Skip to main content
sharethis

การเมือง


ชี้ปชช.ไม่รับร่างปัญหาจะไม่จบ


เว็บไซต์คมชัดลึก - พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาระบุว่าการรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ ว่า เรื่องนี้ตนเตรียมที่จะลงไปพบปะกับประชาชนในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ โดยจะบอกให้เขาใช้วิจารณญาณและดุลพินิจของแต่ละคนในการที่จะเห็นชอบหรือไม่เห็น รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะว่ากระแสข่าวที่ออกมามีทั้งสองด้าน คือ กลุ่มหนึ่งรณรงค์ให้คว่ำบาตร อีกกลุ่มหนึ่งรณรงค์ให้รับเพื่อจะให้เป็นไปตามที่ทางฝ่ายรัฐบาล คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) สภาร่างรัฐธรรมนูญ และ สนช. ได้ร่วมกันเดินตามโรดแม็พที่จะให้ไปสู่การเลือกตั้ง


 



"การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อร่างรัฐธรรมนูญได้รับประชามติมันถึงจะเรียบร้อย ถ้าหากว่าไม่รับประชามติแล้วก็จะเป็นปัญหาที่วุ่นวายต่อเนื่องไม่จบง่ายๆ ฉะนั้นการรับร่างหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ทั้งนี้ถ้ารับร่างรัฐธรรมนูญก็จะเป็นการดีต่อบ้านเมือง และคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่หวังจะให้มีการเลือกตั้งเพื่อให้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และเป็นประชาธิปไตย และทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่สภาพปกติ" พล.อ.บุญรอด กล่าว



 


สั่งทุกกองทัพทำความเข้าใจปชช.ร่างรธน.ไฟเขียวใช้สื่อกองทัพ


เว็บไซต์เดลินิวส์ -พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า การประชุมผู้บังคับหน่วยกองทัพบก (นขต.)ประจำเดือน ก.ค.ในวันนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินผบ.ทบ.ได้กล่าวต่อที่ประชุมถึงการทำงานของกองทัพบกในช่วงที่ผ่านมาว่ากำลังพลของกองทัพบกต้องทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลสถานการณ์ของประเทศให้เข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์และแผนงานที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ทราบดีว่าเจ้าหน้าที่ทหารเหน็ดเหนื่อยอย่างมากในการปฏิบัติหน้าที่ในทุกภารกิจ อย่างไรก็ตามสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเรื่องที่ทุกคนเกิดความกังวลและเป็นห่วง แต่ผบ.ทบ.มิได้กังวลกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากงานต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการมาเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการในทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง


 



รองโฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า พล.อ.สนธิ ยังได้กล่าวในที่ประชุมว่าในช่วงต่อไปจะเป็นการจัดทำประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกหน่วยของกองทัพบกจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญให้กำลังพล ครอบครัว และประชาชนได้เข้าใจ เพื่อนำไปสู่การลงประชามติต่อไป ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ได้มอบหมายให้ทุกกองทัพภาคไปพิจารณาแนวทางการเผยแพร่ และทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยพิจารณาใช้ทุกช่องทางในการชี้แจง อาทิ การใช้สื่อของกองทัพ การใช้กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ซึ่งผบ.ทบ.ได้ยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 เป็นรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิเสรีภาพต่อประชาชนมากกว่าฉบับที่ผ่านมา


 



 "มัชฌิมา" จะเอาใจช่วยให้ผ่านประชามติ


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ- นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา แถลงว่า แม้กลุ่มมัชฌิมาจะยังไม่ค่อยเห็นด้วยในหลายประเด็น อาทิเช่น การไม่บัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบรวมเขตเรียงเบอร์ การกำหนดให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) บางส่วนมาจากการแต่งตั้ง อีกส่วนหนึ่งมาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งการจำกัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบห้ามเกี่ยวข้องทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี


 



อย่างไรก็ตาม เราจะเคารพมติของประชาชนที่จะไปตัดสินในวันลงประชามติ 19 ส.ค. โดยกลุ่มมัชฌิมาจะคิดอ่านแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคต โดยคิดว่าให้มีการเลือกตั้งไปก่อนดีกว่า แม้จะคืนไม่สุดก็ดีกว่าไม่คืนเลย ทั้งนี้ เราจะรณรงค์ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบถึงข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญให้ประชาชนตัดสินใจเอาเอง โดยที่เราจะไม่ไปชี้นำ อย่างไรก็ดี กลุ่มมัชฌิมาก็จะขอเอาใจช่วยให้รัฐธรรมนูญผ่านประชามติ


 



ส่วนกรณีที่กลุ่มไทยรักไทย ประกาศรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 นั้น เชื่อว่าไม่น่าเป็นห่วง เราจะต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนในหลายประเด็น ซึ่งเมื่อดูภาพรวมแล้ว คิดว่าประชาชนจะสามารถตัดสินใจได้



 


ม.เที่ยงคืนเปิดเวบไซต์ล่ารายชื่อไม่รับรธน.


