Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 25 ก.ค. 50 เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ชาวบ้านสมัชชาคนจนจำนวน 150 คนเข้าพบนายวิเชียร สายยืน กำนันต.โพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เพื่อขอดูรายชื่อผู้เสนอให้ปิดเขื่อนปากมูลเพื่อรักษาระดับน้ำจำนวน 20,000 ชื่อ ที่นายวิเชียรได้เสนอต่อ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดิน ศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนภายใต้แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.). จนเป็นที่มาของมติปิดเขื่อนปากมูลของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.50


 


หลังจากมีการร้องขอให้เปิดเผยรายชื่อผู้เสนอให้ปิดเขื่อน โดยนายวิเชียรนัดหมายให้ชาวบ้านมาพบในวันนี้ แต่เมื่อถึงวันเวลาตามนัดหมาย นายวิเชียรบ่ายเบี่ยง ไม่ได้ออกมาพบชาวบ้าน


 


กระทั่งเวลา 11.00 น. นายเดชา วงศ์ตระกูล นายอำเภอพิบูลมังสาหาร ได้เดินทางมาร่วมพูดคุยกับชาวบ้านและได้เชิญนายวิเชียรออกมาพบชาวบ้านตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งนายวิเชียรชี้แจงว่าเป็นผู้เสนอรายชื่อดังกล่าวต่อพล.อ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.50 แต่การเสนอในครั้งนั้นมีรายชื่อเพียง 10,000 รายชื่อ ในส่วนที่ชาวบ้านร้องขอดูรายชื่อนั้น อยู่ระหว่างการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


 


ผู้สื่อข่าวในพื้นที่รายงานว่า คำชี้แจงของนายวิเชียรสร้างความแคลงใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะในการเสนอรายชื่อเพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา มีการระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นรายชื่อของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเขื่อน และเมื่อชาวบ้านถามว่า นายวิเชียรได้ประสานขอรายชื่อ 20,000 ชื่อกับหน่วยงานใด นายวิเชียรไม่สามารถตอบได้


 


นายแสวง ลายทอง ชาวบ้านหนองโปก ต.โพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "พฤติกรรมของนายวิเชียรแสดงถึงความไม่โปร่งใสของรายชื่อผู้เสนอให้มีการปิดเขื่อน แม้แต่คนที่อยู่ในตำบลโพธิ์ศรีก็ไม่เคยทราบว่ามีการเสนอชื่อ และขณะนี้ได้มีการเคลื่อนไหวล่ารายชื่อเพิ่มเติมเพื่อทำให้มีการปิดเขื่อนปากมูลให้ได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะปลาในแม่น้ำมูนเป็นทั้งแหล่งรายได้และแหล่งอาหาร"


 


เขาเล่าต่อว่า ที่ผ่านมา นายแสวงและเพื่อนบ้านได้กู้ยืมเงินเพื่อมาสร้างและซ่อมแซมเครื่องมือหาปลา แต่เมื่อครม.มีมติปิดเขื่อนโดยอ้างถึงรายชื่อที่นายวิเชียรส่งไป ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก แต่ก่อน เปิดเขื่อน 4 เดือน ปิดเขื่อน 8 เดือน ก็ยังพอหาอยู่หากินประทังชีวิตได้บ้าง


 


ในส่วนของการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นนั้น ทางชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อำเภอได้ข้อสรุปร่วมกันว่าทางอำเภอจะเป็นผู้จัดทำหนังสือขอดูรายชื่อและจัดส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณา ภายในวันที่ 25 ก.ค. 50 นี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net