Manic Street Preachers - Send Away the Tigers

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ภฤศ ปฐมทัศน์

 

 

กลับมาให้ชาวอัลเตอร์เนทีฟได้เริงรื่นกันอีกครั้ง หลังจากที่ทิ้งห่างไปสามปีกับวง "นักเทศน์คลั่งข้างถนน" แถมในช่วงปีหลังๆ มานี้ดูเหมือนพวกเขาจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนในอัลบั้มก่อนหน้านี้คือ Lifeblood นั้นอารมณ์มันส์ๆ แบบ Manics ก็ได้จืดจางลงไป

 

หลังจากอัลบั้ม Lifeblood สมาชิกวงจึงแยกย้ายกันออกอัลบั้มเดี่ยว ชวนให้แฟนๆ วงนี้กลัวว่าพวกเขาจะแยกหนีห่างกันไปเลย แต่ดูเหมือนว่า ทั้ง The Great Western ของ James Dean Bradfield (มือกีต้าร์) กับ I Killed the Zeitgeist ของ Nicky Wire (มือเบส) จะเป็นเพียงการได้ออกไปปลดปล่อยพลังดนตรีในแนวทางของแต่ละคนเท่านั้น เสร็จแล้วจึงกลับมาร่วมวงด้วยใจที่พร้อมกับงานแบบเป็นทีมอีกครั้ง

 

Send Away the Tigers จึงเป็นอัลบั้มล่าสุดของพวกเขาที่จะทำให้อารมณ์ร็อคชวนกระชุ่มกระชวย (แต่ก็เจือกลิ่นเศร้าบางๆ ฉาบไว้) แบบในอัลบั้มแรกๆ กลับคืนมา โดยดูเหมือนเป็นพัฒนาการจากการค้นหาหนทางร่วมกัน มากกว่าจะย้อนกลับทางเดิม แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อารมณ์บางอย่างก็ไม่อาจนึกเทียบกับช่วงที่ยังมี Richey อยู่ได้

 

(Richey James Edward อดีดกีต้าร์และนักร้องนำ หายตัวไปในช่วงปี คศ.1995)

 

ถึงแม้ Manic Street Preachers จะเป็นวงที่ได้ชื่อว่ามีเนื้อหาเชิงสังคมนิยม แต่เพลงของพวกเขาก็ไม่ได้พูดถึงการเมืองอย่างเดียว เรื่องทั่วๆ ไปในชีวิตผู้คนก็ถูกนำมาเขียนเป็นเพลงจากมุมมองในแบบของ Manics เช่นกัน ใครหลายคนอาจจะจำเพลงที่พูดถึงโรคเหงาแห่งยุคสมัยใต้แสงนีออนอย่าง Motorcycle Emptiness ได้ หรือแม้กระทั่งเพลงรักที่มีด้านลึกซึ้งกว่าเพลงรักอื่นๆ ทั่วไป

 

ในอัลบั้มนี้เองก็มีเพลงที่ออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรกคือ Your love alone is not enough ที่อาจจะมีความ Pop ฟังง่ายกว่าเพลงอื่นๆ อยู่เสียหน่อย แต่ก็ถือได้ว่ามีพัฒนาการและเป็นเพลงที่สวยทีเดียว (โดยส่วนตัวผมเองก็ชอบความ Pop ในแบบของวงนี้อยู่เหมือนกัน) นอกจากนี้ยังได้ Nina Persson จากวง The Cardigans มาร่วมร้องในเพลงนี้อีกด้วย

 

 

Nicky Wire ได้บอกว่า สิ่งที่ต้องการสื่อในเพลงนี้ก็คือ การให้ความสำคัญกับความรักหรืออะไรก็ตามแต่ เพียงอย่างเดียว ไม่อาจทำให้ประเทศหรือโลกของเราอยู่รอดปลอดภัยได้ แต่มันคือการที่เราต้องร่วมมือกันจากพลังหลาย ๆ ด้านที่เรามี