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ- รศ.สมเกียรติ ตั้งนโม อธิการบดี มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เปิดเผยว่า กลุ่มนักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เตรียมการที่จะเคลื่อนไหวผลักดันไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปีพ.ศ.2550 ภายหลังจากที่สมาชิกร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ลงมติเห็นชอบในการรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว โดยได้เตรียมที่จะมีการประชุม เพื่อหารือกันภายในกลุ่มเกี่ยวกับแนวทางของกลุ่มว่า จะเป็นไปในทิศทางใดต่อไป


 


สำหรับแนวทางในการเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนมีแนวทางในการเคลื่อนไหวผลักดันในการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยได้มีการจัดทำเวบไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เพื่อเปิดรับรายชื่อของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว



ขณะนี้ ทางกลุ่มมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ได้เตรียมประชุมในสัปดาห์หน้า โดยมีแนวคิดที่จะจัดรณรงค์ให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ทำการตกแต่งรถหรือยานพาหนะด้วยสีผ้าเขียวแล้วขับแห่ไปทั่วเมือง เนื่องจากธงเขียวเปรียบได้กับสัญลักษณ์ของการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญของประชาชนในปี 2540 ซึ่งถือเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง



 


"จักรภพ"ยัน พรุ่งนี้ม็อบไม่เคลื่อนขบวน


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 20.30 น.ว่า การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) วันนี้ เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากฝนตกลงมา และการจราจรติดขัดตลอดทั้งวัน ทำให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมบางตา มีเพียงประมาณพันคน แต่แกนนำก็ยังคงปราศรัยกันอย่างต่อเนื่อง


 


นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปก.กล่าวว่า แม้วันนี้ สสร.มีมติรับร่างไปแล้วก็ตาม แต่ นปก.ยังเดินหน้าเชิญชวนให้ประชาชนช่วยกันลงคะแนน ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ส่วนกรณีที่มีการโยนฝาเข่งพวงหรีดชื่อของ สสร.เข้าไปในรัฐสภา จนถูกกล่าวหาว่าเป็นม็อบถ่อยนั้น การกระทำดังกล่าวเกิดจากผู้ชุมนุมบางคน ไม่ได้นัดหมายหรือเตรียมแผนการไว้ล่วงหน้า เมื่อเห็นว่าไม่ถูกต้องก็ได้เข้าห้ามปรามทันที ขอยืนยันว่าการชุมนุมเป็นไปโดยสงบ


 


นายจักรภพ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ นปก.วันพรุ่งนี้ ว่าได้หารือแกนนำกันแล้วว่าจะไม่เคลื่อนขบวน ถ้าจะเคลื่อนคงเป็นวันอาทิตย์ ส่วนสถานที่ใดนั้นยังไม่ได้พูดคุยกันในระดับแกนนำ สำหรับการลงประชามติในวันที่ 19 สิงหาคมนั้น นปก.พร้อมอำนายความสะดวกให้ประชาชนเดินทางไปใช้สิทธิลงประชามติ โดยหยุดการชุมนุมวันนั้น เพราะถือเป็นวันตัดสินอนาคตทั้งของ คมช. และ นปก. รวมทั้งอนาคตของประเทศไทยรอบ 2 ว่าจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป ถ้าจะเกิดวิกฤติรอบ 2 ก็คือช่วงหลังวันที่ 19สิงหาคมนี้


 


 


โฆษก กต. เชื่อหลังคณะทูต 18 ประเทศ ร่วมหารือกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวง จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย


กรมประชาสัมพันธ์ -นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ร่วมหารือกับคณะทูต 18 ประเทศ โดยอ้างว่าจนถึงวันที่ 19 สิงหาคม จะมี 2 ประเทศ เตรียมที่จะประท้วงรัฐบาลไทย ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับทราบล่วงหน้าเรื่องดังกล่าวแล้วจากคณะทูตว่าจะมีการหารือเกิดขึ้น แต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละประเทศ


 



ส่วนจะเป็นเรื่องที่ผิดธรรมเนียมทางการทูตหรือไม่ อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มีการปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลของคณะทูตต่างประเทศ ขณะที่คณะทูตต่างประเทศในประเทศไทย ก็มีอิสรภาพในการหาข้อมูลอยู่แล้ว เชื่อว่าน่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะคณะทูตจะไม่รับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียว ส่วน 2 ประเทศที่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ระบุว่าจะออกมาประท้วงนั้น ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้รับรายงานว่าเป็นประเทศใด อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า สหรัฐและยุโรป ไม่มีประเทศใดติดใจเรื่องประชาธิปไตยในประเทศไทย เพราะเห็นกระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลาที่รัฐบาลเคยประกาศไว้


 



สำหรับก่อนหน้านี้ที่นายจักรภพ ออกมาอ้างว่า จะมีบางประเทศลดระดับความสำคัญ เพื่อเป็นการประท้วงประเทศไทยโดยจะไม่ส่งเอกอัครราชทูตเข้าประจำการในประเทศไทย แต่จะส่งระดับอุปทูตมาแทนนั้น นายธฤต กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้ส่งเอกอัครราชทูตเข้ามาประจำการเรียบร้อยแล้ว



 


รอง ผบ.ตร.ฝ่ายบริหารเผย ตร.ยินดีรับข้อเสนอแนะจากอดีตผู้บริหาร ตร.


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น -พล.ต.อ.ชาญวุฒิ วัชรพุกก์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตฝ่ายบริหาร กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มอดีตผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมตัวกันหารือ ไม่เห็นด้วยกับการที่คณะรัฐมนตรีผ่านร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ....ที่จะทำโดยคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ ว่า ผู้ใหญ่มาประชุมกหารือด้วยความห่วงใย ตอนแรกคิดว่าตนเองพูดอยู่คนเดียว เมื่อผู้ใหญ่หลายท่านเห็นตรงกันโดยไม่ได้นัดหมายก็เป็นเรื่องน่ายินดี อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมรับข้อมูลและข้อเสนอแนะจากผู้ใหญ่ แต่คงให้ท่านผลักดันในส่วนของท่าน เพราะผู้ใหญ่ท่านรวมตัวจากสมาคมตำรวจ สมาคมข้าราชการบำนาญ ส่วนของ ตร.นั้นยังรับราชการตำรวจกันอยู่ ถ้าไปคัดค้านรุนแรงเกรงเสียมารยาทเพราะผู้ที่อนุมัติคือ ครม. แต่ขณะนี้ ตร.เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างที่ ตร.ทำขึ้น พร้อมที่จะไปเสนอในกฤษฎีกาแล้ว


