ประชาไท - 19 ก.ค. 50 เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 ก.ค. ที่โรงแรมกรีนเวิลด์ พาเลส อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย จัดสัมมนาเรื่องการระดมความคิดเห็นจัดทำผังร่างแนวคิดการพัฒนาจังหวัดสงขลา - สตูล โครงการวางผังพัฒนาเชิงพื้นที่จังหวัดสงขลา - สตูล ครั้งที่ 2 มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่เข้าร่วมกว่า 150 คน

นางสาวขวัญศิริ วรรณชนะ นักผังเมือง 8 ว ได้นำเสนอแนวคิดการพัฒนาจังหวัดสงขลาสตูลว่า มี 2 รูปแบบ คือการพัฒนาแบบหลายศูนย์กลาง เช่น ศูนย์กลางการบริการ ศูนย์การค้าชายแดน และแบบพัฒนาพื้นที่ตามแนวแกนการพัฒนา โดยเสริมศักยภาพของพื้นที่รองรับโอกาสทางเศรษฐกิจ

ส่วนแนวคิดในการวางผังระบบโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ ด้านคมนาคมขนส่ง จะผลักดันให้มีท่าเรือน้ำลึกปากบารา จังหวัดสตูลและท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 สร้างแนวเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 แห่ง ทั้งทางถนนและระบบราง กำหนดสถานีหรือศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า ซึ่งมี 4 แห่งคือ บริเวณท่าเรือทั้งสองแห่ง ที่อำเภอควนการหลง จังหวัดสตูล ที่อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ ได้แก่การจัดหาแหล่งน้ำ เพื่อชลประทานเพิ่มเติม ในพื้นที่ที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำ และเพิ่มศักยภาพแหล่งกับเก็บน้ำที่มีอยู่ ได้แก่ที่จังหวัดสตูล 4 แห่ง คือ โครงการอ่างเก็บน้ำลำโลน คลองย่าบน เขาใคร และคลองช้าง จังหวัดสงขลาอีก 3 แห่งคือ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองลำขัน อำเภอรัตภูมิ โครงการอ่างเก็บน้ำตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา และโครงการอ่างเก็บน้ำนาปรัง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา

ส่วนด้านการกำจัดขยะ ได้แก่การจัดหาสถานที่และกำหนดวิธีการกำจัดขยะที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แบ่งพื้นที่ย่อยเพื่อจัดตั้งศูนย์กำจัดขยะ เป็นต้น

นอกจากนี้ผู้เข้าประชุมมีข้อเสนอให้กำหนดอำเภอหาดใหญ่และอำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางการค้าและบริการ ส่วนด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม มีการเสนอให้กำหนดพื้นที่นิคมอุตสากรรมรองรับท่าเรือทั้ง 2 แห่ง และส่งเสริมการเพาะปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันอย่างครบวงจร

ขณะที่ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์นั้น เสนอให้เชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์จากท่าเรือทั้งสองแห่งไปสู่สนามบินด้วย ขยายถนนจากท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่สองไปยังด่านชายแดนบ้านประอบ อำเภอนาทวี เป็นสี่ช่องจราจร

เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่โรงแรมโนโวเทล เซ็นทรัล สุคนธา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สำนักงานการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นเจ้าภาพประชุม ทบทวนแผนงานด้านการท่องเที่ยว ภายใต้การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย หรือไอเอ็มทีจีที(IMT - GT) มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประมาณ 50 คน มีนางศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธาน

โดยที่ประชุมได้พิจารณากิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยว คือ การอำนวยความสะดวกในการเดินทางทั้งทางอากาศและทางน้ำ ทั้งนี้เพื่อต้องการพลิกฟื้นสถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบให้กระเตื้องขึ้นโดยเร็ว

สำหรับการเส้นทางคมนาคมทางอากาศนั้นทั้ง 3 ประเทศมีสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยมีการเสนอเพิ่มเส้นทางการบินระหว่างเมดาน - สลังงอร์ - หาดใหญ่ แต่ผู้เข้าร่วมประชุมหลายคนแสดงความเป็นห่วงว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น รวมทั้งอาจมีจำนวนผู้โดยสารน้อย อาจทำให้สายการบินต่างๆ ตัดสินใจยากที่จะเข้ามาดำเนินการ

นอกจากนี้ยังมีการเสนอให้พัฒนาเส้นทางการคมนาคมทางบกเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยพยายามดึงนักท่องเที่ยวจากภาคใต้ตอนบนเดินทางลงมา เนื่องจากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทางอากาศน้อยลง เนื่องจากสายการบินต่างได้ลดเที่ยวบินลงด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ส่วนในเส้นน้ำนั้น เสนอให้เพิ่มเส้นทางการท่องเที่ยวทางทะเลในกลุ่มประเทศ IMT - GT โดยให้ท่าเรือตำมะลัง จังหวัดสตูล ให้รองรับเรือท่องเที่ยวทางทะเลเข้ามาเทียบท่าด้วย

ขณะที่นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ ประธานสภาธุรกิจชายแดนใต้ เสนอให้ กำหนดพื้นที่จังหวัดสงขลา เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ โดยขอให้ลดภาษีให้กับธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาและขอให้รัฐจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจำนวน 1,000 ล้านบาท

 นายสมเกียรติ แจ้งด้วยว่า ทางสภาธุรกิจชายแดนใต้ จะเสนอให้สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กำหนดแนวเส้นทางพัฒนาเศรษฐกิจในภาคใต้ด้วย คือ เส้นทางภูเก็ต - สุราษฎร์ธานี - สงขลา เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาโลจิสติกส์

ทั้งนี้ แผนการพัฒนาการท่องเที่ยวดังกล่าว ก่อนที่จะนำไปเสนอต่อที่ประชุมคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวของทั้ง 3 ประเทศ วันที่ 8 - 10 สิงหาคม 2550 ที่เมือง บูกิตติงงี จังหวัดสุมาตราตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย