Skip to main content
sharethis


 



 



 


ประชาไท - 27 ก.ค. 50 หลังจากที่ศาลมีคำสั่งควบคุมตัวแกนนำ นปก. ทั้ง 9 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวแกนนำมาควบคุมตัวยัง สน.สามเสนนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวานนี้ (26 ก.ค.) ได้มีผู้ชุมนุมกว่าหลายร้อยคนเดินทางมาให้กำลังใจแกนนำ นปก. โดยผู้ชุมนุมยืนเต็มทางเท้าฝั่ง สน.สามเสน และฝั่ง รพ.วชิรพยาบาล หลายคนเตรียมดอกกุหลาบขาวมามอบให้กับแกนนำ


 


ต่อมาเมื่อเวลา 20.10 น. ตำรวจได้ควบคุมตัวแกนนำ นปก.ทั้ง 9 คน เดินทางจากศาลอาญา โดยรถตู้สีขาวติดฟิลม์ทึบ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเข้ามาทางหน้าโรงพัก ซึ่งมีกำลังตำรวจ 1 กองร้อย 150 นาย ตั้งแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งจำนวน 2 แถว กันไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใกล้ ทั้งนี้ เมื่อรถตู้คันดังกล่าวเดินทางมาถึงแกนนำ นปก.ได้ทยอยลงจากรถ โดย นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวกับผู้ที่มาให้กำลังใจว่าขอให้สู้กันต่อไป อย่าร้องไห้ ขณะที่นายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวว่า "สู้ต่อไป ดูแลน้องๆ ด้วย"


 


โดยแกนนำทั้ง 9 คน มีสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่เคร่งเครียด บ้างชูมือ บ้างชู 2 นิ้ว ทักทายผู้สนับสนุน จากนั้น พากันเดินเรียงแถวเข้าไปยังห้องปฏิบัติการสายตรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำ และพิมพ์ลายนิ้วมือตามขั้นตอนต่อไป


 



 



 



 


ในส่วนของผู้ชุมนุม นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำ นปก. ได้ประกาศรับสมัครอาสาสมัครสุภาพสตรี 4 คน เพื่อเป็นตัวแทนมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจแกนนำ พร้อมประกาศให้ฝากจดหมายให้กำลังใจแกนนำ นปก. ผ่านสุภาพสตรี 4 คน โดยมีหลายคนยกมือขออาสาสมัครเข้าไป


 



 


ต่อมามีได้เกิดโกลาหลขึ้นเล็กน้อย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องการให้ใช้เครื่องขยายเสียง เนื่องจากใกล้เขตพระราชฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดึงไมโครโฟนไปจากมือของผู้ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ และเริ่มประชิดเข้าใกล้แนวกั้นของตำรวจที่ยืนคล้องแขนเรียงหน้ากระดานเต็มพื้นที่หน้าสน.สามเสน


 


แต่แกนนำ เช่น นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บอกให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ อย่าปะทะกันด้วยอารมณ์ และขอให้ผู้ชุมนุมทุกคนช่วยกันปรบมือให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอให้คืนไมโครโฟนที่ยึดไป ต่อมาผู้ชุมนุมยังได้ร้องเพลงปณิธานเสรีชน ซึ่งแต่งโดยจิ้น กรรมาชน และเพลงสู้ไม่ถอย ด้วยความสงบ หลังความโกลาหลเกิดขึ้น ผู้ชุมนุมได้ช่วยกันจัดแถว โดยมีผู้หญิงยืนเรียงกันแถวคล้องแขน เป็นแนวกั้นเผชิญหน้ากับแถวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


 



 


จากนั้น นายสมยศประกาศขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคืนไมโครโฟน โดยไม่ต้องบอกก็ได้ว่าใครเป็นคนกระชากไป เพียงส่งต่อไมโครโฟนของผู้ชุมนุมกลับคืนมา เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของประชาชน และอยากให้ทำตามกติกา ทำตามกฎหมายมากกว่า ซึ่งฝ่ายผู้ชุมนุมยอมเสียค่าปรับฐานใช้เครื่องขยายเสียง ซึ่งท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คืนไมโครโฟน พร้อมเรียกค่าปรับจำนวน 200 บาท เหตุการณ์ชุลมุนจึงสงบลง


 


ผู้ชุมนุมที่มาให้กำลังใจแกนนำทั้ง 9 มีการตะโกนว่า "คมช. ออกไป เผด็จการ ออกไป สนธิ ออกไป ประชาธิปไตย คืนมา แกนนำ คืนมา รัฐธรรมนูญปี 40 คืนมา" และขอร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวตรงไปตรงมา โดยผู้ชุมนุมบางคนโทรศัพท์บอกให้เพื่อนฝูงมาชุมนุมเพิ่มที่หน้า สน.สามเสน และต่อมามีการร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ที่แต่งโดยจิตร ภูมิศักดิ์