 


พล.ต.อ.ชาญวุฒิ กล่าวด้วยว่า ได้ดูร่างกฎหมายที่นำเข้า ครม.แล้ว ไม่แห็นตรงไหนว่าให้ตำรวจไปอยู่สังกัดกระทรวงยุติธรรม สอบถามแล้วก็ไม่มี คงต้องถามคนที่ออกมาพูดว่าต้องการอะไรจึงพูดเช่นนั้น มาบอกว่าตำรวจต้องไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม ไม่รู้ว่าที่ออกมาพูดเพราะต้องการโยนหินถามทางหรือไม่


 


 


ทีมทนาย "แม้ว" เตรียมยื่นเพิกถอนอายัดทรัพย์สัปดาห์หน้า


เว็บไซต์แนวหน้า - นาย นพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทีมกฎหมายตระกูลชินวัตร กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อ คตส.ที่ไม่มีคำสั่งเพิกถอนอายัดทรัพย์ตามที่ยื่นหนังสือโนติสมายัง คตส. ซึ่งจะครบกำหนด 3 วัน โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายว่า ภายในสัปดาห์หน้าทางทีมทนายจะมีการยื่นหนังสือถึง คตส.เพื่อเพิกถอนอายัดทรัพย์ทั้งหมดที่ คตส.ทำการอายัดไว้ จำนวน 7.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลักฐานทั้งหมดที่จะยื่นในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับบัญชีเงินได้ รวมทั้งแหล่งที่มาเกี่ยวกับรายได้ทั้งหมด รวมทั้งทีมทนายจะยื่นฟ้องคดีทางแพ่งต่อ คตส.ทั้ง 11 คน ส่วนค่าเสียหายในคดีทางแพ่งเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นล้าน ทั้งนี้สาเหตุที่ฟ้อง คตส.เพราะการอายัดทรัพย์สินดังกล่าวทำให้ครอบครัวชินวัตรไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ และทำให้ครอบครัวชินวัตรเสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ


 



นายนพดล กล่าวว่า ส่วนจะมีการดำเนินการฟ้องทางคดีอาญาหรือไม่ ทีมทนายคงต้องรวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องในคดีทางแพ่งเสียก่อนที่จะดำเนินการฟ้องทางคดีอาญาต่อไป อย่างไรก็ตามในวันเสาร์ที่ 7 ก.ค.ตนจะแถลงข่าวเกี่ยวกับการซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเซสเตอร์ ซิตี้


 


 


กองทุนหมู่บ้านน่าน 89 แห่ง ผ่านความเห็นชอบให้เป็นนิติบุคคลแล้ว


กรมประชาสัมพันธ์ - นายชเนรินทร์ สมินทรปัญญา ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน แจ้งว่า จากการที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านแห่งชาติ ได้อนุมัติให้หมู่บ้านและชุมชนเมืองในจังหวัดน่าน จัดตั้งกองทุนหมู่บ้านได้ครบ ทุกหมู่บ้านรวมทั้งสิ้น 883 กองทุน และพยายามส่งเสริมให้ทุกกองทุนพัฒนาจนยกสถานะขึ้นเป็นนิติบุคคล นั้น ซึ่งต่อมา คณะอนุกรรมการสนับสนุนและติดตามการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดน่าน ได้พิจารณากองทุนที่ยื่นคำขอจดทะเบียน


 


ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2550 โดยมี นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่านเป็นประธาน การพิจารณา ผลปรากฏว่ามีกองทุนผ่าน ความเห็นชอบให้ยื่นจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจากอำเภอต่างๆ รวม 70 กองทุน ประกอบด้วยอำเภอเมือง 4 กองทุน กิ่งอำเภอภูเพียง 2 กองทุน เวียงสา 2 กองทุน บ้านหลวง 1 กองทุน นาหมื่น 26 กองทุน และ อำเภอปัว 12 กองทุน หากกองทุนเหล่านี้ผ่านขั้นตอนการจดทะเบียนแล้ว เมื่อรวมของเดิมจะมีถึง 89 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 8.95



 


ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน แจ้งอีกต่อไปว่า หลักเกณฑ์ในการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ นั้น ส่วนใหญ่จะพิจารณาว่า หองทุนเหล่านั้น มีสถานที่ชัดเจน มีความพร้อมในการขอ จดทะเบียน สมาชิกกองทุนไม่ต่ำหว่าร้อยละ 50 เห็นชอบให้จด มีคณะกรรมารบริหาร มีทุนหมุนเวียน เกิน 1 ล้านบาท มีหนี้ค้างชำระไม่เกิน ร้อยละ 15 ของจำหนวนเงินกู้ทั้งหมด และมีการประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวให้สมาชิกทราบเป็นระยะ สำหรับการกู้ยืมของสมาชิกกองทุนนั้น กู้เพื่อทำการเกษตร ปศุสัตว์ การประมง ทำกลุ่มออกทรัพย์เพื่อการผลิต และนำไปบรรเทาเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ มากที่สุดคือทำสัญญากู้ระหว่าง 10 - 12 เดือน รองลงไปคือ ระหว่าง 4 ถึง 6 เดือน


 


 


ชี้ไอซีทีมีอำนาจปิดเว็ป"ทักษิณ" หากเห็นว่ากระทบความมั่นคง


เว็บไซต์คมชัดลึก - พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศที่จะเปิดเว็ปไซต์ส่วนตัวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีต่างๆ ว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จะเป็นผู้พิจารณาว่า เว็บไซต์ที่อดีตนายกรัฐมนตรีจะเปิดมันกระทบอะไรบ้าง ถ้าหากว่าไม่กระทบอะไรก็คิดว่าเป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่หากเปิดออกมาแล้วเป็นการกระทำก็เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงไอซีทีก็จะสั่งปิด


