดงออกทางการเมือง เลือนรางเหมือนรอยลบดินสอในสมุดการบ้านของเด็กข้างบ้าน
ภาพเหล่านี้กำลังถูกตอกย้ำซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
ใครจะคาดเดาได้ว่าเมื่อไร "ความเป็นมนุษย์" ของกลุ่มก้อนนี้จะหายไปจากความรับรู้ของกลุ่มก้อนอื่นที่ใหญ่โตกว่า
ใครจะคาดเดาได้ว่าหากมันไปบรรจบกับจุดตัดแห่งความรุนแรงครั้งใหญ่อีก เยื่อใยระหว่างเพื่อนมนุษย์จะยังหลงเหลือหรือขาดสะบั้น
..ใช่หรือไม่ว่า สงครามอันโหดเหี้ยมในทุกที่ของโลกใบนี้ หรือกระทั่งที่สนามหลวง ถนนราชดำเนิน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โรงแรมรัตนโกสินทร์ ฯลฯ ก็เกิดขึ้นด้วยหลักง่ายๆ เช่นนี้ ....
"....ถ้าสถานะทางปัญญาผลักเราไปสู่จุดที่ตอบไม่ได้ว่า ภูเขากับจอมปลวก อันไหนสูงกว่ากัน ผมคิดว่านั่นแย่มากแล้ว" อาจารย์ของอาจารย์อีกคนหนึ่งว่าไว้
ตอนนี้เราอาจกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องกับความชาญฉลาดของตัวเองที่เท่าทันความซับซ้อนของทุนนิยมโลกาภิวัตน์ เท่าทันหลุมพรางประชาธิปไตย เท่าทันอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายในโลก พร้อมกับดูถูกเหยียดหยามความโง่งมอื่นๆ ... ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่
เราอาจกำลังคิดว่าเราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องยิ่งกว่าใครทั้งหมด ด้วยความหวังดีต่อ "ชาติ" อันหมายถึงเพื่อนร่วมแผ่นดินทุกคนมากกว่ากลุ่มก้อนไหนๆ
แต่หากเราไม่ยึดกุม "ความเป็นมนุษย์" ของผู้อื่น กระทั่งคนที่ยืนตรงข้ามกับเราไว้ให้มั่น และหากเราไม่ปล่อยวางพล็อตละครน้ำเน่าโบราณแบ่งขาว-ดำลงเสียบ้าง
อย่าประมาทไป บางที...อาจเป็นเรานี่เอง ที่แยกไม่ออกว่าสิ่งตรงหน้า คือ ภูเขาหรือจอมปลวก
บางที..อาจเป็นเรานี่เอง ที่จะทำให้ประวัติศาสตร์อันอัปลักษณ์ของสังคมการเมืองไทยต้องซ้ำรอย.
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)