Skip to main content
sharethis

ประชาไท -11 ก.ค. 50 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 50 นางสดศรี สัตยธรรม สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ถือโฆษณาโหวตต่อต้านรัฐธรรมนูญที่ลงในหนังสือพิมพ์มติชน มาพูดคุยกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ พร้อมทั้งถามหาผู้สื่อข่าวมติชนว่า ใครเป็นผู้จ้างวานให้ลงโฆษณาในข้อความแบบนี้ เพราะมีลักษณะในการพาดพิง และหมิ่นประมาทตน


 


หลังจากพูดคุยกับผู้สื่อข่าว นางสดศรีได้รุดเข้าไปหารือกับนายเกียรติชัย พงษ์พานิช ส.ส.ร. และผู้บริหารสื่อในเครือมติชนอย่างเคร่งเครียด พร้อมกับลุกไปหารือข้างนอกห้องประชุมประมาณ 10 นาที ซึ่งภายหลังจากการหารือเสร็จ นายเกียรติชัย ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังกองบรรณาธิการของนสพ.มติชน เพื่อสอบถามถึงที่มาที่ไปของโฆษณาชุดนี้


 



ต่อมานางสดศรี ได้ขึ้นไปแถลงข่าวบนเวทีเสวนาว่า ตนทำงานในฐานะกรรมาธิกายกร่างฯ ส.ส.ร. และกกต.ด้วยความลำบากใจ และในฐานะ กกต.ก็ต้องทำงานด้วยความเป็นกลาง ซึ่งทุกครั้งที่มีการรณรงค์ให้มีการออกเสียงประชามติ ก็ได้ตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่า ว่าไม่ควรพูดในเรื่องที่ว่ารัฐธรรนูญฉบับนี้ดีอย่างไร เพราะถึงแม้จะดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ่ แต่ปรากฎว่าหนังสือพิมพ์มติชน ได้ลงโฆษณาหลายครั้งหลายหน ในลักษณะโจมตีส.ส.ร. ซึ่งไม่ใช่เฉพาะตน แต่ได้โจมตี ส.ส.ร.มาตลอดว่า เป็นคนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) หรือบอกว่าส.ส.ร.เป็นเผด็จการ ซึ่ง ส.ส.ร.ก็ไม่เคยมีใครโต้ตอบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมานี้ ได้มีการลงหนังสือพิมพ์มติชนอีกเหมือนกันในหน้า 32 ซึ่งลงรายละเอียดเป็นรูปปากกระบอกปืน และเชิญชวนให้ล้มร่างรัฐธรรมนูญ


 


ซึ่งเรื่องนี้แม้จะไม่มี ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ แต่ในส่วนนี้มีการพูดว่า "คณะรัฐประหารพยายามอย่างเต็มที่ อยากให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน เช่น ในวิทยุในสังกัดกองทัพบก ออกอากาศเชิญชวนให้ประชาชนออกเสียงประชามติรับรองร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เนื่องในวโรกาสฉลองพระชนมายุ 80 พรรษา หรือไม่ก็ออกมาข่มขู่ประชาชนอยู่เนืองๆ ว่าการโหวตล้มร่างรัฐธรรมนูญผิดกฎหมายตามคำสัมภาษณ์ของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ"


 


"ซึ่งข้อความแบบนี้เป็นการหมิ่นประมาทกัน ดิฉันจึงจำเป็นที่จะต้องฟ้องนสพ.มติชน ในนามของกกต. และส.ส.ร.เพราะว่าดิฉันอยู่ในหลายสถานภาพ การลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์แบบนี้ เป็นการหมิ่นประมาท เพราะดิฉันยังไม่เคยพูด และไม่เคยให้สัมภาษณ์ในเชิงข่มขู่ ให้ประชาชนออกเสียงประชามติ อยากถามว่าหนังสือพิมพ์มติชนไปเอาข้อความนี้มาจากไหน และเอาหลักฐานมาจากไหน ว่าดิฉันข่มขู่ประชาชน ดังนั้นการกระทำของหนังสือพิมพ์มติชน จะต้องรับผิดชอบต่อจรรยาบรรณของตนเอง" นางสดศรีกล่าว