 



"ผมยกตัวอย่างถึงเรื่องผลกระทบ หมายถึงว่า ถ้าเปิดเว็บไซต์ออกมาแล้วโจมตีในเรื่องการพิพากษาของศาลตุลาการรัฐธรรมนูญ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ" พล.อ.บุญรอด กล่าว


 



เมื่อถามว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงไม่ยอมกลับมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ตนเคยบอกแล้วว่าควรจะกลับมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าหากมั่นใจว่าตัวเองบริสุทธิ์ และกลับมาต่อสู้มันก็จะมีโอกาสที่จะสามารถกลับมาทำงานทางการเมืองในภายภาคหน้าได้


 



เมื่อถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กล้ากลับมาช่วงนี้เพราะกลัวความผิดเกี่ยวกับคดีต่างๆ จนถึงขั้นติดคุก พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า "ผมว่าทุกคนคงจะเห็นอย่างที่สื่อมวลชนถาม ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลัวที่จะกลับมามากกว่า ดังนั้นจึงได้มีการต่อสู้อยู่ข้างนอก"


 


 


นายกฯยันไม่สั่งปิดเว็บไซต์ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาแทนการเดินทางกลับเข้าประเทศ


กรมประชาสัมพันธ์ -พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเปิดเว็บไซต์ เพื่อชี้แจงคดีต่าง ๆ ว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม โดยหากพ.ต.ท.ทักษิณ จะดำเนินการด้วยวิธีนี้ก็สามารถทำได้ แต่เห็นว่า วิธีที่ดีทีสุดควรเดินทางมาชี้แจงต่อศาล ซึ่งในส่วนของรัฐบาลที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าไม่เคยแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม พร้อมกับให้คำมั่นว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับเข้าประเทศรัฐบาลจะให้ดูแลด้านความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และจะไม่มีการสั่งให้ปิดเว็บไซต์ดังกล่าวเนื่องจากได้ยกเลิกประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค.ฉบับที่ 5 แล้ว อย่างไรก็ตาม การเปิดเว็บไซต์ของพ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ทำให้เกิดความสับสนและประชาชนน่าจะเข้าใจ


 



ส่วนกรณีที่กลุ่มไทยรักไทยจะทำการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองเดิมได้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งส่วนตัวคงไม่สามารถบอกได้



 


ผบ.ทอ. ระบุ การต่อสัญญาให้กองทัพสิงคโปร์ใช้พื้นที่ฝึกในประเทศไทยต่อไปอีก ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์


กรมประชาสัมพันธ์ -พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุก ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. กล่าวว่า กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีมติต่อสัญญาให้กองทัพสิงคโปร์ใช้พื้นที่สนามฝึกของกองทัพบก ที่ จ.กาญจนบุรี ต่อไปอีกนั้น ยืนยันว่า ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือระหว่างของทั้ง 2 ประเทศ และที่ผ่านมา สิงคโปร์นับเป็นมิตรประเทศที่ดีสำหรับไทย เนื่องจากคอยให้ความช่วยเหลือไทยมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปด้วยความจริงใจ


 



ส่วนโครงการจัดซื้อจัดหาเครื่องบิน F-16 ทดแทนเครื่องบิน F-5 ของกองทัพอากาศ ที่กำลังจะปลดประจำการนั้น พลอากาศเอกชลิต ระบุว่า ยังไม่มีความคืบหน้า โดยยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาศึกษารายละเอียด ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี จึงจะสามารถจัดซื้อได้



 


กกต.ยืนยัน ร่าง พรบ.ออกเสียงประชามติเป็นร่างของ สสร.


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - หลังจากที่มีเสียงวิจารณ์ถึงเนื้อหาและบทลงโทษในร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ยืนยันร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เป็นร่างที่สภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.เป็นผู้ยกร่าง ดังนั้น การที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ระบุว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นร่างของ กกต.จึงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง


 


ขณะเดียวกันยืนยันว่า การกำหนดบทลงโทษและกำหนดความผิดในร่างพระราชบัญญัติที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่ามีความรุนแรงเกินไป อาทิ การห้ามวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ และการห้าทำโพลล์สำรวจความเห็น ส่วนใหญ่เป็นไปตามร่างของ สสร.


 


"ความจริงแล้วเป็นร่างที่คณะกรรมาธิการของ สสร.คือกรรมาธิการยกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการเสียงประชามติของสภาร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้ยกร่างขึ้น โดยได้มีการยกร่างและได้ส่งร่างไปให้ กกต."


 


นางสดศรี ยังขอให้ประธาน สนช.ระมัดระวังในการให้ความเห็น โดยควรมีการตรวจสอบข้อมูลให้มีความชัดเจนก่อน


 


 


คนโคราช-ขอนแก่น รวมตัว"สู้เพื่อป๋า" ยื่นหนังสือค้าน นปก.


เว็บไซต์แนวหน้า -กลุ่มพลังมวลชนกว่า 5,000 คน ในจังหวัดนครราชสีมา ได้รวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษที่บริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) หลังจากที่ถูกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) เคลื่อนไหวคัดค้านและแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พร้อมกันนี้ กลุ่มพลังมวลชนยื่นหนังสือและแถลงการณ์ของแต่ละองค์กรต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะแยกย้ายเดินทางกลับ


 



และที่จังหวัดขอนแก่น 8 องค์กร รวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัด ได้มีตัวแทนมอบช่อดอกไม้ให้กับหน่วยงาน ผ่านไปเป็นกำลังใจถึง พล.อ.เปรม พร้อมกับยื่นจดหมายเปิดผนึกคัดค้านการกระทำของกลุ่ม นปก.เช่นเดียวกัน


 


 


คุณภาพชีวิต


เผยคนไทยฆ่าตัวตายทุก 2 ชม. - เหนือตอนบนยอดพุ่ง


เว็บไซต์เดลินิวส์ -นพ.วัลลภ ไทยเหนือ รมช.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานเปิดสัมมนาพยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สาขาวิชาชีพต่างๆ ใน จ.เชียงใหม่และลำพูน กว่า 100 คน เกี่ยวกับการป้องกันการฆ่าตัวตายของผู้ป่วยจิตเวชหลังผ่านการบำบัดและออกจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่ในชุมชน ซึ่งจัดโดยศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตาย โรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ ว่า ประเทศไทยพบอัตราการฆ่าตัวตายลดลงจากแสนละ 8.6 ใน พ.ศ.2542 เหลือแสนละ 5.7 ในปี 2549 โดยมีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จปีละประมาณ 4,000 คน เฉลี่ยวันละ 13 คน หรือฆ่าตัวตาย 1 คนในทุก ๆ 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา และแพร่ มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุด พบแสนละ 12 คน ภาคใต้ต่ำสุดแสนละ 5 คน โดยพบว่าผู้ที่ฆ่าตัวตายสำเร็จร้อยละ 90 มีโรคทางจิตร่วมด้วย ที่พบบ่อยได้แก่ โรคซึมเศร้า และใช้สุราร่วมด้วย


 



นพ.วัลลภ กล่าวต่อว่า สธ.ได้บรรจุเรื่องการป้องกันการฆ่าตัวตายเป็นวาระสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายให้ลดอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จลงไม่เกิน 5.4 ต่อแสนประชากร และมอบนโยบายเร่งรัดให้ทุกจังหวัดดำเนินงานป้องกันการฆ่าตัวตายร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง เน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการค้นหาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต เพื่อบำบัดรักษา และพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรให้สามารถดูแลต่อในชุมชนได้


 



ด้าน นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพจิตของคนไทยขณะนี้ คาดมีคนป่วยทางจิตแล้วประมาณเกือบ 4 ล้านคน ซึ่งน่าวิตกมาก เนื่องจากผู้ที่คิดฆ่าตัวตายส่วนใหญ่จะมีปัญหาทางจิต ผลการวิเคราะห์อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในภาพรวม 8 จังหวัดภาคเหนือ พบว่า เพศชายฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าหญิงสัดส่วน 3:1 ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไปมีมากที่สุด และใช้วิธีแขวนคอมากที่สุด รองลงมาคือการกินยาฆ่าแมลง ตัวที่กระตุ้นให้เกิดการฆ่าตัวตายคือ ความน้อยใจ การดื่มเหล้า โดยเฉพาะยาดองเหล้า ซึ่งคนทั่วไปมักเข้าใจว่าเป็นยาบำรุงสุขภาพ ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะแอลกอฮอล์จะมีผลกดการทำงานของระบบประสาท ทำให้การสั่งงานสูญเสียไป ยิ่งคนที่มีอาการทางจิตและกินยาควบคุมอาการอยู่ด้วย หากกินเหล้าซ้ำเข้าไปอีก จะทำให้ฤทธิ์ยาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ทางจิตได้เต็มที่


 


 


หมอกควันไฟป่า อินโดฯกระทบสงขลา -สตูล ทำให้ประชาชนเริ่มป่วย โรคทางเดินหายใจ


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -ปัญหาหมอกควันไฟป่าจากอินโดนีเซียปกคลุมเพิ่มขึ้น ล่าสุดขยายวงกว้างถึง จ.สงขลา ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา รายงานสภาพอากาศใน จ.สงขลา ว่า วันนี้ เริ่มมีกลุ่มหมอกควันเข้ามาปกคลุมหลายพื้นที่ และจากการตรวจสอบทางภาพถ่ายดาวเทียมพบไฟไหม้ป่าหลายจุดบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ประกอบกับระยะนี้ในพื้นที่ภาคใต้มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน จึงหอบกลุ่มหมอกควันเข้ามายังพื้นที่ แต่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนหรือไม่นั้น ต้องให้กรมควบคุมมลพิษตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นในหลายจังหวัดภาคใต้ ซึ่งจะช่วยชะล้างหมอกควันที่ปกคลุมยู่ได้ในระดับหนึ่ง


 


ส่วนที่ จ.สตูล หมอกควันปกคลุมมาเป็นวันที่ 3 หนาแน่นขึ้นกว่าเดิม ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ถึง 1 กิโลเมตร ประชาชนเริ่มเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ทั้งคัดจมูก แสบตา และน้ำตาไหล โดยเฉพาะตามคลินิกหลายแห่งมีเด็กเล็กและผู้สูงอายุเข้ารับการรักษาหลายราย ซึ่ง นพ.สุนทร เจริญสุข เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมืองสตูล กล่าวว่า หลังจากหมอกควันปกคลุมมาหลายวัน มีประชาชนเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละกว่า 50 คน จากปกติวันละ 20-30 คน สำหรับรถตรวจสภาพอากาศเคลื่อนที่ของกรมควบคุมมลพิษที่มาประจำในพื้นที่ภาคใต้ก่อนหน้านี้ ล่าสุดตรวจวัดคุณภาพอากาศค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หากเกิน 120 ไมโครกรัม ถือว่าเกินมาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ


 


 


