"สนธิ" ลั่นไม่หนี-สู้เลือดอาบ หาก "ณัฐวุฒิ" พาม็อบบุกผู้จัดการ

(ที่มาของภาพ : ผู้จัดการออนไลน์)

 

วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 20.30 น.รายการยามเฝ้าแผ่นดิน [1] [2] ที่มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้ดำเนินรายการได้พูดถึงความเดือดร้อนของประกอบการรายย่อยหรือร้านโชห่วยที่กำลังถูกห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ขยายสาขาออกไปทั่วทุกภูมิภาคจนต้องขาดทุนและทยอยปิดตัวเองลงเกือบหมดแล้ว

 

วอนระงับก่อสร้างห้างยักษ์ หวั่นทำชนชั้นกลางรากฐานสังคมพัง

โดยนายสนธิ กล่าวเรียกร้องให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งระงับการก่อสร้างสาขาของธุรกิจค้าปลีกยักษ์ใหญ่เหล่านั้นเอาไว้ก่อน ในช่วงที่กฤษฎีกากำลังตีความกฎหมายการค้าปลีก ซึ่งหากไม่ทำในช่วงนี้เกรงว่าเมื่อผลการตีความหรือร่างกฎหมายฉบับนี้เสร็จแล้วจะไม่ทันการณ์

 

นายสนธิ ชี้ให้เห็นว่า ความเดือดร้อนของร้านโชห่วย ก็คือความเดือดร้อนของชนชั้นกลาง ซึ่งเคยเป็นฐานอันแข็งแรงของสังคมไทย แต่รัฐไม่เคยให้ความช่วยเหลือ ทั้งที่ประเทศหรือสังคมจะไปได้ก็ต้องอาศัยคนเหล่านี้ด้วย เพราะร้านเหล่านี้มีลูกหลาน ควรให้มึโอกาสได้เป็นผู้ประกอบการด้วยตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้ห้างใหญ่โตอย่างเดียว โดยกระทืบห้างเล็กๆ จนขาดทุนและอยู่ไม่ได้

 

นายสนธิ เรียกร้องให้ร้านโชห่วยที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 3.5 แสนราย ให้รวมตัวกัน และให้แต่ละร้านที่มีสมาชิกในครอบครัวและเครือข่ายละไม่น้อยกว่า 20 คน รวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน สามารถไปต่อรองกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องค้าปลีก หรือตั้งพรรคเองก็ยังได้

 

ลั่นอาสาเป็นหัวหอกสู้เพื่อผู้ค้ารายย่อย

ทั้งนี้ นายสนธิ ได้อาสาขอเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ค้าปลีกรายย่อย เป็นหัวหอกต่อสู้ และคอยเช็กบิลกับพรรคการเมืองนั้นที่ผิดคำพูดหรือคำสัญญา พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้บอยคอตสินค้าของกลุ่มห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในทุกประเภทด้วย

 

นายสนธิ กล่าวอีกว่า แม้วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยหนุนกลุ่มทุนใหญ่ให้ฮุบทุนเล็ก และให้ทุกคนเป็นลูกจ้าง ไม่อยู่ในประเทศไทยแล้ว แต่ระบบทุนนั้นยังอยู่เหมือนเดิม

 

พร้อมกันนี้ยังตั้งข้อสังเกตกรณีธนาคารเอสเอ็มอี ที่ก่อตั้งในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ และอ้างว่าจะปล่อยเงินกู้ให้กับธุรกิจรายเล็กและขนาดกลางนั้น มีหนี้เสียนับหมื่นล้านบาท เวลานี้กำลังมีการตรวจสอบ และพบว่ามีการปล่อยกู้ให้กับเครือญาติและหัวคะแนนของพรรคไทยรักไทย เชื่อว่าอีกไม่เกิน 6 เดือนจะมีคนติดคุกกันบ้าง

 

นายสนธิ ยังได้ตำหนิระบบการศึกษาที่มุ่งเน้นไปสู่การจบออกไปเป็นลูกจ้างบริษัทขนาดใหญ่ แทนที่จะสอนให้ต่อสู้หรือเป็นผู้ประกอบการได้เอง

 

(ที่มาของภาพ : ผู้จัดการออนไลน์)

 

ลั่นไม่หนีสู้เลือดอาบ หากณัฐวุฒิพาม็อบบุกผู้จัดการ

ในช่วงที่สองของรายการ นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ขู่จะนำผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเดินทางมายังสำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและเอเอสทีวีในวันอาทิตย์นี้ว่า อย่าช้า ตนรอมานานแล้ว หากคิดว่าชัยชนะที่ได้รับจากการต่อต้านและร่วมกันต่อสู้กับระบอบทักษิณนั้น ได้มาเพราะโชคช่วย ตนก็ขอให้นายณัฐวุฒิ มาลองได้ ขอให้มาจริงๆ ทั้งนี้การต่อสู้เลือดต้องอาบตัวทั้งตัว ตนก็จะไม่หนีอย่างเด็ดขาด