นางสดศรี กล่าวต่อว่า ในการลงหมิ่นประมาท จะเห็นว่าส.ส.ร.และกกต. ไม่เคยโต้ตอบอะไรเลย หนังสือพิมพ์ไม่ว่าฉบับใดก็ตาม ไม่มีสิทธิที่จะหมิ่นประมาท เพราะการที่เอาสิ่งไม่จริงมาพูด ดังนั้นตนจึงอยู่ในฐานะผู้เสียหาย และขอให้หนังสือพิมพ์มติชนช่วยตระหนักด้วยว่า ท่านมีจรรยาบรรณของท่านอยู่ การที่จะลงประชาสัมพันธ์ในลักษณะกล่าวหาบุคคลอื่นเช่นนี้เป็นการผิดหรือไม่ อย่านึกว่าพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติยังไม่ออกแล้วไม่มีโทษ ความจริงแล้วมันไม่ใช่ เพราะการหมิ่นประมาทคนก็ต้องมีโทษ ตนเป็นกกต. และผ่านการเป็นผู้พิพากษามาแล้ว ไม่อยากมีเรื่องกับใคร โดยเฉพาะอย่างหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนทุกแขนง ไม่อยากจะมีเรื่อง พูดเรื่องจริงไม่อยากจะข้องแวะอะไรด้วย เราต้องปิดปากมาตลอด แต่การทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง


 



"ดิฉันไม่เคยดูถูกใคร และมีความเชื่อมาตลอดว่า หนังสือพิมพ์ทุกท่านเป็นอาชีพที่มีเกียรติ์ เป็นฐานันดร 4 เป็นนกน้อยในไร่ส้ม การกระทำแบบนี้ของท่าน จึงเสมือนเป็นการไม่รับผิดชอบต่อ ส.ส.ร. อยากฝากเตือนว่าไม่ใช่ว่าจะให้อำนาจเงินมาซื้ออะไรก็ได้ ท่านต้องรับผิดชอบในประเด็นที่เกิดขึ้น และช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองสู่หนทางที่ถูกต้อง ส.ส.ร.หลายคนเป็นคนที่มีเกียรติ์ ถ้าเราไม่ออกมาตอบโต้ ทุกอย่างก็จะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา วันนี้เรามีนายเกียรติชัย ซึ่งเป็นส.ส.ร.เป็นผู้บริหารของมติชน จึงอยากให้ท่านมาชี้แจงในประเด็นนี้ด้วย "นายสดศรี กล่าว


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงช่วงนี้ส.ส.ร.ที่อยู่ในห้องประชุม ได้พร้อมใจกันปรบมือให้กับนางสดศรี


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของนายเกียรติชัย พงษ์พานิช ส.ส.ร. ในฐานะผู้บริหารสื่อในเครือมติชน ได้ลุกขึ้นแสดงความเห็นในการประชาสัมพันธ์ตามปกติ โดยไม่ได้ตอบโต้นางสดศรี แต่กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า สิ่งที่ตนจะพูด ไม่ใช่พูดในฐานะมติชน เพราะขณะนี้ตนเป็นน้ำที่หลอมรวมกับส.ส.ร.ส่วนใหญ่ ส.ส.ร.รู้สึกเช่นไรก็รู้สึกเช่นนั้น ถ้าจะพูดในฐานะมติชน คงเป็นโอกาสต่อไป แต่ทั้งหมดอยากทำความเข้าใจว่าเป็นเรื่องตัวบุคคล


 



สำหรับการลงโฆษณาต่อต้านรัฐธรรมนูญ ได้มีชื่อของกลุ่ม 19 กันยา ต้านรัฐประหาร พร้อมกับลงข้อความของนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย



 


 


ที่มา : เว็บไซต์คมชัดลึก


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net