ผู้จัดรายการทีวี ยืนหนังสือค้าน แนวทางจัดเรตติ้ง


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการจัดเรตติ้งรายการทีวี ทั้งนี้ หนังสือร้องเรียนระบุว่า สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพฯ ในฐานะเป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบวิชาชีพด้านวิทยุและโทรทัศน์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เห็นด้วย และไม่ยอมรับกับนโยบายการกำหนดช่วงเวลาออกอากาศดังกล่าว และขอเรียกร้องให้มีการยกเลิก และทบทวนแก้ไขปรับปรุงนโยบายการกำหนดช่วงเวลาออกอากาศดังกล่าว โดยให้ยกร่างระเบียบการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อโทรทัศน์ขึ้นใหม่ทั้งหมด เปิดโอกาสให้มีตัวแทนผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ องค์กรผู้ประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ องค์กรสมาคมวิชาชีพ หรือตัวแทนผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ เข้าไปมีส่วนร่วมดำเนินการในทุกขั้นตอน


 


นอกจากนี้ สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพฯ ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการจัดเรตติ้งแบบใหม่ของกรมประชาสัมพันธ์ และได้แสดงจุดยืน 4 ข้อ อาทิ เห็นด้วย และสนับสนุนการนำระบบเรตติ้ง ที่ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.49 มาใช้อย่างเต็มที่ แต่ไม่เห็นด้วย และไม่ยอมรับ กับแนวคิดการนำระบบการกำหนดเวลาออกอากาศมาใช้คู่กัน เพราะเห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ขาดความรอบคอบ ขาดการไตร่ตรอง และไม่คำนึงถึงประโยชน์ของผู้บริโภคสื่อทุกกลุ่มมีเนื้อหาคลุมเครือ ยากแก่การตีความ และการกำหนดขอบเขตความหมายที่แน่นอนชัดเจน


 


เศรษฐกิจ


"โฆสิต" สวนหมัด "ขุนคลัง" ชี้ดอกเบี้ยยังลดได้อีก 0.25-0.50%


ผู้จัดการออนไลน์ -นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ โดยระบุว่า น่าจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีกเล็กน้อย ขณะที่เรื่องการบริโภคภายในประเทศ และอัตราเงินเฟ้อยังไม่น่าเป็นห่วง


 


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความชัดเจนของระดับอัตราดอกเบี้ยที่จะสามารถปรับลดลงว่าจะเป็น 0.25-0.50% ได้หรือไม่ ซึ่งนายโฆสิต กล่าวว่า "น่าจะใช่ในระดับนี้"


 


นายโฆสิต กล่าวอีกว่า รัฐบาลพยายามเร่งส่งเสริมการลงทุนเพื่อกระตุ้นให้มีการนำเข้าเครื่องจักร ซึ่งจะช่วยคลี่คลายปัญหาเงินบาทแข็งค่า แต่เชื่อว่าการที่เงินบาทผันผวนแข็งค่าขึ้นน่าจะเป็นปัญหาระยะสั้นๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะดูแลให้เหมาะสม


 


โดยก่อนหน้านี้ นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ ถึงจุดที่อยู่ในระดับต่ำสุดแล้ว โดยเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยในยุโรปเริ่มจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐก็คงตัวไม่มีการปรับลดลง อย่างไรก็ตามคงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 18 ก.ค.นี้ จะปรับลดลงได้อีกหรือไม่ จากระดับที่ปัจจุบันดอกเบี้ยอ้างอิงตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) ระยะ 1 วัน อยู่ที่ 3.5%


 


 


เอเปก ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการเจรจาการค้าโลกอย่างเต็มที่


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -รัฐมนตรีกระทรวงการค้าจาก 21 เขตเศรษฐกิจสมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (เอเปก) ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการเจรจาการค้าโลกอย่างเต็มที่ กลุ่มเอเปกซึ่งครอบครองส่วนแบ่งการค้าโลกเกือบร้อยละ 50 ระบุว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องทำให้การเจรจาการค้าโลกรอบโดฮามีความคืบหน้า โดยเอเปกจะต้องแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองและความยืดหยุ่นในการเจรจา ซึ่งก็หวังเช่นกันว่า สมาชิกขององค์การค้าโลกจะดำเนินการอย่างเดียวกันนี้ด้วย


 


แถลงการณ์ของรัฐมนตรีการค้าเอเปกระบุว่า ความพยายามและการหาแนวทางสร้างความสมดุลเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้การเจรจาประสบความสำเร็จ นั่นคือการลดภาษีสินค้าอุตสาหกรรมและการเกษตร เพื่อทำให้การเข้าถึงตลาดเกิดขึ้นอย่างแท้จริง อีกทั้งลดการบิดเบือนทางการค้าที่เกิดมาจากการอุดหนุนสินค้าเกษตร ซึ่งการเจรจาการค้ารอบโดฮามีความสำคัญเป็นลำดับแรก แต่ก็ไม่ละเลยการบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคซึ่งจะนำเสนอร่างรายงานเรื่องนี้ต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก ที่นครซิดนีย์ในเดือนกันยายน


 


 


ความมั่นคง


ปิดปอเนาะนราฯพันป่วนใต้ สมาคมจี้ทบทวนกระทบนร.


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ -ความคืบหน้าในการสั่งปิดโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาหรือ "ปอเนาะ" ที่ตรวจสอบพบหลักฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ โดยวานนี้ ( 6 ก.ค.) นายณฐพลฒ์ วิเชียรเพริศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ซึ่งรับผิดชอบดูแลโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา (โรงเรียนปอเนาะ) เปิดเผยว่า ภายหลังได้เรียกประชุมด่วนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยมีตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส คณะกรรมการการศึกษาจังหวัดนราธิวาส เพื่อพิจารณากรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโรงเรียนอิสลามบูรพา อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส


 



ทั้งนี้สามารถตรวจยึดอาวุธปืน วัตถุระเบิด รวมทั้งอุปกรณ์ประกอบระเบิดและจับกุมผู้ต้องหาคดีก่อเหตุความไม่สงบได้ 7 คน โดยจับได้คาห้องพักของอุสตาซและหอพักนักเรียนชายภายในโรงเรียนดังกล่าว และสอบสวนขยายผลจับกุม นายฮารงณ์ บาเกาะ อายุ 43 ปี อุสตาซหรือครูสอนศาสนาและเป็นผู้ดูแลหอพักนักเรียนหญิงได้เพิ่มอีกรวมเป็น 8 คน และเตรียมออกหมายจับอุสตาซอีกหลายคนที่กำลังหลบหนี และเป็นเครือข่ายเดียวกันกับโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีนายมะแซ อูเซ็ง เป็นเจ้าของโรงเรียน


 



นายณฐพลฒ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติลงความเห็นว่าทางโรงเรียนดังกล่าว เป็นแหล่งที่มีการประชุมวางแผนการก่อการร้าย ปลูกฝังอุดมการณ์ที่เป็นภัยต่อประเทศชาติ หรือมีการใช้บริเวณโรงเรียนเป็นสถานที่ฝึกอาวุธและเป็นแหล่งหลบซ่อนของผู้ก่อเหตุร้ายหลังปฏิบัติการเสร็จสิ้นลงแล้ว จึงมีเหตุอันควรเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา 85 (1) และ (3) แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2525 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2550 ส่วนนักเรียนทั้งหมด 610 คน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ อำเภอตากใบและอำเภอเมือง เบื้องต้นได้ประสานไปยังเจ้าของโรงเรียนให้รับนักเรียนเข้าเรียนแล้ว


 



สำหรับครูทั้งหมด 59 คน แยกเป็นครูสอนสามัญ 26 คน ครูสอนศาสนาอีก 33 คนจะช่วยเหลือให้ทางโรงเรียนเอกชนสอนศาสนารับไว้ แต่ต้องหลังจากที่พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและยืนยันว่าครูบริสุทธิ์ จึงจะรับเข้าทำงานด้วยเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบภายหลัง


 



ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกประจำศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) กล่าวว่า การปิดโรงเรียนอิสลามบูรพาครั้งนี้ นับเป็นการนำร่องปิดโรงเรียนแห่งแรก ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมั่นใจว่าจะเป็นมาตรการที่ทุกฝ่ายจะยึดถือร่วมกันและที่สำคัญจะช่วยให้ประชาชน ครูและนักเรียนได้ตระหนักถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมการป้องกันการถูกฝ่ายตรงข้ามออกมาปฏิบัติการตอบโต้เจ้าหน้าที่เพื่อเอาคืนที่จับกุมแกนนำและปิดโรงเรียนด้วย โดยได้มีการตรึงกำลังและลาดเตระเวนพื้นที่สำคัญ 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ได้แจ้งไปยังหน่วยงานทุกพื้นที่ให้ระมัดระวังการถูกตอบโต้ด้วย


 



แหล่งข่าวจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) เปิดเผยว่า สถาบันการศึกษาหลายแห่งที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง และหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดเกี่ยวกับคดีความมั่นคงก็พร้อมที่นำมติการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตโรงเรียนมาเป็นบรรทัดฐานต่อไป



นายอับดุลรอนิ กาหามะ เลขานุการสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา ห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่ปรึกษาสถาบันการศึกษาปอเนาะ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกร้องให้ภาครัฐทบทวนการสั่งปิดโรงเรียนอิสลามบูรพา เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการเรียนของนักเรียน ขณะเดียวรัฐน่าจะแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าของโรงเรียนก่อนว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ การสั่งปิดโรงเรียนถือเป็นการกระทำที่เหมารวม โดยที่รัฐไม่ได้แยกแยะเลยว่าผู้บริหารโรงเรียนและบุคลากรของโรงเรียนมีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นกับการเข้ามาหลบซ่อนตัวของกลุ่มผู้ต้องหาที่ทางการจับกุมตัวได้หรือไม่


 



"หากรัฐตรวจสอบหรือมีข้อมูลในเชิงลึกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจริง รัฐน่าจะลงโทษด้วยการสั่งตัดเงินอุดหนุนก่อนในขั้นต้น แล้วค่อยออกมาตรการต่างๆ เข้าควบคุมโรงเรียนแห่งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทางโรงเรียนได้ปรับปรุงแก้ไขในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่หากทางโรงเรียนยังเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอีกก็เห็นสมควรที่ทางการจะสั่งปิด" นายอับดุลรอนิ กล่าวและว่า ถ้าผู้บริหารเห็นว่าการสั่งปิดโรงเรียนไม่ชอบธรรม ก็เสนอให้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านคณะกรรมมาธิการวิสามัญ ศึกษา สืบสวน สอบสวน สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้


 



ขณะที่ นายอับดุลอาซิส ยานยา สภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในฐานะประธานชมรมสถาบันปอเนาะ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยังผู้อำนวยการสถาบันปอเนาะและผู้นำศาสนากว่า 300 แห่ง ให้ร่วมกันเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมที่อาจจะมีการแฝงตัวเข้าไปปลุกระดมเยาวชนให้ออกมารวมตัวต่อต้านจากการสั่งปิดโรงเรียนอิสลามบูรพา จังหวัดนราธิวาส



"ในส่วนของชมรมสถาบันปอเนาะทั้งสามจังหวัดได้ร่วมกันจัดระเบียบสังคมปอเนาะใหม่ เพื่อความรัดกุมและปราศจากการแฝงตัวของกลุ่มขบวนการผู้ไม่หวังดี" นายอับดุลอาซิส กล่าว



 


 


ต่างประเทศ


ตำรวจและทหารยังคงปิดล้อมสุเหร่าแดงในปากีสถานเป็นวันที่ 4 แล้ว


กรมประชาสัมพันธ์ -เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของปากีสถานยังคงระดมกำลังเข้าปิดล้อมสุเหร่าแดงในกรุงอิสลามาบัด หลังจากรัฐบาลไม่ยอมรับข้อเสนอของนายอับดุล ราชิด กาห์ซีรองผู้นำกลุ่มหัวรุนแรงที่ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลไม่ตั้งข้อหาดำเนินคดีใดๆกับเขาและพวกหากเขายอมจำนน ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งประกอบด้วยนักศึกษาและกองกำลังติดอาวุธ ได้รวมตัวกันอยู่ภายในสุเหร่าดังกล่าว โดยใช้ผู้หญิงและเด็กเป็นโล่มนุษย์ป้องกันการบุกโจมตีจากฝ่ายทหารรัฐบาล.



 


เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังรักษาความมั่นคงของเยเมนกับกลุ่มมุสลิมเคร่งจารีต


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังรักษาความมั่นคงของเยเมนกับกลุ่มมุสลิมเคร่งจารีต เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดโจมตีนักท่องเที่ยวเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ 15 คน เจ้าหน้าที่ทางการเยเมน เปิดเผยว่า จากการปะทะกันทำให้กลุ่มมุสลิมถูกสังหารไปอย่างน้อย 1 คนเป็นชายชาวอียิปต์ ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย แต่ก็สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 15 คน ในจำนวนนี้คาดว่ามีสมาชิกกลุ่มอัลกออิดะห์รวมอยู่ด้วย 3 คน ทั้งหมดต้องสงสัยว่าให้ความช่วยเหลือแก่มือระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตายที่ลงมือก่อเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว นอกจากนี้ยังเคยได้รับแจ้งเตือนให้ระวังการโจมตีจากกลุ่มอัลกออิดะห์ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีนักท่องเที่ยว เพราะกลุ่มอัลกออิดะห์เคยขู่ว่าจะโจมตีผลประโยชน์ด้านน้ำมันของเยเมน สถานที่ราชการและสถานทูตในกรุงซานา


 


เหตุการณ์โจมตีนักท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นบริเวณโบราณสถานควีนส์ ออฟ ชีบา เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวสเปนเสียชีวิตไปถึง 7 คน รวมทั้งชาวเยเมนอีก 2 คน เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งสถานทูตสหรัฐเคยมีคำเตือนให้นักท่องเที่ยวชาวสหรัฐหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ทางภาคเหนือของเยเมน ซึ่งมักมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกลักพาตัวอยู่บ่อยครั้ง


 


สำหรับการปิดล้อมและจับกุมผู้ต้องสงสัยกลุ่มมุสลิมครั้งนี้ เกิดขึ้นในกรุงซานาและจังหวัดการิบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุระเบิด ขณะที่กองกำลังรักษาความมั่นคงได้วางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับสถานทูตในกรุงซานา สถานที่ราชการ ตลอดจนอารักขาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศ ส่วนทางการสเปนได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเยเมนในการสอบสวนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น


 


 


ปักกิ่งเตรียมกำจัด "สิ่งไม่เจริญหูเจริญตา"ออกจากสถานีรถไฟดิน


ผู้จัดการออนไลน์ -เอเอฟพี-ปักกิ่งมีแผนเริ่มกำจัดคนขอทาน และ "สิ่งไม่เจริญหูเจริญตา"ออกจากสถานีรถไฟใต้ดินที่สำคัญของปักกิ่งในสัปดาห์หน้า ตามแผนจัดระเบียบเมืองเพื่อต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งในปีหน้า เป่ยจิงนิวส์รายงานวันศุกร์(6)


 


โดยทีมเจ้าหน้าที่จะเริ่มตรวจตราสถานีรถไฟสำคัญ 4 แห่งของปักกิ่งในวันจันทร์(9) เพื่อไล่คนขอทาน,พ่อค้าหาบเร่ และนักแสดงข้างทางออกจากสถานีฯ โดยคนจรจัดเหล่านี้ต่างมาอาศัยอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินในช่วงหน้าร้อนและหน้าหนาว


 


"การกระทำของคนเหล่านี้ได้สร้างความวุ่นวายให้แก่สถานีฯ ซึ่งเป็นการการรบกวนผู้โดยสาร และหากใครฝ่าฝืนกฎของสถานีจะถูกส่งตัวไปให้เจ้าหน้าที่" เจ้าหน้าที่ของเป่ยจิง แมส ทรานซิท เรียลเวย์ โอเปอเรชั่น คอร์ปอเรชั่นกล่าว


 


ปัจจุบันจำนวนคนขอทาน,คนไร้บ้าน,นักดนตรีข้างทาง และคนหาบเร่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆในปักกิ่ง ซึ่งผิดจากเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเนื่องจากการปฏิรูปเศรษฐกิจซึ่งสร้างช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างคนรวยและคนจน และการผ่อนคลายการควบคุมสังคมทำให้มีการทะลักเข้าของคนงานอพยพจากพื้นที่ชนบทสู่เมืองใหญ่


 


ทั้งนี้ สื่ออื่นรายงานว่า ปักกิ่งมีแผนขยายศูนย์ควบคุมคนขอทาน,คนหาบเร่,คนขับรถแท็กซี่ผิดกฎหมาย และอื่นๆ เพื่อส่งคนเหล่านี้กลับบ้านเกิด อันเป็นหนึ่งในความพยายามจัดระเบียบเมืองเพื่อต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net