 

แค่พลังจากความรัก (ในสถาบันหรือในอะไรก็ตาม), จากคำกล่าวอ้างคุณธรรม หรือแม้แต่จาก "ความจริงที่ชวนให้ไม่สบายใจ" เพียงอย่างเดียว มันยังไม่เพียงพอ

 

But your love alone won"t save the world

You knew the secret of the universe

Despite it all you made it worse

It left you lonely it left you cursed

 

-Your love alone is not enough-

 

นอกจากนี้ยังมีเพลงชื่อ Underdogs ที่พูดถึงกลุ่มคนผู้เสียเปรียบ หรือแปลกแยกจากสังคม (freaks) และให้กำลังใจพวกเขาด้วยดนตรีมีความดิบและจังหวะเร้า ๆ มันส์ ๆ (เพลงนี้มีให้โหลดฟรีด้วยใน เว็บของวง www.manicstreetpreachers.com แต่ต้อง signup ก่อนนะครับ)

 

มีเพลงที่เนื้อหาซับซ้อนขึ้นมาหน่อยอย่าง Indian Summer กับ The Second Great Depression ดูเหมือนจะบอกเราว่า การปล่อยให้ปัญหามันคงอยู่โดยพยายามจะลืม หรือ "ช่างมัน" นั้น บางทีก็ไม่ได้ผล มันยังจะตามมาหลอกหลอนกดดันไม่รู้จบ ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบท่อนฮุกเพลงนี้มาก มันฟังดูทรงพลังดี

 

I thought about it a million times

When you maintained nothing but smile

Remember all those days

I thought about it a million times

When you maintained nothing but smile

When forgiveness was the best

Just forget about the rest

 

-The Second Great Depression-

 

 

มีชื่อเพลงแปลกๆ อย่าง I am just a patsy ที่จริง ๆ แล้วชื่อมันมาจากคำพูดของ Lee Harvey Oswald ชายผู้ถูกใส่ความว่าเป็นคนลอบสังหาร JFK ...ซึ่งประวัติชายคนนี้น่าสนใจดีเหมือนกัน เขาได้เข้าเป็นนายทหารของสหรัฐ ฯ แต่ด้วยว่าตัวเขาศึกษาและชื่นชอบแนวคิดสังคมนิยมมาก่อน จึงทำให้เขาแปลกแยกและถูกรังแกโดยตัวระบบทหารเอง เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นระบบของทหารแล้ว อิสรภาพทางความคิดและสิทธิในการแสดงความเห็นคงกลายเป็นเรื่องในอากาศ

 

นอกจากนี้ยังมีเพลงที่น่าจะเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายต้านการก่อการร้ายของอเมริกาอีกสามเพลง คือ Send away the Tigers* , Rendition และ Imperial Bodybags

 

เพลง Send away the Tigers เป็นเพลงเปิดที่เหมือนจะบ่งบอกว่า Manics ในแบบหนักๆ กลับมาแล้ว แต่ซาวน์จากยุคหลัง ๆ ของวงนี้ยังไม่ได้ทิ้งไปเสียหมด ยังมีการนำมาแต่งแต้มเพลงต่างๆ ของอัลบั้มนี้บ้าง

 

หากเพลง Send away the Tigers พูดถึงการส่งทหารไปยังประเทศอิรักแล้วล่ะก็ เพลง Imperial Bodybags ก็พูดถึงการส่งกลับมายังประเทศตัวเอง...แต่ในถุงใส่ศพ (Bodybags) แค่ชื่อเพลงนี้ก็ว่าแสบแล้ว (ถุงใส่ศพจักรวรรดินิยม) ทั้งดนตรีจังหวะลุยๆ ที่ฟังดูกึ่งขี้เล่นกึ่งประท้วงและเนื้อหาก็ยังฟังดูแสบตามไปด้วย