 

นายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอเพราะไม่พอใจที่เว็บไซต์ผู้จัดการรายงานจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมน้อยว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีอย่างนายณัฐวุฒิ จะกล้าพูดจาหยาบคาย และถ่อยต่อหน้าประชาชนอย่างนั้น ผิดกับการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่เคยมีแกนนำคนใดกล่าวถ้อยคำหยาบคายในระหว่างการปราศรัย ไม่มีใครเอ่ยชื่อด่าพ่อล้อแม่กัน หากจะแรงก็แรงในเนื้อหาในเหตุผลของการขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช จะยอมให้คนเพียงหนึ่งคนมาทำร้ายภาพพจน์ของคนใต้หรืออย่างไร พี่น้องคนใต้ต้องจัดการกันเอง

 

นายสนธิกล่าวว่า อยากให้นายณัฐวุฒิ มาตามคำสัญญาที่ได้ลั่นปากเอาไว้ พี่น้องพันธมิตรฯ จะมาคอยรอรับอย่างดี ขอให้มาจริงๆ โดยวิสัยของนักเลงเข้าไม่ข่มขู่กันหลอก คนจริงเข้าเอาเลือดเดิน ที่สำคัญหากเรื่องทุกอย่างจบลงโดยมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ตนก็ขอให้แกนนำพีทีวีทั้งหมดมีใจแกร่งดังเพชร อย่ากลัวที่จะต้องเดินขึ้นศาลก็แล้วกัน

      

ชี้ชัด "แม้ว" พุ่งเป้าโจมตี "ป๋าเปรม"

นายสนธิ กล่าวว่า วันที่ 29 มิ.ย.2550 นี้ เป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้พูดที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อปีที่แล้วว่า มีคนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญใช้อำนาจสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่ง 1 ปีที่ผ่านมา มีการออกมาชุมนุม ก่อม็อบของกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณและโจมตีพล.อ.เปรม ก็พิสูจน์ชัดเจนว่า ผู้มีบารมีนั้นหมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นการพุ่งเป้าและกล่าวหาที่ร้ายแรง โดยเฉพาะหนังสือปกม่วงของกลุ่มผู้ชุมนุม ยิ่งดูไม่เข้าท่า ไม่มีมารยาทและสัมมาคารวะต่อบุคคลที่มีคุณูปการต่อประเทศ อีกทั้งท่านยังรับใช้เบื้องพระยุคลบาทมาตั้งแต่ครองยศร้อยตรี ต่อมาได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จนมาเป็นองคมนตรี ซึ่งตำแหน่งนี้ เป็นตำแหน่งที่ได้จากการรับใช้เบื้องยุคลบาทมาอย่างต่อเนื่อง การไปกล่าวร้ายอย่างผิดๆ จาบจ้วงไม่ให้เกียรติอย่างหยาบคาย ทั้งคำพูดและอาการ เป็นเรื่องที่ให้อภัยกันไมได้

 

ทั้งนี้ การที่นายจักรพภพ เพ็ญแข แกนนำ นปก. เดินทางไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ พล.อ.เปรม นั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่สังคมไทยรับไม่ได้ หากดูจากกริยาในโทรทัศน์ยิ่งชัดเจน พยายามแอบอ้างว่ารักในหลวง แต่วิธีการไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวมันส่อให้เห็นว่า เหมือนสัตว์นรกมากกว่ามนุษย์ อยากให้จำหน้าจำตาคนเหล่านี้ให้ดี อย่างไรก็ตามชื่นชมกับท่าทีของ พล.อ.เปรม เป็นอย่างมาก ท่านใจเย็น และมีความเมตตามากที่ไม่เอาเรื่องกับคนพวกนี้ แต่อยากเตือนสติแกนนำ นปก.ว่า ที่ไปแจ้งความกล่าวหาพล.อ.เปรมและ คมช.ว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น พวกเขานั้นแหละที่กำลังเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะพวกเขาด่าพล.อ.เปรมอยู่ทุกวัน ซึ่งเป็นการกระทบกระเทือนถึงสถาบันด้วย

 

