Skip to main content
sharethis

ประชาไท - เมื่อวันที่ 25 ก.ค.50   เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร ออกแถลงการณ์ "กรณีการใช้กำลังสลายการชุมนุมของ นปก. หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์" โดยระบุว่า การเดินขบวนและการชุมนุมทางการเมืองเป็นสิทธิของทุกกลุ่ม และการเดินไปหน้าบ้านสี่เสาฯ นั้นชอบธรรม เนื่องจากพล.อ.เปรม มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการรัฐประหาร ส่วนกรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นขอให้สื่อมวลชนทำหน้าที่อย่างเป็นกลางนำเสนอรอบด้าน และขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงรายงานต่อสาธารณะ


 


ขณะที่พรรคแนวร่วมภาคประชาชนก็ออกแถลงการณ์ "ประณามรัฐบาลเผด็จการที่ใช้ความรุนแรง" โดยระบุว่าต้นเหตุของความรุนแรงเริ่มต้นจากการรัฐประหาร ซึ่งได้แย่งชิงเสรีภาพและข่มขู่ประชาชนไม่ให้แสดงจุดยืนในจังหวัดต่างๆ พรรคแนวร่วมฯ จึงเสนอให้ประชาชนร่วมกันไปลงงคะแนนเสียงคัดค้านรัฐธรรมนูญที่มาจากรัฐบาลนี้ซึ่งลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตย และพยายามสืบต่ออำนาจ


 


 


 






แถลงการณ์เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร


กรณีการใช้กำลังสลายการชุมนุมของ นปก. หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์


 


สืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม นปก. เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 จนนำไปสู่การปะทะกันของผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ ทางเครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร  มีความเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไปนี้


 


1. เราขอยืนยันสิทธิในการเดินขบวน/ชุมนุมทางการเมืองของทุกกลุ่มที่เป็นการแสดงออกอย่างเปิดเผย ไม่ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไรก็ตาม และสำหรับการเดินขบวนไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ อันเป็นบ้านพักของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ของกลุ่ม นปก.นั้น เราเห็นว่ามีความชอบธรรม เพราะเป็นที่ประจักษ์ตลอดมาทั้งก่อนและหลังรัฐประหาร 19 กันยายน ว่า พล.อ.เปรมนั้นมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการรัฐประหารในครั้งนี้ เพราะแม้นายสุริยะใส กตะศิลา โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ยังเคยยอมรับว่า "วันนี้ก็เห็นโดยพฤตินัยได้อย่างชัดเจนว่า พลเอกเปรมใช้อำนาจนั้นผ่าน คปค. ท่านนั่งบัญชาการอยู่ที่บ้านสี่เสาฯ และไม่มีใครคิดว่าท่านจะกล้าทำ หรือไม่มีใครคิดตอนที่นั่งร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ว่า การรัฐประหารครั้งนี้องคมนตรีจะมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเปิดเผยขนาดนี้"


 


2. กรณีความรุนแรงในเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น การประณามว่าใครก่อความรุนแรงโดยไม่พิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการประณามว่าผู้ชุมนุมเป็นพวก "ถ่อย-เถื่อน" โดยไม่พิจารณาว่า การชุมนุมของพวกเขาเป็นสิทธิอันชอบธรรม และสาเหตุที่สำคัญของความรุนแรงในครั้งนี้ คือ การพยายามในการยับยั้งการใช้สิทธิเหล่านี้ การกระทำในลักษณะนี้ นอกจากจะไม่เป็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นแล้ว ก็จะยิ่งทำให้ความรุนแรงยิ่งบานปลายไปอีก ดังนั้นเราขอเสนอให้


2.1 สื่อมวลชนต้องทำหน้าที่อย่างเป็นกลางในการนำเสนอข้อมูลทั้งฝ่ายรัฐ ฝ่ายผู้ชุมนุม


2.2 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนในฐานองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชนต้องตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานต่อสาธารณะ ไม่ใช่ทำหน้าที่ประณามผู้ใช้สิทธิในการชุมนุมโดยไม่มีการสอบสวนใดๆ อย่างการกระทำของ นพ.ประดิษฐ์ เจริญไทยทวี คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ


 


3. เราขอคัดค้านการพยายามของรัฐในการใช้เงื่อนไขความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้ เพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินหรือการผลักดันกฎหมายความมั่นคงฉบับต่าง ๆ


 


 


เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร


24     กรกฎาคม 2550


 


 


 


 


 






 


แถลงการณ์ "ขอประณามรัฐบาลเผด็จการที่ใช้ความรุนแรง"


 


พรรคแนวร่วมภาคประชาชน  ขอประณามรัฐบาลเผด็จการทหารที่ใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ณ บ้านสี่เสาเทเวศร์ ขอเตือนความทรงจำว่ารัฐบาลทหารเถื่อน คือ ผู้ก่อให้เกิดความรุนแรงตั้งแต่เริ่มต้น ในการใช้อาวุธปล้นประชาธิปไตยแย่งชิงเสรีภาพจากพลเมืองไปอย่างไร้ยางอาย และในการลดพื้นที่เสรีภาพทางการเมืองด้วยการส่งทหารไปสกัดกั้น  และข่มขู่ประชาชนไม่ให้แสดงจุดยืนในจังหวัดต่างๆ


 


เพื่อเป็นการปกป้องประชาธิปไตย  พรรคแนวร่วมภาคประชาชนขอเชิญชวนให้ประชาชนลงคะแนนเสียงคัดค้านรัฐธรรมนูญของทหารที่ลดสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยและพยายามสืบทอดอำนาจเผด็จการ นอกจากนี้พรรคแนวร่วมภาคประชาชนขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมคัดค้านร่างกฎหมายความมั่นคง และการใช้กฎอัยการศึกและมาตรการเผด็จการต่างๆของ คมช.


 


ประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤตทางการเมือง แต่การทำรัฐประหารและการพยายามสืบทอดอำนาจของเผด็จการเถื่อน  ยิ่งทำให้วิกฤตนี้ร้ายแรงยิ่งขึ้น ในอดีตภาคประชาชนและขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมเสียเลือดเนื้อ  เพื่อขยายสิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรมทางสังคมมามาก แต่กรรมาชีพ ชาวไร่ชาวนา และคนธรรมดาไม่ได้ประโยชน์จากการต่อสู้เพราะส่วนต่างๆ ของชนชั้นปกครอง ไม่ว่าจะเป็นพรรคนายทุน ทหาร หรือพวกอภิสิทธิ์ชนเข้ามาฉวยโอกาสแย่งชิงผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬหรือ๑๔ตุลา


 


ภาคประชาชนต้องเรียนบทเรียนจากอดีต เราต้องร่วมกันสร้างพลังอิสระของขบวนการและเครือข่ายต่างๆที่ไม่หวังพึ่งทหาร อภิสิทธิ์ชน ชนชั้นกลาง หรือพรรคนายทุนอย่างไทยรักไทย หรือผู้สืบทอดมรดกจาก ไทยรักไทย


 


ภาคประชาชนมีภารกิจอันสำคัญในการผลักดันการปฏิรูปสังคมในช่วงวิกฤตนี้ ทหารหรือข้าราชการระดับสูงไม่มีวันปฏิรูปสังคมได้  และพวกนี้พร้อมที่จะใช้ความรุนแรงกับประชาชนตลอดเวลา ในขณะที่ชนชั้นกลางและนักวิชาการเสรีนิยมได้เผยธาตุแท้ของตนเองด้วยการสนับสนุนเผด็จการและการดูถูกคนจน เราทุกคนในภาคประชาชนต้องรวมพลัง ไม่ว่าจะในรูปแบบเครือข่าย เอ็นจีโอ หรือพรรคของภาคประชาชน ในการผลักดันประชาธิปไตยอันแท้จริง เราต้องรณรงค์เพื่อให้ไทยเป็นรัฐสวัสดิการ ต้องมีการเก็บภาษีก้าวหน้าในระดับสูงจากคนรวยและอภิสิทธิ์ชน เราต้องขยายสิทธิเสรีภาพทางเพศ สิทธิเสรีภาพของชุมชนและชนกลุ่มน้อย และที่สำคัญยิ่งเราต้องผลักดันมาตรการในการสร้างสันติภาพในสามจังหวัดภาคใต้ เช่น  การเรียกร้องให้ถอนทหารและตำรวจออกจากพื้นที่ ยกเลิกกฎหมายเผด็จการ และเปิดทางให้ประชาสังคมในพื้นที่กำหนดอนาคตของตนเองท่ามกลางความเคารพและสมาฉันท์จากพลเมืองในพื้นที่อื่นๆ


 


พรรคแนวร่วมภาคประชาชนขอเชิญชวนทุกท่านที่เห็นด้วยกับจุดยืนเราสมัครเป็นสมาชิกพรรค เราจะได้ร่วมกันต่อสู้ต่อไปเพื่อสังคมใหม่ ติดต่อกับพรรคได้ที่ pcpthai@gmail.com  ตู้ ปณ. ตู้ ป.ณ.2049 ป.ณ.ฝ.จุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ 10332 หรือ ติดตามความเห็นกิจกรรมของพรรคได้ที่  www.pcpthai.org


 


ด้วยความสมาฉันท์


พรรคแนวร่วมภาคประชาชน


25      กรกฎาคม 2550


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net