เอเอฟพี รายงานผลวิจัยข้อมูลด้านพฤติกรรมทางเพศของบุคคลทั่วโลกชื่อ "เดอะ โกเบิล เฟส ออฟ เซ็กซ์" สนับสนุนโดยบริษัทผู้ผลิตถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมว่า โดยเฉลี่ยแล้วชาวเอเชียจะหวงแหนพรมจรรย์นานกว่าชาวตะวันตก โดยมาเลเซีย เป็นประเทศที่ผู้คนรักษาพรหมจรรย์ไว้นานที่สุด กล่าวคือจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 22.8 ปี, ตามมาด้วยชาวจีน 22.1 ปี ชาวไทย 20.5 ปี ฮ่องกง 20.2 ปี, ชาวไนจีเรียน 19.7 ปี และชาวญี่ปุ่น 19.4 ปี โดยผลวิจัยระบุด้วยว่า โดยเฉลี่ยแล้วประชากรโลกเริ่มมีเพศสัมพันธ์ตอนอายุ 19.25 ปี
ประชากรของออสเตรีย เป็นกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์เร็วที่สุด คือ 17.3 ปี ตามมาโดยบราซิล 17.4 ปี, เยอรมัน 17.6 ปี, นิวซีแลนด์ 17.8 ปี, ออสเตรเลีย 17.9 ปี และชาวอเมริกัน 18 ปี
แม้ว่าชาวมาเลเซียจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ช้าที่สุดก็ตาม แต่ผลวิจัยพบว่า ชาวมาเลเซียมีความพร้อมที่จะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกสูงที่สุด คือ 41.5 เปอร์เซ็นต์ของผู้ร่วมตอบแบบสอบถาม ตามมาด้วยชาวฮอลแลนด์ อเมริกา และออสเตรเลีย ขณะที่ชาวญี่ปุ่น ไทย และฮ่องกง มีความพร้อมสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ทางเพศครั้งแรกน้อยที่สุด คือน้อยกว่า 13 เปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกันผลวิจัยพบว่ากว่าหนึ่งในสามของชาวไนจีเรีย หรือ 37.5 เปอร์เซ็นต์บอกว่า พวกเขารู้สึกถูกกดดันให้มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงสุดในโลก และว่าประเทศในอัฟริกาตะวันตกมีพลเมืองที่ใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกน้อยที่สุด ขณะที่โปแลนด์และกรีซ คือประเทศที่มีการใช้ถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกสูงสุด.
ที่มา ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์