"ในสังคมไทยจะมีกลุ่มคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่เป็นอวิชชา ไม่มีอุดมการณ์ ยิ่งกว่าผีห่าซาตาน ชาติ บ้านเมือง แผ่นดินที่ให้เกิด คนพวกนี้ไม่คิดถึง คิดถึงแต่เงินของคนบางคนที่ส่งตรงมาจากเมืองนอก ให้เป็นท่อน้ำเลี้ยง อย่างที่คุณคำนูณ สิทธิสมาน ขนานนามให้เป็นม็อบหลอกรับประทาน รับเงินรับทองมาชุมนุมอย่างเห็นได้ชัด คนพวกนี้เป็นเครื่องมือให้คนอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อล้มชาติ พระมหากษัตริย์ วันนี้จึงชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เห็นด้วยกับสถาบัน นี่คือข้อเท็จจริงและสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ทำให้คนดีที่ทำประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างท่านพล.อ.เปรมฯ ต้องมาแปดเปื้อนกับคำพูดที่เลวทรามต่ำช้า"

 

ปลุกพลังเงียบรวมตัวลานพระรูป 22 ก.ค.นี้

นายสนธิ กล่าวว่า วันที่ 22 ก.ค.เวลา 07.00 น. ขอให้พี่น้องทั่วประเทศพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อเหลืองมาทำบุญประเทศที่ลานพระบรมรูปทรงม้า มาร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 999 รูปให้ประเทศ มาถวายพระพรให้กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ และให้กำลังใจพล.อ.เปรม และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มาแสดงพลังให้คนถ่อยได้เห็น มาโดยไม่ต้องให้ใครไปว่าจ้าง เรามาสร้างพลังเงียบ สร้างแนวร่วม ทุกสาขาอาชีพ เพื่อแสดงพลังประชาชนที่แท้จริง มาต่อยอดจากครั้งที่แล้ว อย่างไรก็ตามหากมาไม่ได้ก็ให้สวมใส่เสื้อเหลืองไปร่วมกันทำบุญประเทศที่หน้าศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงให้คนเหล่านั้นเห็นพลังเงียบ เห็นพลังจากประชาชนทุกส่วน แสดงให้ม็อบถ่อยที่อยู่สนามหลวงได้เห็น ไล่ให้คนเหล่านั้นออกไป แล้วเรามาเชิดชูคนดีในสังคมร่วมกัน

 

นายสนธิ กล่าวต่อว่า บางครั้งตนยังไม่เข้าใจท่าทีของคนบางคน โดยเฉพาะนายวีระ มุสิกพงศ์ ที่อดีตเคยเดือดร้อนมาขอให้ตนช่วยเหลือเรื่องเงิน ซึ่งตนก็ช่วยไป จากนั้นก็ติดตามข่าวของนายวีระอยู่ตลอด กระทั้งเจ้าตัวตัดสินใจเข้าสู่สนามการเมืองครั้งแรกในนามพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากนั้นถูกจับในข้อหาหมิ่นพระบรมราชานุภาพ และได้รับพระราชทานอภัยโทษเมื่อปี 2531 จากการช่วยเหลือของ พล.อ.เปรม ตนจึงไม่เข้าใจว่า เหตุใดเมื่อมีการพูดพาดพิงและจาบจ้วงถึง พล.อ.เปรม บนเวทีสนามหลวง ทำไมนายวีระ ไม่แสดงอะไรออกมาบ้าง

 

สนธิเย้ยม็อบรับจ้าง ท้าทายให้บุกเอเอสทีวี ลั่นเตรียมรองรับอย่างดี

นายสนธิ ยังกล่าวถึงการชุมนุมของม็อบสนามหลวงว่า เมื่อคืนวันที่ 28 มิ.ย.นั่งรถยนต์ไปบริเวณที่มีการชุมนุมประมาณ 23.30 น.ภาพที่ตนเห็นคือ คนนั่งจับกลุ่มกันอยู่จำนวนหนึ่ง เห็นหลายคนเดินใส่รองเท้าแตะ มือหนึ่งกำแบงก์ร้อยเดินออกมาจากที่ชุมนุม เป็นภาพที่เห็นได้บ่อยและชัดเจน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนเดินมาขึ้นรถกระบะที่จอดรถรอยู่บริเวณรอบๆ สนามหลวง ขณะเดียวกันบางส่วนก็นั่งๆ นอน อยู่ในสนามหลวง สรุปทุกอย่างได้อย่างชัดเจน

 

อย่างไรก็ตาม นายสนธิ ยังฝากเตือนแกนนำม็อบพีทีวี หากคิดจะนำผู้ชุมนุมมายังสำนักงานเอเอสทีวี ก็ให้แนวหน้าที่รับเงินไปเป็นจำนวนมากๆ มา อย่าให้คนที่รับเงินเพียงร้อยสองร้อยเดินออกหน้า เนื่องจากหากมีอะไรตนรู้สึกสงสาร และเป็นห่วง ทั้งนี้ตนได้เตรียมการรองรับไว้เป็นอย่างดีแล้ว ขอให้มากันจริงตามที่ประกาศไว้ก็แล้วกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท