เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อพิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ขอแขวนเอาไว้และทบทวนการแปรญัตติ 21 มาตรา ทั้งนี้ที่ประชุมได้นำมาตรา 2 และมาตรา 78 ซึ่งเกี่ยวกับการบัญญัติพุทธศาสนาลงในรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาก่อน
"ประสงค์"แจงเหตุไม่บรรจุ
ทั้งนี้ ก่อนการอภิปราย น.ต.ประสงค์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงเกี่ยวกับทั้ง 2 มาตรา ว่า ที่กรรมาธิการไม่ได้บรรจุเรื่องนี้เอาไว้เพราะเหตุผล 2 ประการ คือ 1.ด้านรัฐศาสตร์ เกี่ยวกับการเมือง การปกครอง และ 2.เกี่ยวกับหลักการทางศาสนา โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับความเจริญขึ้น หรือเสื่อมลงของศาสนาตามแนวของพุทธองค์
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ก่อนจะบอกเหตุผลในทางรัฐศาสตร์ แต่ละรัฐประกอบด้วยชนชาติที่มีศาสนา จารีต เชื้อชาติที่ต่างกัน ในทางการเมืองการปกครองไม่บังคับให้ทุกคนต้องใช้วัฒนธรรมมาตรฐานเดียวกัน แต่ให้สิทธิเสรีภาพที่จะเลือกใช้วัฒนธรรมตามความเชื่อที่มีอยู่อย่างเสมอหน้า โดยไม่มีใครมีอภิสิทธิ์เหนือใคร รัฐเป็นองค์กรทางการเมืองของชาติ มีหน้าที่จัดบริหารการปกครองให้เป็นระเบียบเพื่อสวัสดิภาพ และจะไม่ใช้ความเชื่อของใครจัดระเบียบการปกครอง แต่จะใช้กฎหมายบังคับคนในรัฐให้ปฏิบัติในทางเดียวกัน รัฐไม่ได้ใช้พุทธศาสนาเป็นกฎหมายของประเทศ ดังนั้น การนำศาสนาไปบัญญัติจึงไม่สอดคล้องกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ชี้ทรมานตนเป็นที่สุดของต่ำทราม
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนด้านศาสนาพุทธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องความเจริญขึ้น หรือเสื่อมลง ตามคำสอนของพุทธองค์ การที่ศาสนาจะอยู่คู่ประเทศไทยนานแค่ไหน อยู่ที่การเข้าถึงและเข้าใจหลักศาสนา ตามคำสอน และนำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง ไม่ได้ขึ้นกับการบัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งพระพุทธองค์มีพระราชบิดาเป็นกษัตริย์ และมีพระราชอำนาจเต็มที่ในการสั่งการ หรือออกกฎหมายในเรื่องใดก็ได้ แต่พุทธองค์ไม่ได้ฝากศาสนาพุทธที่ตรัสรู้ไว้กับอาณาจักร หรืออำนาจ แต่ฝากไว้กับพุทธบริษัท และตรัสสอนว่า ศาสนาจะเจริญขึ้น หรือเสื่อมลง อยู่ที่พุทธบริษัทที่จะนำคำสอนไปปฏิบัติให้ถูกต้องได้อย่างไร
"พุทธบริษัทที่ทำตามวินัยก็มีมาก แต่ไม่น้อยก็ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามแนวทางของพุทธองค์ พุทธบริษัทบางพวกไม่ปฏิบัติอยู่ในกิจธุระหน้าที่ของตนด้วยซ้ำไป เรามีความต้องการที่จะยกย่องเชิดชูทุกศาสนา และกรรมาธิการเข้าใจถึงความต้องการของคนบางพวกที่ต้องการให้บรรจุเรื่องนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญ ด้วยความเข้าใจว่า เมื่อบรรจุศาสนาจะเจริญยั่งยืนสถาพร แต่ความเข้าใจดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง" น.ต.ประสงค์ กล่าว
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า วันเพ็ญเดือน 8 ที่จะมาถึงในไม่ช้าจะเป็นวันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา และในปฐมเทศนาได้ตรัสในสิ่งที่เกี่ยวกับบรรพชิตว่า ไม่ควรเสพประพฤติ หรือเกี่ยวข้อง 2 เรื่อง คือ 1.เสพกาม 2.เรื่องการทรมานตน พระพุทธองค์ตรัสว่า การประกอบตนให้ลำบากเปล่าคือการพยายามบรรลุจุดที่หมายด้วยการทรมานตน ด้วยอาการต่างๆ เป็นที่สุดของของเลว เป็นที่สุดของของต่ำทราม อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่บัญญัติไว้ในมาตรา 2 ว่า มีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ในมาตรา 78 ก็ขยายความว่า รัฐต้องส่งเสริมคุ้มครองอุปถัมภ์พุทธศาสนาและศาสนาอื่นด้วย แต่ต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนไทยที่เชื่อในศาสนาที่เขายึดถือ ดังนั้น ขอให้ที่ประชุมพิจารณาด้วยเหตุผล
ส.ส.ร.ถกหลากหลายความคิดเห็น
ขณะที่นาย
นาย
กมธ.แจงเหตุผลไม่บรรจุ
นาย
ด้านนายจรัญ ภักดีธนากุล กรรมาธิการยกร่างฯ กล่าวว่า กรรมาธิการจะไม่ยอมให้คนไร้ศาสนามาใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ และเมื่อกรรมาธิการพิจารณาแล้วก็เห็นเป็นเอกฉันท์ว่า กาลสมัยนี้ยังไม่สมควรที่จะบัญญัติเอาไว้ เพราะสิ่งที่ได้จะไม่เท่ากับเสีย
เจิมศักดิ์แฉมี "พล.อ."ล็อบบี้
นาย
นายวิชา มหาคุณ กรรมาธิการยกร่างฯ กล่าวสรุปว่า ตอนนี้ศาสนาพุทธมีหลายนิกาย หากบัญญัติพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ กลุ่มนิกายต่างๆ ก็จะนับว่าเป็นศาสนาประจำชาติด้วยหรือไม่ ดังนั้น อย่าได้ทำความวุ่นวายกับแผ่นดินไทยมากกว่านี้ มิฉะนั้น เราจะไม่เป็นอันดูแลและทำความผาสุกให้ประชาชนชาวไทย
มติ 66 ต่อ 19 ไม่บรรจุใน รธน.
หลังจากการอภิปรายกเกือบ 5 ชั่วโมง ส.ส.ร.จึงปิดการอภิปรายและลงมติ ซึ่งระหว่างลงมติมีการขอร้องให้ลงคะแนนลับ แต่ปรากฏว่านายเจิมศักดิ์คัดค้าน จึงต้องลงคะแนนโดยเปิดเผย ท้ายที่สุด ส.ส.ร.ก็เห็นตามร่างของกรรมาธิการ คือ ไม่บัญญัติเรื่องพุทธศาสนา ด้วยคะแนน 66 ต่อ 19 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง
อย่างไรก็ตาม ในมาตรา 78 ซึ่งเกี่ยวกับแนวนโยบายด้านศาสนาและให้การอุปถัมภ์ศาสนา นาย
พระหน้าสภาโวยแต่เลิกอดข้าว
ภายหลังจากที่ ส.ส.ร.มีมติไม่บัญญัติพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ กลุ่มพระสงฆ์และฆราวาส ประมาณ 500 คน ที่รวมตัวอยู่หน้ารัฐสภา ต่างแสดงความไม่พอใจด้วยการโห่โบกธงธรรมจักร หลังจากนั้นก็นำบาตรจำลองขนาดใหญ่ที่มีป้ายข้อความว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ก่อนนี้ใช้เป็นสัญลักษณ์ในการขอบิณฑบาตถ้อยคำดังกล่าวจาก ส.ส.ร.มาพลิกคว่ำ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ทางกลุ่มจะคว่ำบาตรรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นอกจากนี้กลุ่มพระสงฆ์และฆราวาสที่นั่งรวมตัวอยู่หน้าบาตรได้สวดบังสุกุลและสวดบทกรวดน้ำ สาปแช่ง ส.ส.ร.เสียงส่วนใหญ่ที่ไม่บัญญัติตามข้อเรียกร้อง
พระมหาบุญถึง ชุตินฺธโร ประธานรัฐสภาวนาราม กล่าวว่า ส.ส.ร.เป็นผู้ที่ตาบอด ใจบอด ไม่ยอมรับฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ ดังนั้น ขอคว่ำบาตร ส.ส.ร. เพราะ ส.ส.ร.เป็นคนที่ตายทั้งเป็น หากตายจะไม่ให้เข้าวัด เพราะเป็นคนไม่มีศาสนา ส่วนการเคลื่อนไหวต่อไปคงต้องหารือกันอีกครั้ง โดยผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับภูมิลำเนา ส่วนพระจะกลับไปจำวัด ระหว่างนี้จะหารือว่าจะมีวิธีการเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร โดยในวันที่ ส.ส.ร.ประชุมเพื่อรับร่างรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้า รัฐสภาวนารามจะกลับมาชุมนุมใหญ่อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า ระหว่าง ส.ส.ร.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาตินั้น ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทั้งพระสงฆ์ สามเณร และฆราวาส ได้ประกาศยกเลิกการอดอาหารและน้ำ โดยพระมหาบุญถึง ให้เหตุผลว่า การกลับมาฉันอาหารเป็นเพราะได้อธิษฐานว่า จะปฏิบัติธรรมถึงวันที่ 28 มิถุนายน ไม่ว่า ส.ส.ร.จะบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติหรือไม่
"นรนิติ"วอนอ่านรธน.ให้ดี
ยังคกเป็นประเด็นที่ถกเถียงเกี่ยวกับการจัดเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญของ ส.ส.ร. ที่มีการอ้างว่า ส.ส.ร.พยายามยัดเยียดให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว วันเดียวกัน นาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีบุคคลหลายกลุ่มรณรงค์ไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญ นายนรนิติ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะอ้างได้ แต่อยากแนะนำให้ประชาชนอ่านรัฐธรรมนูญที่เสร็จสมบูรณ์ก่อน ซึ่งหลังจากอ่านแล้วจะลงประชามติอย่างไรก็อยู่ที่ประชาชน
ขณะที่ น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกกลุ่มมัชฌิมา กล่าวว่า ส.ส.ร.พยายามชี้นำประชาชนว่า หากไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้อยากชี้แจงว่า หากประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด
"สนธิ"พบมีชัยหารือเลือกตั้ง
ส่วนความคืบหน้าในการจัดเลือกตั้งทั่วไปหลังนายกรัฐมนตรีระบุว่า จะจัดเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนนั้น เมื่อเวลา 17.30 น. พล.อ.
นายมีชัย กล่าวว่า พล.อ.สนธิ แวะมาคุยเรื่องวันเลือกตั้งโดยได้มานั่งกาปฏิทินนับวันว่าประชามติแล้วรัฐธรรมนูญผ่านประกาศใช้จะมีระยะเวลาจัดเตรียมงานเท่าใด ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งปลายเดือนธันวาคม
ขณะที่ นาย
เรียบเรียงจาก : เว็บไซต์คมชัดลึก