 



 


ต่อมาตำรวจยอมให้ผู้ชุมนุมส่งตัวแทน ซึ่งเป็นสุภาพสตรี 4 ท่าน เข้าพบและมอบดอกไม้ให้กับแกนนำ นปก. ทั้ง 9 คนที่ห้องลงบันทึกประจำวัน ภายใน สน.สามเสน ทำให้ผู้ชุมนุมพอใจ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุขประกาศพากลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนกลับสนามหลวง


 


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ชุมนุมหน้า สน.สามเสน ส่วนใหญ่จะเดินกลับสนามหลวงไปแล้ว แต่ยังเหลือผู้ชุมนุมประมาณ 50 คนและต่อมาเพิ่มจำนวนเป็น 100 คน ยังคงชุมนุมอยู่หน้า สน.สามเสน โดยโจมตี พล.อ.เปรม และตะโกนด่า คมช. ด้วยถ้อยคำหยาบคาย


 


 


 


และเวลาประมาณ 23.00 น. ขณะที่เหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเรียงหน้ากระดานแถวเดียว ขณะที่ครึ่งหนึ่งกลับเข้าไปใน สน.สามเสน ผู้ชุมนุมกลุ่มนี้พากันนั่งปักหลักกินพื้นที่ถนนสองเลน มีการร้องเพลงล้อเลียน คมช. อย่างตลกขบขัน และต่อมานางดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล หรือ ดา ตอปิโด ได้มาสมทบพร้อมเครื่องขยายเสียงและพูดโจมตี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. และการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับแกนนำ นปก. ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง


 


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เสริมกำลังเพิ่ม และมีการเจรจาให้เลิกใช้เครื่องขยายเสียง เนื่องจากผู้ชุมนุมส่งเสียงดังใกล้เขตพระราชฐาน แต่นางดารณีไม่ยอมฟัง ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด


 


พล.ต.ต.มานิตย์ วงษ์สมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาลภาค 1 ที่มาดูแลสถานการณ์ที่ สน.สามเสน ได้ให้นางประทีป อึ๊งทรงธรรม ฮาตะ ที่เดินทางมาจากสนามหลวงเจรจากับนางดารณี ซึ่งหากยังไม่หยุดทางตำรวจจะนำหน่วยปราบจลาจลหญิง เข้าควบคุมตัวนางดารณี ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ต่อรองว่าต้องการให้นำแกนนำทั้ง นปก.ทั้ง 9 คน ออกมาให้ผู้ชุมนุมเห็นว่าสบายดีก่อนจึงจะกลับ


 



 


ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน จึงยอมให้แกนนำ นปก. ทั้ง 9 คนที่ถูกควบคุมตัวออกมาทีละคน โบกมือทักทายผู้ชุมนุมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ที่ประตูกระจกของ สน. โดยที่แกนนำออกมาในชุดลำลอง บางคนสวมกางเกงขาสั้น ได้โบกมือทักทายกับผู้ชุมนุม และนายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ แกนนำ นปก. ได้เปิดประตูกระจกออกมาตะโกนว่า "กล้บบ้านได้แล้วนะ" ทำให้ผู้ชุมนุมกลุ่มนี้พอใจและเดินทางกลับ


 


ต่อมา กลุ่มผู้สื่อข่าว พยายามขอสัมภาษณ์ พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ โดยผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไททีวีถามว่า การยอมให้ผู้ชุมนุมภายนอกมองเห็นแกนนำ นปก. ไม่ถือเป็นการอ่อนข้อหรือ พล.ต.ต.มานิตตอบว่า เจ้าหน้าที่ในวังสุโขทัยออกมาเตือนว่าเสียงผู้ชุมนุมดังเข้าไปในเขตพระราชฐาน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเคลียร์พื้นที่เร็วๆ จึงยอมให้ผู้ชุมนุมเห็นหน้าแกนนำ และให้พวกเขากลับบ้านเร็วที่สุด ผู้สื่อข่าวรายนี้ยังถามต่อว่า ถ้าผู้ชุมนุมมาเรียกร้องเช่นนี้อีกจะทำอย่างไร พล.ต.ต.มานิตย์กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด


 


พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ กล่าวว่า แกนนำทั้ง 9 คน จะออกจากสน.สามเสนภายในเวลา 15.00 น. ของวันที่ 27 ก.ค. ก่อนที่จะนำตัวไปคุมขังที่ศาลต่อ เพื่อดำเนินการขั้นต่อไป


 


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net