 

ส่วนเพลง Rendition นั้น ชื่อเพลงมันหมายถึงการโยกย้ายบุคคลในอีกรัฐไปยังอีกรัฐหนึ่งโดยสาเหตุทางกฎหมาย ในที่นี้น่าจะจงใจพูดถึงผลพวงจากนโยบาย "War on Terror" หลังเหตุการณ์ 9-11 ที่ทำให้ใครก็ตามที่ถูกระแวงสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายจะถูกจับไปสอบนอกประเทศไม่เลือกหน้า ตัวดนตรีเพลงนี้มีริฟฟ์แบบร็อคยุคเก่าๆ แถมยังให้ความรู้สึกแบบตลกร้ายด้วย ยิ่งถ้าได้อ่านเนื้อเพลงตามละก็

 

Rendition, rendition, blame it on the coalition

The CIA will stay invisible, oh good God I sound like a liberal

Rendition, rendition I never knew the sky was a prison

It's a long hard revolution, oh good God I feel like a liberal

 

-Rendition-

 

ฟังดูเหมือนมีแต่เนื้อหาหนักๆ ทั้งที่ดนตรีมันสนุกเอามากๆ กระนั้นก็ยังมีเพลงรักของอัลบั้มนี้อย่าง Autumnsong พอไว้คั่นอารมณ์ได้บ้าง กีต้าร์อินโทรของมันชวนให้นึกถึง Sweet Child O"Mine ของ Guns "n" Roses อย่างเสียมิได้ ซึ่งทางวงเองก็บอกว่าจงใจทำให้นึกถึงนั่นแหละ ไม่ใช่แค่อินโทรเท่านั้น ตัวเนื้อหาเองก็อยากจะสื่อความรู้สึกแบบเดียวกัน คือความรู้สึกที่ได้กลับไปสัมผัสกับความรักในวัยทึ่ผันผ่าน ในฤดูกาลที่ล่วงเลยมาแล้ว

 

มีทั้งฤดูร้อนและ ฤดูใบไม้ร่วง ก็คงต้องจบลงด้วยฤดูหนาว กับเพลง Winterlovers ที่มีจังหวะเรียบๆ เหงาๆ แอบซ่อนเจตนารมณ์ของพวกเขาไว้ แต่ก็ยังฟังดูธรรมดาไปเมื่อเทียบกับเพลงทั้งอัลบั้ม

 

การกลับมาครั้งนี้ของ Manic Street Preachers คงทำให้แฟนยุคเก่าๆ หลายคนได้หายคิดถึง และทำให้ผู้ฟังในยุคใหม่ๆ ได้สัมผัสกับดนตรีในแบบของ Manics ที่เจือด้วยความดิบแต่เข้มข้น มีความแน่นของทั้งกลอง เบส และโดยเฉพาะกีต้าร์ ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

Send Away the Tigers จึงเหมือนเป็นการประกาศของ Manics อยู่กลายๆ ว่า พวกเขากลับมามีไฟกันอีกครั้งแล้ว!

 



 



 


            * คำว่า Send Away the Tigers นี้ถึงแม้ในเนื้อเพลงจะสื่อถึงเรื่องสงคราม แต่สำหรับชื่อเพลงนี้ James Dean Bradfield บอกว่าเขานำชื่อมันมาจากคำพูดติดปากของนักแสดงตลก Tony Hancock เวลาที่เขาเมาและกำลังเศร้า เปรียบเหมือนในช่วงที่วงพวกเขาเองกำลังย่ำแย่ และรู้สึกอยากจะทำให้มันดีอีกครั้ง


            ** ในอัลบั้มนี้มี Hidden track คือเพลง Working Class Hero ซึ่งได้ Cover มาจากต้นฉบับของ John Lennon ทำได้ดีพอสมควร และเนื้อหาเหมาะกับวงอย่าง Manics เป็นที่สุด


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท